ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พรเดชา สุขารมณ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
JBot (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนเนื้อหาอาจละเมิดลิขสิทธิ์ หรือไม่เป็นสารานุกรม ไม่ใช่? แจ้งที่นี่
บรรทัด 58:
 
==ผลงาน==
5 ปีก่อน ผู้ชายคนนี้บินกลับมาเมืองไทย พร้อมกับงานดนตรีที่คุกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของความอบอุ่น และโรแมนติก ที่เล่าเรื่องราวผ่านดนตรีแนว Easy Listening
"Revolution of Love" คือชื่อของงานเพลงชุดดังกล่าว ที่ถือเป็นอัลบัมชุดแรกในชีวิต และถือเป็นใบเบิกทางสู่การเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนถนนคนดนตรี กระทั่งวันนี้ แจ๊ค สุขารมณ์ กลับมาอีกครั้งกับ
"Soul Searching"อัลบัมเดี่ยวชุดที่ 2 ของเขาภายใต้ร่มเงาบ้านหลังใหม่ อย่าง จีราฟ เร็คคอร์ด ค่ายเพลงในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ
'' "จริงๆ ผมไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ก็ยังทำงานเพลงอยู่ เพียงแต่เป็นการทำงานเบื้องหลังมากกว่า แล้วก็ทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนแพทย์ที่ศิริราช ซึ่งปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วครับ"''
แจ๊ค เล่าถึงการใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่ผ่านมาของเด็กที่ครั้งหนึ่งถูกเรียกว่า "เด็กหลังห้อง" นั่นก็เพราะพฤติกรรมในวัยเด็ก ก่อนที่กาลเวลาจะหล่อหลอม และบอกให้เขาตั้งเข็มทิศชีวิตตัวเองเสียใหม่
'' "คงเป็นเพราะผมถูกส่งไปเรียนที่อเมริกาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ต้องผ่านอะไรมากมาย ต้องช่วยเหลือตัวเอง"''
แจ๊คให้เหตุผลที่ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับของเพื่อนต่างชาติ ด้วยผลการเรียนที่เจ้าตัวบอกว่า วันนี้ผนังห้องนอนไม่มีที่ว่างสำหรับแขวนรางวัลอีกแล้ว ขณะเดียวกัน ในเรื่องของการเล่นดนตรี
แจ๊คเฉลยให้ฟังว่า เริ่มจากการสนองตัณหาของตัวเองมากกว่า
'' "สิ่งที่ผมทำมาทั้งหมด มันเริ่มจากความใจแตกทั้งนั้น โดยเฉพาะเรื่องดนตรี เพราะตอนที่อยู่อมเริกา ผมเห็นพี่ฮาร์ท (สุทธิพงษ์ ทัดพิทักษ์กุล) กับพี่โจ๋ (วงซีสเท็มโฟร์)
เขาเล่นเปียโนจีบสาวอยู่ในโรงแรม ผมเห็นแล้วรู้สึกว่า พี่เขาเจ๋งมาก ก็เลยหัดเล่นดนตรีด้วยตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา"''
เวลานั้นแจ๊คใช้เวลาฝึกฝน และหาประสบการณ์ทางดนตรีอยู่พักใหญ่ กระทั่งเมื่อกลับมาเมืองไทย เขาไม่เพียงแต่จะหอบดีกรีปริญญาตรีด้านวิศวกรรม และปริญญาโทด้าน Biomedical Engineering
กลับมาเท่านั้น หากแต่ยังหอบประสบการณ์ทางด้านดนตรีมาด้วยความมั่นใจ
'' "ตอนนั้นประมาณว่า อยากขอระบายมากกว่า เพราะหลายคนมองว่า ผมเป็นลูกคนรวยแล้วมาออกเทป โดยไม่รู้ว่าชีวิตที่อเมริกาของผมเป็นยังไง
และถ้าผมรวยจริงๆ ก็ไปจ้างคนที่เป็นมืออาชีพมาทำให้ แล้วผมก็แค่ร้องอย่างเดียวไม่ดีกว่าหรือ"''
แจ๊ค ระบายความรู้สึกที่ผ่านมา ที่ทำให้อัลบัมชุดแรกของเขา แม้จะมียอดขายไม่เปรี้ยงเปร้าง แต่ก็มีรางวัลจากหลายๆ สถาบัน เป็นเครื่องการันตีในความสามารถของเขา
'' "ในอัลบัมชุดแรก ผมจะค่อนข้างบ้าในเรื่องของภาคดนตรีมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปทำให้ผมรู้ว่า การทำเพลงในเมืองไทย ต่อให้คุณทำดนตรีออกมาดีขนาดไหน
เล่นกีตาร์ได้เหมือนเสก โลโซ แต่เนื้อเพลงไม่โดนใจคนฟัง มันก็เปล่าประโยชน์"''
ซึ่งคำว่า "เนื้อเพลงไม่โดนใจคนฟัง" ในที่นี้ของแจ๊ค หมายถึง การที่เขาจะต้องเรียนรู้ และฝึกฝนเทคนิคการเขียนเพลงผ่านประสบการณ์การแต่งเพลงประกอบหนังโฆษณา และละคร
'' "อย่างเพลงรอ ซึ่งอยู่ในอัลบัมชุดแรกของผม ถึงวันนี้ผ่านมา 5 ปีแล้ว ดีเจหลายคนยังเอาไปเปิดในรายการเขาอยู่ ซึ่งพอลองวิเคราะห์ดูก็ปรากฏว่า
มันมีประโยคที่โดนใจอยู่กิ๊กหนึ่งคือ จะรอ ฉันจะรอเพียงเธอ จะรอให้ดาววิ่งผ่าน ซึ่งตอนที่แต่งเพลงนี้ ผมก็คิดออกมาแบบเด็กๆ"''
ดังนั้น เมื่อมาถึงอัลบัมชุดนี้ (Soul Searching) แจ๊คจึงไม่พลาดที่จะปรับปรุงข้อบกพร่องของตัวเอง โดยมี 2 โปรดิวเซอร์ระดับหัวกะทิของแกรมมี่ฯ อย่าง นิติพงษ์ ห่อนาค
และสมชาย ขำเลิศกุล เป็นที่ปรึกษา และยังคงรักษาคอนเซ็ปต์การเป็นผู้ชายโรแมนติกของเขาเอาไว้
'' "เนื้อร้องในอัลบัมชุดนี้ ผมจะใช้คำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกรุนแรงก็ไม่ได้ อย่างคำว่า ตาย ถ้าเป็นเพลงร็อกคงไม่มีปัญหา แต่ด้วยภาพผู้ชายโรแมนติกของผมที่ติดมาจากอัลบัมชุดแรก
ทำให้ภาษาที่ใช้จะต้องดูสละสลวย ซึ่งหลังจากที่ผมเอาเพลงทั้งหมดมาให้พี่ฉ่าย (สมชาย ขำเลิศกุล) ฟัง แกก็บอกว่า สีสันมันขาดหายไปเยอะ เพราะภาพรวมของเพลงที่ออกมา
มันเป็นสไตล์ของผมไปหมด วิธีการเรียบเรียงดนตรีก็ยังเป็นแบบฝรั่ง ไม่มีอะไรที่เป็นป๊อปแบบที่คนไทยชอบ ส่วนพี่ดี้ (นิติพงษ์ ห่อนาค) ก็บอกว่า ดนตรีของผมเป็นฝรั่งไป
เดี๋ยวจะไม่โดน เสียดายเนื้อร้องหวะ เพราะผมทำออกมาดีอยู่แล้ว ดังนั้นบางเพลงก็เลยต้องมีการไหว้วาน ให้คนอื่นมาช่วยเรียบเรียงดนตรีให้ใหม่"''
แจ๊ค ร่ายยาวถึงภาพรวมของการทำงาน ที่น่าจะตอบโจทย์คนฟังได้ดีกว่าอัลบัมชุดที่ผ่านมา ก่อนจะทิ้งท้ายถึงการมีโอกาสได้ทำงานภายใต้หลังคาบ้านหลังใหม่อย่าง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ ว่า
'' "เจ๋งมากๆ เพราะอย่างน้อยผมก็ได้ระบายความสุขของผมออกมา และจะมีสักกี่คนที่ได้โอกาสดีๆ แบบนี้ ทั้งที่มีคนที่เก่งกว่าผมอีกมากมาย
ดังนั้น เมื่อผมมีโอกาสได้มาอยู่ตรงนี้ก็ต้องใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ ส่วนทำออกมาแล้วจะขายได้หรือไม่ได้ ดังหรือไม่ดังนั่นยังไม่สำคัญเท่ากับการที่เราได้ทำเพลงเอง
ได้บอกถึงสิ่งที่เราคิดอยู่ในใจ และแม้ว่า จะมีคนแค่ร้อยคนที่ร้องเพลงของผมได้ แต่ผมก็แฮปปี้ ดีกว่าแค่การเป็นคนถ่ายทอดอย่างเดียว"
''
===อัลบั้มเพลง===
* ''Revolution Of Love'' (2541)
* ''Soul Searching'' (2547)
- เพลง MAUNG-TUR-HEN-ROW- (WE'RE ALL I CAN SEE)
- เพลง TUR-TAE-POO-DIOW- (YOU'RE THE ONE)
- เพลง ก่อนหลับตา (I CLOSE MY EYES)
- เพลง คืนที่แตกต่าง (DIFFERENT NIGHT)
- เพลง ดาว (STARS)
- เพลง ถ้าเธอลองสัมผัส (TOUCH)
- เพลง เธอคนนี้ (SHE)
- เพลง ประตู (THE DOORS)
- เพลง พรุ่งนี้ (TOMORROW)
- เพลง ไม่มีแล้ว (NOT ANYMORE)
- เพลง อย่างน้อยก็ในคืนนี้ (MAY I TONITE)
 
== อ้างอิง ==