ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลือชัย งามสม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 30:
หลังจากเล็กได้ย้ายไปอยู่กับวงเพรสซิเดนท์ ทำให้ในเวลาต่อมามิชชั่น ตัดสินใจยุบวงในปี [[พ.ศ. 2525]] และดุก ก็ย้ายไปเล่นให้วงแคนดี้ในช่วงสั้น ๆ ต่อมาจึงก่อตั้งวง ทราน สยามขึ้นในปี [[พ.ศ. 2526]] และได้รับรางวัลรองแชมป์อันดับ 1 ถ้วยพระราชทานการประกวดวงดนตรี 350 วง ทั่วประเทศ ในปี [[พ.ศ. 2527]]
 
ปี [[พ.ศ. 2530]] ออกจากวง ทรานสยาม โดยศึกษาด้าน Sequencer กับ[[ปรีชา ชนะภัย|ปรีชา ชนะภัย (เล็ก คาราบาว)]] และได้ร่วมงานกับศิลปินหลาย ๆ คนเช่น[[หงา คาราวาน]], [[พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ]]
 
ปี [[พ.ศ. 2534]] ได้ร่วมงานกับ [[คาราบาว]]เป็นครั้งแรก โดยการชักชวนของ[[ปรีชา ชนะภัย|ปรีชา ชนะภัย (เล็ก คาราบาว)]] ในช่วงที่สมาชิกคาราบาวในขณะนั้นแยกตัวออกมาหลายคน โดยทำหน้าที่เล่นคีย์บอร์ด ในอัลบั้ม วิชาแพะ และได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของวงในเวลาต่อมา โดยบทบาทในวงของดุกจะเป็นมือคีย์บอร์ดและแอคคอร์เดียน โดยไม่ได้เป็นนักร้องหลัก แต่ทำหน้าที่ประสานเสียง แต่ก็มีบางเพลงในสตูดิโออัลบั้มหรืออัลบัมพิเศษของสมาชิกในวง ที่ดุกเป็นนักร้องหลักให้ เช่น ร่มนักรัก ในอัลบั้ม ภูผาหมอก ของ เล็ก ในปี [[พ.ศ. 2535]] หรือ โลกร้อน ในอัลบั้ม ลูกลุงขี้เมา ในปี [[พ.ศ. 2550]] เป็นต้น เนื่องจากมีน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ฟังดูคล้ายคนขี้เล่น อารมณ์ดีตลอดเวลา จึงทำให้ดุกมีบทบาทเป็นเสมือนสีสันของวงเมื่อแสดง[[คอนเสิร์ต]]เช่นเดียวกับ อ.[[ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี]] ในอดีตอีกด้วย
 
ชีวิตส่วนตัว [[สมรส]]แล้ว นอกจากการเป็นนักดนตรีแล้วยังมีกิจการอื่นเป็น[[ร้านอาหาร]]และบริษัทรับจัด event ห้องบันทึกเสียง และรับอัดรายการ ชื่อ บริษัท ดุก คาราบาว จำกัด อีกด้วย
 
== ดูเพิ่ม ==