ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดพระสมุทรเจดีย์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ScorpianPK (คุย | ส่วนร่วม)
{{สั้นมาก}}
Nantadej (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{สั้นมาก}}
 
วัดพระสมุทรเจดีย์ ม.หมู่ 3 บ้านเจดีย์ ตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นวัดราษฎร์
ฝั่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ มีผู้คนมาเคารพสักการะบูชา และยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสมุทรปราการ ผู้คนทั่วไปจะเรียกกันติดปากว่า พระเจดีย์กลางน้ำ เนื่องจากเดิมบริเวณที่ก่อสร้างพระสมุทรเจดีย์เป็นเกาะที่มีน้ำล้อมรอบ ต่อมาชายตลิ่งฝั่งขวาของแม่น้ำตื้นเขินงอกออกมาเชื่อมติดกับเกาะอันเป็นที่ตั้งพระเจดีย์
สมุทรปราการ เป็นเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตัวเมืองเก่าอยู่แถบอำเภอพระประแดงและมีชื่อเรียกว่า “เมืองพระประแดง” เป็นสถานที่พักของเมืองสินค้าต่างชาติที่มาติดต่อค้าขายกับไทย ที่บริเวณริมทะเลมีการสร้างป้อมค่ายคูเมืองอย่างมั่นคงแข็งแรง ต่อมา ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ทรงโปรดให้รื้อกำแพงเมืองพระประแดงออก จวบจนสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงเห็นว่าจะเป็นช่องทางที่ข้าศึกจะยกทัพมาได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองสมุทรปราการขึ้นที่ตำบลปากน้ำในปี พ.ศ. 2362 โดยใช้เวลาสร้าง 3 ปี และได้จัดสร้างป้อมปราการขึ้นทั้งสองฝั่งแม่น้ำถึง 6 ป้อม คือ ป้อมประโคนชัย ป้อมนารายณ์ปราบศึก ป้อมปราการ ป้อมประกายสิทธิ์ ป้อมนาคราช และป้อมผีเสื้อสมุทร ในขณะที่สร้างเมืองนั้น รัชกาลที่ 2 ได้เสด็จทอดพระเนตรหลายครั้งและทรงสร้างพระมหาเจดีย์ ขึ้นที่เกาะกลางน้ำแล้วพระราชทานนามว่า “พระสมุทรเจดีย์” การสร้างยังมิทันเสร็จได้เสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมา ในรัชกาลที่ 3 ได้ทรงสร้างต่อจนสำเร็จและสร้างป้อมขึ้นอีก 3 แห่ง คือ ป้อมตรีเพชร ป้อมคงกระพัน และป้อมเสือซ่อนเล็บ ต่อมาในปี พ.ศ. 2402 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้ทรงปฏิสังขรณ์พระสมุทรเจดีย์ให้สูงขึ้นและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างป้อมชายทะเลอีกแห่งหนึ่ง พระราชทานนามว่า “ป้อมพระจุลจอมเกล้า” ซึ่งในปัจจุบันป้อมต่างๆ ได้ปรักหักพังลงคงเหลือแต่ป้อมผีเสื้อสมุทรและป้อมพระจุลจอมเกล้าเท่าทุกวันนี้
บ้านสาขลา ตั้งอยู่ ใน ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่ริมปากอ่าวไทยที่ตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้มาช้านานหลายชั่วอายุคน
"สันนิษฐานว่าหมู่บ้านนี้มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยหรือต้นอยุธยาตอนต้น ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 1 เกิดสงคราม 9 ทัพขึ้น ผู้ชายทุกคนในหมู่บ้านถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารหมด เหลือแต่ผู้หญิง คนแก่ และเด็ก ยุคนั้นหมู่บ้านนี้ถือเป็นแหล่งเสบียงสำคัญเพราะมีทรัพยากรอุมดสมบูรณ์ ทัพพม่าเมื่อเคลื่อนทัพผ่านมาจึงกวาดต้อนคนไทยและพยายามยามยึดเอาเสบียงอาหารไป แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ไม่ยอมจึงได้รวมพลังผู้หญิง เด็ก และคนชรา จับอาวุธเท่าที่หาได้ไม่ว่าจะเป็นดาบ มีด พร้า รวมถึงสากตำข้าวขนาดใหญ่ออกมาต่อสู้กับพม่าอย่างห้าวหาญ และด้วยแผนการรบที่ดีและความชำนาญภูมิประเทศ ทำให้สาวๆในหมู่บ้านนี้รบกับกองลาดตระเวนของพม่าจนพม่าต้องพ่ายแพ้ถอยทัพกลับไป"
พระสมุทรเจดีย์ อยู่ที่ตำบลปากคลองบางปลากด ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงกันข้ามกับศาลากลางจังหวัด แต่เดิมพระเจดีย์นี้ตั้งอยู่บนเกาะกลางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร ต่อมาชายตลิ่งฝั่งขวาของแม่น้ำตื้นเขินงอกออกมาเชื่อมติดกับเกาะอันเป็นที่ตั้งพระเจดีย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างแต่ยังไม่ทันเสร็จก็สิ้นรัชกาล พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อเป็นพระเจดีย์สูง 20 เมตร ต่อมาในรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนรูปทรงพระเจดีย์แล้วก่อให้สูงขึ้นอีกเป็น 38 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระชัยวัฒน์และพระห้ามสมุทรไว้
ในขณะที่สร้างเมืองนั้น รัชกาลที่ 2 ได้เสด็จทอดพระเนตรหลายครั้ง และทรงให้สร้างพระมหาเจดีย์ขึ้นที่เกาะกลางน้ำแล้วพระราชทานนามว่า "พระสมุทรเจดีย์" การสร้างยังมิทันเสร็จได้เสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้ทรงสร้างต่อจนสำเร็จ และสร้างป้อมขึ้นอีก 3 แห่งคือ ป้อมตรีเพชร, ป้อมคงกระพัน และป้อมเสือซ่อนเล็บ
 
ในปี พ.ศ. 2402 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้ทรางปฏิสังขรณ์พระสมุทรเจดีย์ให้สูงขึ้น และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างป้อมชายทะเลอีกแห่งหนึ่งคือ "ป้อมพระจุลจอมเกล้า" ซึ่งในปัจจุบัน ป้อมต่างๆ ได้ปรักหักพังลง คงเหลือแต่ป้อมผีเสือสมุทรและป้อมพระจุลจอมเกล้าเท่านั้น