ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โคลงทวาทศมาส"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Boonhome (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{รอการตรวจสอบ}}
{{ตรวจแก้รูปแบบ}}
{{ต้องการอ้างอิง}}
 
'''ทวาทศมาส''' แปลว่า สิบสองเดือน เป็น[[วรรณกรรม]]ไทยสมัยอยุธยา แต่งด้วย[[โคลง]]ดั้นวิวิธมาลี ทำนองนิราศความพิศวาสเป็นอย่างเอกเรื่องหนึ่ง เข้าใจว่าจะมีหลายท่านนิพนธ์ อาทิ [[พระเยาวราช]] [[ขุนพรหมมนตรี]] [[ขุนศรีกวีราช]] [[ขุนสารประเสริฐ]] เป็นต้น (บางตำราว่ามีเท่านี้ บางตำราว่ามากกว่านี้ แต่ใน[[นิราศนรินทร์]]กลับว่า "สามเทวษ ถวิลแฮ" ซึ่งแปลว่า "มีสามท่าน")
 
ที่ว่าประดิษฐการใหม่ของวงการ อยู่ที่โคลงพรรณาพรรณนาความอาลัยรัก ซึ่งใช้ฤดูกาลเป็นพื้นฐานแห่งการพัฒนา เช่น เมื่อถึงเดือนแปดก็กล่าวถึง [[การเข้าพรรษา]] กวีจะแต่งถึงการทำบุญ แต่มิวายจิตใจหวนระลึกถึงนางอันเป็นที่รัก
 
(ต่อจากนี้เป็นข้อความในหนังสือประวัติวรรณคดีไทย ของ[[เปลื้อง ณ นคร]])
 
<center>
{{โคลงสี่สุภาพ|กรจบบทมาศไท้|ธาศรี ศากยแฮ|หัตถ์บังคมฟูมไนย|เลือดย้อย|บวงสรวงสุมาลี|นานไฝ่ สมแฮ|เดือนใฝ่หาละห้อย|ใฝ่หา}}
{{โคลงสี่สุภาพ|รายนุชเป็นเนตรล้า|เป็นองค พี่แม่|จับจึงมาข่มเข็ญ|ขึ้นไส้|รลวงพิไลจง|จักแม่ ดยวแม่|เดือนแปดแปดยามไหไห้|ร่ำโหย}}
 
</center>
ในการนิพนธ์นั้น เริ่มด้วยการไหว้พระพรหม พระนารายณ์ เทพยดา พระมหากษัตริย์ แล้วเริ่มกล่าวถึงนางที่รัก อันต้องจากไกล แล้วพรรณาอาลัยพรรณนาอาลัย ตั้งแตเดือนตั้งแต่เดือน 5 เป็นลำดับไปจนถึงเดือนสิบสอง การพรรณานาพรรณนารักนั้นเคล้าไปกับอากาศธาตุและเหตุการณ์ต่าง ๆ อันเกิดขึ้นในเดือนนั้น ๆ เมื่อครบสิบสองเดือนแล้วจึงพรรณาพรรณนาพระเกียรติยศ กล่าวถวายพระพรและแสดงความมุ่งหมายในการนิพนธ์
 
โดยรี่นหลัง ๆ จะกล่าวกระบวนการพรรณนาอาลัยรักนับว่า บทนิพนธ์นี้เป็นสูงทางกวีรส คือ กวีที่มีความนัยอันพิศวาศ ซึ่งเป็นแบบอย่างให้ผู้นิพนธ์ต่อมากวีรุ่นหลัง นำไปใช้
ถ้อยคำอันเป็นโบราณหลายคำ และ ภาษาอื่น เช่น เขมร บาลี สันสกฤต จึงยากที่จะเข้าใจได้อย่างถูกต้อง นอกจากจะสันนิษฐานเอา
 
ด้านสำนวนโวหารมีความยอดเยี่ยม แม้จะมีถ้อยคำอันเป็นโบราณหลายคำ และ ภาษาอื่น เช่น เขมร บาลี สันสกฤต จึงยากที่จะเข้าใจได้อย่างถูกต้อง นอกจากจะสันนิษฐานเอา
 
[[หมวดหมู่:วรรณคดีประเภทโคลง|ทวาทศมาส]]