ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฮาส์ (แนวดนตรี)"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 35:
[[ไฟล์:Paradise garage.jpg|thumb|right|เดอะ พาราไดส์ การาจ ไนท์คลับในมหานครนิวยอร์ก]]
แนวดนตรีเฮาส์เป็นผลผลิตที่พัฒนามาจาก[[ดิสโก้]]ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง[[โซล]], [[ริทึมแอนด์บลูส์|อาร์แอนด์บี]]และ[[ฟังก์]]เข้ากับข้อความการเฉลิมฉลองรื่นเริงที่สื่อถึงการเต้นรำ ความรักและเพศ ทั้งหมดนี้ถูกรวมเข้าด้วยกันด้วยการจัดการแบบซ้ำๆกับเสียงเบสอันสม่ำเสมอของดรัมบีท การรวมเสียงในเพลงดิสโก้บางเพลงนั้นสร้างขึ้นจากเครื่องสังเคราะห์เสียงและดรัมแมชชีน การประพันธ์เพลงบางบทก็เป็นแบบอิเลคโทรนิคเกือบทั้งหมดดังตัวอย่างของ จอร์จิโอ โมโรเดอร์กับผลงานในปลายทศวรรษที่ 1970 เช่นเพลงฮิตของดอนนา ซัมเมอร์ชื่อ 'ไอ ฟีล เลิฟ'จากปี 1977 และอีกหลายผลงานดิสโก้-ป็อปของ เดอะ ไฮ-เอ็นอาร์จี กรุ๊ป ไลม์ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980
เฮาส์ยังได้รับอิทธิพลจากเทคนิคการมิกซ์และการตัดต่อซึ่งถูกค้นพบโดย ดีเจดิสโก้ โปรดิวเซอร์และวิศวกรเสียงอย่างวอลเตอร์ กิบบอนส์, ทอม มูล์ตัน, จิม เบอร์เกส, แลร์รีย์ ลีแวน, รอน ฮาร์ดี้, เอ็มแอนด์เอ็มและอีกหลายๆคนที่ได้สร้างการจัดการเคาะของการบันทึกเพลงดิสโก้ที่มีอยู่ให้ซ้ำได้มากขึ้นและยาวขึ้น ส่วนโปรดิวเซอร์ของเฮาส์ในยุคเริ่มแรกอย่างแฟรงกี้ นักเกิ้ลส์นั้นได้สร้างสรรค์การประพันธ์ดนตรีที่คล้ายกันจากการสแครชโดยใช้แซมเพลอร์, เครื่องสังเคราะห์เสียง, ซีเควนเซอร์และดรัมแมชชีน
บรรทัด 139:
นายกเทศมนตรีของชิคาโก ริชาร์ด เอ็ม ดาเล่ย์ประกาศให้วันที่ 10 สิงหาคม 2005 เป็นวัน'รวมพลเฮาส์'เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองแนวดนตรีเฮาส์ครบ21ปี (ในความเป็นจริงคือ21ปีแห่งการก่อตั้งแทร็กซ์ เร้กคอร์ท ) จากการประกาศครั้งนี้ได้ทำให้ชิคาโกได้เป็นที่จดจำว่าเป็น'ต้นกำเนิดของแนวดนตรีเฮาส์'และที่ว่าผู้สร้างสรรค์แนวเพลงนี้ขึ้นมา'ได้รับแรงบันดาลใจจากความรักที่มีต่อเมืองกับความฝันที่เชื่อว่าสักวันเพลงของพวกเขาจะกลายเป็นข้อความแห่งสันติภาพและการรวมเป็นหนึ่งเดียวของโลก' ดีเจอย่างแฟรงกี้ นักเกิ้ลส์, มาแชล เจฟเฟอร์สัน, พอล จอห์นสันและมิกกี้ โอลิเวอร์ต่างฉลองการประกาศในครั้งนี้ที่ เดอะ ซัมเมอร์ แดนซ์ ซีรีส์ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นโดยกระทรวงวัฒนธรรมของชิคาโก
กลางทศวรรษที่ 2000 ประเภทเพลงผสมอย่าง [[
เมื่อถึงช่วงปลายทศวรรษที่ 2000 แนวดนตรีเฮาส์ยังคงมีอิทธิพลต่อเพลงในคลับทั่วโลก ทั้งยังได้เห็นการกลับมาของเฮาส์ในกระแสแนวดนตรีหลักกับงานของโปรดิวเซอร์อย่าง จัสติน, เดวิด กูเอ็ตต้าและเบนนี่ บีนาซซิที่ทำให้เพลงเฮาส์ที่เบาขึ้น เจือจางลง มีความรู้สึกแบบยูโรแดนซ์กลับเข้ามาติดอเมริกัน ท๊อป 40 ชาร์ต ด้วยแนวดนตรีที่มั่นคงแต่เบาบางทำให้ประสบความสำเร็จท่ามกลางกระแสแนวดนตรีหลัก การพัฒนาทางแนวความคิดโดยโปรดิวเซอร์ของเฮาส์ได้ส่งผลกระทบไปยังโลกแห่งป๊อปและฮิพฮอพด้วย ด้วยการเปิดตัวของโวคอเดอร์และออโต้ทูนที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยดาฟ พังค์รวมทั้งการเป็นที่นิยมโดยทั่วไปของสถานีทำเพลงแบบดิจิตอลและเทคนิคการผลิตแบบใหม่อย่างไซด์เชนนิ่งและเฮฟวี่ คอมเพรสชั่น เฮาส์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมทางดนดรีของอเมริกามากขึ้นและมากขึ้น
|