ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เชียงลาบ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
'''เมืองเชียงลาบ''' (Kenglarp) หรือ "เวียงแคว้นสา" เป็นเมืองเก่าแก่ของ[[ชาวไทลื้อ]]บางครั้งจะเรียกชื่อเมืองโขง หรือ เมืองโขงโค้ง หรือ เวียงแคว้นสา ตั้งอยู่ใน[[แขวงท่าขี้เหล็ก]] [[รัฐฉาน]] [[ประเทศพม่า]] ตรงข้ามกับเมือง[[เชียงกก]] [[ประเทศลาว]] และตั้งอยู่ครึ่งทางระหว่างหิรัญเงินยางนคร (เมือง[[เชียงแสน]]) [[ประเทศไทย]] และ[[เมืองเชียงรุ่ง]] [[สิบสองปันนา]] [[มณฑลยูนนาน]] [[ประเทศจีน]] ตัวเมืองตั้งอยู่ตรงแหลมเชียงลาบ มีเจ้าผู้ครองเมืองตามนามเมืองว่า "เจ้าหลวงเชียงลาบ"
▲'''เมืองเชียงลาบ''' (Kenglarp) หรือ "เวียงแคว้นสา" เป็นเมืองเก่าแก่ของ[[ชาวไทลื้อ]]บางครั้งจะเรียกชื่อเมืองโขง หรือ เมืองโขงโค้ง หรือ เวียงแคว้นสา ตั้งอยู่ใน[[แขวงท่าขี้เหล็ก]] [[รัฐฉาน]] [[ประเทศพม่า]] ตรงข้ามกับเมือง[[เชียงกก]] [[ประเทศลาว]] และตั้งอยู่ครึ่งทางระหว่างเมือง[[เชียงแสน]] [[ประเทศไทย]] และ[[เมืองเชียงรุ่ง]] [[สิบสองปันนา]] [[มณฑลยูนนาน]] [[ประเทศจีน]] ตัวเมืองตั้งอยู่ตรงแหลมเชียงลาบ มีเจ้าผู้ครองเมืองตามนามเมืองว่า "เจ้าหลวงเชียงลาบ" ก่อตั้งเมืองโดย'''พญาคำแดง''' ราชบุตรของ[[สมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่งที่ 1]] (พญาเจื๋อง) แห่งราชวงค์อาฬโวสวนตาน เมืองเชียงรุ่ง
เชียงลาบซึ่งเป็นบริเวณที่[[แม่น้ำโขง]]ไหลเชี่ยวที่สุด หรือที่เรียกว่า "โขงโค้ง" เป็นแนวบริเวณที่อันตรายที่สุดในการเดินเรือ เนื่องจากเป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงไหลลงมาตรงแล้วกระทบกับโขดหินและไหลย้อยกลับขึ้นไปข้างบน จึงทำให้แม่น้ำโขงในบริเวณนี้ไหลแรงและเชี่ยวที่สุดและต้องใช้ความชำนาญสูงในการเดินเรือสินค้า หากมองด้านจุดยุทธศาสตร์การเมือง การคมนาคม และการค้าขายในอดีต เมื่อสองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา หากต้องเดินทางเดินทางจากเชียงแสนไปเชียงรุ่ง ต้องหยุดพักตรงนี้ เมื่อมีการหยุดพักแล้วจึงมีคารวานต่าง ๆ มาแลกเปลี่ยนสินค้าในบริเวณดังกล่าว จึงทำให้เชียงลาบกลายเป็นเมืองหน้าด่านสู่ประตูสู่เชียงรุ่งโดยปริยาย
บริเวณเมืองเมืองตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงที่ไหลย้อนขึ้นและไหลลง ชาวเมืองเรียกบริเวณนี้ว่า '''"โขงโค้ง"''' ทางตอนกลางของเมืองมีแม่น้ำลาบ ไหลผ่านลงไปแม่น้ำโขง หากนั่งเรือจากเชียงแสนขึ้นไปราว 82 กม. ตลอดฝั่งลำน้ำโขงบริเวณเมืองเชียงลาบจะพบหินมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นหิน 7 สีตลอดสองฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในแม่น้ำโขงที่เมืองเชียงลาบ และถือว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์
เส้น 34 ⟶ 25:
== ประวัติศาสตร์ ==
เมืองเชียงลาบ เป็นหัวเมืองไทลื้อ เมืองหนึ่งของสิบสองปันนา ก่อตั้งโดย
'''เมืองเชียงลาบ'''เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ลาดเชิงเขา ตัวเมือง ติดแม่น้ำโขง และเป็นเมืองท่าค้าขายที่สำคัญ ฉะนั้นรายได้หลักของเมืองคือ การเก็บภาษี อากร ส่วย ข่อน ที่เกิดจากพ่อค้าที่เดินทางไปค้าขายระหว่างเชียงแสน และเชียงรุ่ง อีกทั้งด้านทิศตะวันตกของเมืองเป็นภูเขาสูงซึ่งอุดมไปด้วยป่าไม้สัก และ น้ำผึ้ง และของป่าอื่น ๆ อีกทั้งด้านทิศเหนือซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองลวงซึ่งเป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาร์ ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าสำคัญที่พวกพ่อค้าชาวจีนฮ่อ และไทใหญ่ นำลงมาขายให้กับเชียงแสน ปัจจุบันเมืองเชียงลาบก็ยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ซึ่งตรงข้ามกับท่าเชียงกกของลาว ในการเดินทางไปติดต่อค้าขายในสิบสองปันนา
พอถึงสมัยต่อมา[[พญามังราย]]ครองเมือง[[โยนก]] ก็ยกทัพไปตีทางด้านเมือง[[เชียงของ]] [[ลำพูน]](อาณาเขตรวมเชียงใหม่ในปัจุบันด้วย) เชียงตุง และตีได้รุกรานไปในเขตเชียงรุ่งด้วยอีกส่วนหนึ่ง (ตามหมิงสือลู่ของจีน) ดังนั้นบริเวณเมืองยองส่วนที่เป็นเมืองไร เชียงลาบ พยาก พะแลว จึงถูกรวมเข้าในอาณาจักรโยนกของพญามังรายด้วย ต่อมาเมื่อพญามังรายไปตั้งกุมกาม และเชียงใหม่ ก็ให้[[พญาแสนพู]]ไปอยู่เชียงแสน ปรากฏชื่อเมืองเชียงลาบว่าเป็นเมืองขึ้นของเมืองเชียงแสนในสมัยพญาแสนพูนี้เอง (ดูในจารึกวัดป่าสักที่ถูกถ่ายออกมาเป็นเรื่องเล่าในพื้นเมืองเชียงแสน) หลังจากนั้นมาเมืองเชียงลาบก็รวมอยู่กับเมืองเชียงแสนตลอด
เส้น 69 ⟶ 60:
ต่อมาเจ้าสรีหน่อเมืองเชียงแขงย้ายเมืองไปตั้งอยู่ที่[[เมืองสิงห์]] (เมืองสิงห์ในประเทศลาวปัจจุบัน) เรียกชื่อว่า เมืองเชียงแขง เหมือนเดิม เจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงซึ่งเป็นหลานก็จะเอาเมืองหลวยใต้คืนแต่สุดท้ายตกลงกันว่าให้ขึ้นกับเมืองเชียงแขงตามเดิม เมืองเชียงลาบจึงยังคงรวมกับเมืองเชียงแขง
ต่อมาเมื่อ รัชกาลที่ 5 ของสยาม ทราบว่าเจ้าเมืองเชียงแขงย้ายเมืองมาตั้งที่เมืองสิงห์ก็มีพระบรม
ดังนั้นเจ้าเมืองเชียงแขงจึงส่งบรรณาการลงมาถวาย (ได้มีโอกาสเห็นเอกสารฉบับนี้แล้ว ตัวหนังสือสวยมาก มีตราประทับด้วย) ต่อมาเมื่ออังกฤษทราบเรื่องก็ส่งคนลงมาบ้าน เมืองเชียงแขงก็ต้องทำตาม พอฝรั่งเศสมาอีก เชียงแขงก็ต้องส่งบรรณาการอีก แต่เมื่อสยามทราบข่าวว่าอังกฤษฝรั่งเศสแย่งชิงอำนาจเหนือดินแดนเมืองสิงห์ (ซึ่งยังเรียกว่าเชียงแขงอยู่) ก็ยกกองทัพขึ้นไปรักษาไว้ตามเขตแดนหลวงพระบาง ต่อมาเกิดกรณีพิพาทเรื่องพระยอดเมืองขวาง จนสยามต้องทำสนธิสัญญายกลาวฝั่งที่เป็นประเทศลาวปัจจุบันให้กับฝรั่งเศสไป
เส้น 107 ⟶ 98:
== ชาวเมืองเชียงลาบในประเทศไทย ==
หลังจากเหตุการณ์ ปี [[พ.ศ. 2347]] เมืองเชียงลาบแตก ไพร่พลและชาวเมืองบางส่วนถูกกวาดต้อนมาที่เมือง[[น่าน]] ครั้นเมื่อพญาอัตถวรปัญโญ ได้เดินทางมาถึงเมืองน่าน ได้เกิดนองหลวงที่เมืองย่าง และเมืองยม ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งแสนปั๋น เจ้าเมืองย่าง
ส่วนชาวไทลื้อเมือง[[เชียงลาบ]]นั้นได้ตั้งบ้านเรือนริมน้ำบั่ว โดยตั้งชื่อหมู่บ้านว่า '''บ้านน้ำบั่วป่ากล้วย''' ปัจจุบันคือ '''[[บ้านลอมกลาง]]''' ขึ้นการปกครองกับบ้านเชียงยืน โดยมี'''หลวงแสนปัญญา'''เป็นหัวหน้าหมู่บ้านเชียงยืน ทำหน้าที่ปกครอง บ้านน้ำบั่วป่ากล้วย บ้านน้ำบั่ววัด บ้านเชียงยืน
นอกจากนั้นยังมีชาวไทลื้อเมืองเชียง
บ้านถ่อน ต.จอมพระ อ.ท่าวังผา บ้านป่าน ต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน
เส้น 132 ⟶ 126:
* จารึกพื้นเมืองเชียงแสน วัดป่าสัก จ.เชียงราย
* จารึกชาวประวัติไทลื้อเมืองเชียงลาบ
* หนังสือคนยองย้ายแผ่นดิน
{{เขตการปกครองพม่า/รัฐฉาน}}
[[หมวดหมู่:เชียง
[[หมวดหมู่:เมืองในประเทศพม่า|ช]]
|