ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 124:
นอกจากนั้นคำสอนของพระมงคลเทพมุนีและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ตามแนวปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายนั้น ได้ให้คำจำกัดความของคำที่เกี่ยวกับนิพพาน ต่างไปจากในพระไตรปิฎก ที่ว่า พระไตรปิฎกนั้นไม่มีการแยกคำว่า อายตนนิพพาน และ พระนิพพาน
แต่ตามแนวปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย ได้อธิบายเอาไว้ผ่านหนังสือวิสุทธิวาจาซึ่งถอดพระธรรมเทศนาของพระมงคลเทพมุนี<ref>[http://www.kalyanamitra.org/book/pdf/visuthi1.pdf วิสุทธิวาจา เล่มที่ 1 หน้า 30,117-120]</ref>และการเทศนาของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ เอาไว้ว่า
'''
'''พระนิพพาน''' คือ พระธรรมกายอรหัตละเอียด หรือกายธรรมพระอรหัตละเอียด หรือกายธรรมอรหัตผลขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตเจ้า ที่ได้ถอด/ละทิ้งขันธ์ 5 ของกายมนุษย์แล้ว
ในสงสารวัฏนี้ สิ่งที่เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็คือ กายที่ยังเป็น ขันธ์ทั้ง 5 แต่ กายธรรม หรือ ธรรมกาย นั้นมีลักษณะตรงกันข้าม คือ เป็น นิจจัง สุขัง อัตตา คือ เป็นสุขเที่ยงแท้ไม่แปรผัน <ref>[http://www.kalyanamitra.org/book/pdf/visutthi3.pdf วิสุทธิวาจา เล่มที่ 3 หน้า 39-40]</ref> เป็นกายที่รวมประชุมของพระธรรมคำสั่งสอนทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์เอาไว้ภายใน มิใช่พระไตรปิฎกที่อาจมีความคลาดเคลื่อนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
และสอนว่าในอายตนนิพพานนั้น เป็นที่อยู่ของพระนิพพานที่นั่งขัดสมาธิคู้บัลลังค์เข้านิโรธสมาบัติเพียงอย่างเดียว มิได้ทำกิจอื่นใดอีก รวมทั้งอายตนนิพพานนั้น มีหลายอายตนนิพพานทั้งที่ซ่อนเร้นและเปิดเผย แบ่งออกเป็นธาตุธรรมเป็นฝ่ายโปรด (มีหน้าที่เทศนาสั่งสอนให้เห็นโทษภัยในวัฏสงสารเพื่อให้สรรพสัตว์หลุดพ้นตามกำลังแห่งบารมีของตน) และธาตุธรรมเป็นฝ่ายปราบ (มีหน้าที่มุ่งสร้างบารมีเพื่อขจัดพญามารซึ่งเป็นผู้ผลิตกิเลสอาสวะและบัญญัติกฏแห่งกรรม เพื่อปลดปล่อยเชลย คือ สรรพสัตว์ทั้งหมดให้พ้นจากคุก คือ วัฏสงสาร) ซึ่งคำสอนเหล่านี้ไม่เคยปรากฏมีในสำนักสงฆ์ใดนอกจากแนวปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย จึงเป็นที่มาของการถูกเพ่งเล็งและโจมตีของพระมหาเถระทั้งสองรูป คือ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ในสมัยเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ผู้สืบทอดและเผยแผ่มาจนกระทั่งปัจจุบันสมัย
=== การให้ความหมายของมัชฌิมาปฏิปทา และ ผลของการดำเนินกรรมฐาน ===
|