ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 137:
ในแง่ธรรมปฏิบัตินั้นแนวคำสอนในเรื่อง [[มัชฌิมาปฏิปทา]] และ [[สติปัฏฐาน 4]] ตามแนวปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายนั้น มีความแตกต่างจากสำนักอื่น ที่ว่าในสำนักอื่นๆ นั้นมีตีความหมายของคำว่า [[มัชฌิมาปฏิปทา]] ว่าหมายถึง การเดินทางสายกลาง คือการไม่กระทำความเพียรหรือกระทำสิ่งใดอย่างสุดโต่ง และ ตีความการปฏิบัติกรรมฐานแบบสติปัฏฐาน 4 ซึ่งในแต่ละสำนักนั้น ก็มีการตีความตามพระปริยัติธรรมที่แตกต่างกันออกไป
ในขณะที่คำสอนตามแนวปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย ได้ให้ความหมาย[[มัชฌิมาปฏิปทา]] คือ '''การเดินทางสายกลางตามอริยมรรคมีองค์ 8 โดยเป็นการเดินทางสายกลางภายในกายมนุษย์ ผ่านศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เข้ากลางของกลาง ผ่านดวงธรรมและกายในกาย ซึ่งเป็นการทำสมาธิวิปัสสนา แบบสติปัฏฐาน 4 คือ กาย เวทนา จิต ธรรม ซึ่งเป็นการเดินกรรมฐานผ่านศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ทั้งสิ้น<ref>[http://www.kalyanamitra.org/book/pdf/visutthi3.pdf วิสุทธิวาจา เล่มที่ 3 หน้า 144-147]</ref> คือ พิจารณากายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต และธรรมในธรรม ด้วยการพิจารณาผ่านดวงธรรมแต่ละดวง กายแต่ละกายละเอียดเป็นลำดับ โดยอธิบายว่าความละเอียดลึกซึ้งของธรรมปฏิบัตินั้นสามารถเห็นได้ด้วยตาภายใน มิใช่การตีความตามตัวอักษร ตามพระปริยัติ''' เพราะธรรมนั้นมิได้รู้ด้วยปัญญาอันเกิดจากความคิดหรือจินตมยปัญญา แต่ต้องรู้เห็นและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมนั้น ด้วย ปัญญาจักษุ ธรรมจักษุ ที่จะทำให้เห็นและเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในตัว คือ พุทธรัตนะ(ธรรมกายหยาบ) ธรรมรัตนะ(ดวงธรรม) สังฆรัตนะ(ธรรมกายละเอียด)<ref>หนังสือเรียนวิชาความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยธรรมกายแคลิฟอร์เนีย พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2553,บทที่ 4,หน้า 83 </ref><ref>[http://main.dou.us/view_content.php?s_id=137&page=3 สมาธิ 5หลักสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน บทที่ 3 หน้า 45-62]</ref> อันอยู่ภายในกายของมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เว้นแต่ว่า สัตว์เดรัจฉานนั้นไม่อาจเข้าถึงกายในกาย หรือ กายธรรมได้ เพราะสัตว์มีกายหยาบหรือรูปร่างภายนอกที่ไม่เหมาะสมต่อการสร้างสมบารมี และมักมีลักษณะเป็นลำตัวขวาง ทำให้หาศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ภายในได้ยากกว่ามนุษย์ ตามแนวปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย อธิบาย คำว่า '''การเข้าถึงไตรสรณคมน์'''ตามนัยยะที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ว่ามีนัยยะ คือ การเข้าถึงกายต่างๆ ดวงธรรมต่างๆ จนกระทั่งเข้าถึง พระรัตนตรัยภายในตัว มิใช่เพียงการสวดมนต์เพื่อขอรับไตรสรณคมน์ อันเป็นการรับด้วยปากและยังเป็นเพียงการ "ขอถึง" มิใช่การ "เข้าถึง" ไตรสรณคมน์ซึ่งมีอยู่ภายในตัวอย่างแท้จริง
ความแตกต่างจากธรรมปฏิบัติในสำนักอื่นอย่างมากอีกอย่างหนึ่ง คือ การสอนถึงผลของการเจริญภาวนา โดยแนวธรรมปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย ได้แบ่งกาย<ref>[http://www.kalyanamitra.org/book/pdf/visutthi3.pdf วิสุทธิวาจา เล่มที่ 3 หน้า 70-72]</ref>ที่ถือว่าเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ว่าคือ กายมนุษย์หยาบ กายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์หยาบ กายทิพย์ละเอียด กายรูปพรหมหยาบ กายรูปพรหมละเอียด กายอรูปพรหมหยาบ กายอรูปพรหมละเอียด กายโคตรภูหยาบ กายโคตรภูละเอียด
ส่วนกายที่เป็นกายเที่ยงแท้คือ เป็นนิจจัง สุขัง อัตตา เริ่มตั้งแต่ กายธรรมพระโสดาบันหยาบ กายธรรมพระโสดาบันละเอียด กายธรรมพระสกิทาคามีหยาบ กายธรรมพระสกิทาคามีละเอียด กายธรรมพระอนาคามีหยาบ กายธรรมพระอนาคามีละเอียด กายธรรมอรหัตตหยาบ และ
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
|