ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประชาธิปไตยแนวเจฟเฟอร์สัน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
CommonsDelinker (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ภาพ Rembrandt_Peale-Thomas_Jefferson.jpg ด้วย Thomas_Jefferson_by_Rembrandt_Peale,_1800.jpg จากวิกิพีเดียคอมมอนส์
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ใช้ปีคศ|width=240px}}
[[ไฟล์:Thomas_Jefferson_by_Rembrandt_Peale,_1800.jpg|240px |thumb|right|ภาพเหมือนของ[[ทอมัส เจฟเฟอร์สัน]]<br>โดย[[Rembrandt Peale|แรมบรันด์ท พีล]] ค.ศ. 1800]]
'''ประชาธิปไตยแนวเจฟเฟอร์สัน''' ({{lang-en|Jeffersonian democracy}}) เป็นประเด็นของจุดประสงค์ทางการเมืองต่างๆ ที่ตั้งตามชื่อประธานาธิปดี[[ทอมัส เจฟเฟอร์สัน]] ประชาธิปไตยแนวเจฟเฟอร์สันมีอิทธิพลเป็นอันมากต่อการเมืองอเมริกันระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1800 จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1820 และเป็นแนวคิดที่ตรงกันข้ามกับ[[Jacksonian democracy|ประชาธิปไตยแนวแจ็คสัน]]ที่มามีอิทธิพลต่อจากแนวเจฟเฟอร์สัน บุคคลสำคัญๆ ที่สนับสนุนรายละเอียดของประชาธิปไตยแนวนี้คือตัวเจฟเฟอร์สันเอง, [[Albert Gallatin|แอลเบิร์ต กาลลาติน]], [[John Randolph of Roanoke|จอห์น แรนดอล์ฟ โรอันโนค]] และ [[Nathaniel Macon|แนธาเนีย เมคอน]]
 
หัวใจของประชาธิปไตยแนวเจฟเฟอร์สันมีลักษณะที่ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ข้างล่างที่กลุ่มเจฟเฟอร์สันได้ทำการเสนอในรูปของสุนทรพจน์และกฎหมายต่างๆ:
 
* คุณค่าทางการเมืองหลักของอเมริกาคือระบบ[[ประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน]]; พลเมืองมีหน้าที่ที่จะช่วยเหลือรัฐและต่อต้านการฉ้อโกงโดยเฉพาะจากระบบ[[monarchism|กษัตริย์นิยม]] และ [[aristocracy|ระบบเจ้าขุนมูลนายอภิชนาธิปไตย]]<ref> Banning (1978) pp 79-90</ref>
* เกษตรกรเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของการทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีที่เป็นอิสระจากอิทธิพลของการฉ้อโกงจากรัฐบาลเมือง นโยบายของรัฐบาลก็ควรจะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์ต่อเกษตรกร นักลงทุน, นายธนาคาร และอุตสาหกรรมทำให้เมืองเป็นสลัมแห่งการฉ้อโกง และเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง<ref> Elkins and McKitrick. (1995) ch 5; Wallace Hettle, ''The Peculiar Democracy: Southern Democrats in Peace and Civil War'' (2001) p. 15</ref>
* พลเมืองอเมริกันมีหน้าที่เผยแพร่สิ่งที่เจฟเฟอร์สันเรียกว่า “จักรวรรดิแห่งเสรีภาพ” ให้โลกรู้ แต่ขณะเดียวกันก็ควรจะหลีกเลี่ยง “การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรกับต่างประเทศ” (Non-interventionism)<ref> Hendrickson and Tucker. (1990)</ref>
* รัฐบาลแห่งชาติเป็นสถาบันที่จำเป็นจะต้องมีเป็นอย่างยิ่งเพื่อเป็นองค์กรในการรักษาผลประโยชน์ร่วมกัน, พิทักษ์ และ รักษาความปลอดภัยให้แก่พลเมือง, ชาติ และ ประชาคม แต่ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีการเฝ้าดูและควบคุม และ จำกัดสิทธิรัฐบาลแห่งชาติอย่างใกล้ชิด ประเด็นดังกล่าวทำให้[[Anti-Federalism|ผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อระบบสหพันธรัฐ]] (Anti-Federalism) ระหว่าง ค.ศ. 1787 ถึง ค.ศ. 1788 ต่างก็หันมาถือปรัชญาเจฟเฟอร์สัน<ref> Banning (1978) pp 105-15</ref>
* กำแพงแห่ง[[Separation of church and state|การแยกสถาบันศาสนาและสถาบันการเมืองฝ่ายอาณาจักรออกจากฝ่ายศาสนจักร]]เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแยกสถาบันศาสนาจากการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการปกครองโดยสหพันธรัฐ, รัฐบาลเองก็เป็นอิสระจากความขัดแย้งของสถาบันศาสนา และ สถาบันศาสนาเองก็เป็นอิสระจากการฉ้อโกงหรือการเข้ายุ่งเกี่ยวจากสถาบันทางการปกครอง<ref>Philip Hamburger, ''Separation of church and state'' Harvard University Press, 2002. ISBN 0674007344 OCLC: 48958015 </ref>
* รัฐบาลของสหพันธรัฐต้องไม่ละเมิด[[Liberty|สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล]] (Individual liberty)ซึ่ง [[United States Bill of Rightsรัฐบัญญัติสิทธิแห่งสหรัฐอเมริกา|รัฐบัญญัติสิทธิ]] (Bill of Rights) เป็นหัวใจสำคัญของปรัชญาดังกล่าว<ref>Robert Allen Rutland; ''The Birth of the Bill of Rights, 1776-1791'' University of North Carolina Press, (1955)</ref>
* รัฐบาลของสหพันธรัฐต้องไม่ละเมิด[[States' rights|สิทธิของรัฐ]]ในเครือสหพันธรัฐ เจฟเฟอร์สันวางรากฐานปรัชญาดังกล่าวในการเขียน “[[Kentucky and Virginia Resolutions|ปณิธานเคนทักกีและเวอร์จิเนีย]]” (Kentucky and Virginia Resolutions) อย่างลับๆ ในปี ค.ศ. 1798<ref> Banning (1978) pp 264-66</ref>
* [[เสรีภาพในการแสดงออก]] และ [[Freedom of the press|เสรีภาพในการตีพิมพ์ของสื่อ]]เป็นมาตรการอันที่ดีที่สุดในการป้องกันการกดขี่ข่มเหงพลเมืองโดยรัฐบาลของตนเอง การละเมิดปรัชญานี้ของนักสมาพันธ์นิยมโดยการบังคับใช้ “[[Alien and Sedition Acts|รัฐบัญญัติต่างด้าวและปลุกระดม]]” ที่ประกอบด้วยรัฐบัญญัติสี่ฉบับที่ได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภาสมัยที่ห้าในปี ค.ศ. 1798 กลายเป็นตัวปัญหาสำคัญ<ref> Banning (1978) pp 255-66-3</ref> รัฐบัญญัติสี่ฉบับตามความเห็นของผู้ต่อต้านเห็นว่าเป็นการก่อให้เกิดความอยุติธรรมโดยรัฐบาลต่อพลเมืองที่เป็นต่างด้าวและริดรอนสิทธิพลเมืองที่ทำการตีพิมพ์เอกสารที่รัฐบาลถือว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อนโยบายของรัฐบาล
* [[standing army|กองทหารประจำ]]และรัฐนาวีเป็นอันตรายต่อ[[เสรีภาพ]]และเป็นสิ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยง การแก้ปัญญหาโดยการใช้[[economic coercion|การต่อรองบีบบังคับทางเศรษฐกิจ]] (economic coercion) เช่น[[Embargo|การห้ามสินค้าเข้าออก]]<ref>[http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php ขยายความจากนิยามของศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน]</ref> (Embargo)<ref> Banning (1978) pp 292-3</ref> อาจจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
*วัตถุประสงค์ของการเขียน[[United States Constitution|รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา]]ขึ้นก็เพื่อรับรองเสรีภาพของพลเมือง การเขียนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญเป็นไปตามหลักและกฎเกณฑ์ แต่ขณะเดียวกันก็ “ไม่มีสังคมใดที่สามารถเขียนรัฐธรรมนูญที่คงอยู่อย่างถาวรหรือแม้แต่กฎหมายที่คงอยู่อย่างถาวรได้ โลกนี้จะเป็นของชนรุ่นต่อไปที่ยังมีชีวิตอยู่เสมอ”<ref>Letter to James Madison, September 6, 1789 | http://odur.let.rug.nl/~usa/P/tj3/writings/brf/jefl81.htm </ref>
 
== อ้างอิง ==
บรรทัด 33:
 
== ดูเพิ่ม ==
* [[United States Constitution|รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา]]
 
{{เรียงลำดับ|ประชาธิปไตยแนวเจฟเฟอร์สัน}}
[[หมวดหมู่:ประชาธิปไตย]]
[[หมวดหมู่:ทอมัส เจฟเฟอร์สัน]]