ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เกษม จาติกวณิช"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 47:
หลังจากลาออกจาก กฟผ. นายเกษมได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารรัฐวิสาหกิจในคราวเดียวกันถึง 4 แห่งคือเป็น กรรมการอำนวยการ[[ไทยออยล์]], ประธานกรรมการ [[บางจากปิโตรเลียม]], ประธานกรรมการบริษัท[[ปุ๋ยแห่งชาต]]ิ และประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร แบงก์เอเชียทรัสต์
 
ผลงานโดดเด่นที่สุดของนายเกษมในการบริหาร 4 รัฐวิสาหกิจคือการบริหารไทยออยล์ จนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำมันของภูมิภาคเอเชีย ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถกู้เงินก้อนใหญ่เพื่อขยายกิจการ โดยไม่ต้องนำทรัพย์สินของ บริษัทไปค้ำประกัน ด้วยความเชื่อถือบรรดาเจ้าหนี้หลายราย โดยช่วงเวลาที่เกษมเข้าบริหารงานไทยออยล์ตั้งแต่ปี 2528-2540 ได้นำพาไทยออยล์ขึ้นเป็นบริษัทน้ำมันระดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชีย กระทั่งนิตยสาร Far EasernEastern Economic Review ตั้งฉายาให้เกษมเป็น "'''Energy ZarrTzar'''" (แปลเป็นไทยได้ว่า "จ้าวแห่งพลังงาน")
 
อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยในปี [[พ.ศ. 2540]] พร้อมๆ กับราคาน้ำมันโลกตกต่ำ ทำให้ไทยออยล์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ที่ทำให้หนี้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศทวีจำนวนสูงขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อคิดเป็นเงินบาท และเกษมได้ลาออกจาก ไทยออยล์ ในช่วงสิ้นปี 2540 นี้เอง