ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกฤตตัวประกันมะนิลา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 18:
 
เมนโดซามีอาวุธปืนขนาดเล็กและไรเฟิลเอ็ม 16 แสดงความต้องการขอกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมพร้อมกับคืนสิทธิประโยชน์ให้แก่เขา พร้อมทั้งกล่าวว่าเขาถูกใส่ร้าย นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา อัลเฟรโด ลิม กล่าวว่าเขาสามารถทำตามความปรารถนาของเมนโดซาที่จะกลับเข้าทำงานได้หากเขาสามารถพิสูจน์ตนเอง
 
=== การเจรจา ===
อีกเกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมา นักท่องเที่ยวฮ่องกงหกคนได้รับการปล่อยตัว: หญิงชราซึ่งบ่นถึงความเจ็บปวดที่ท้องเป็นรายแรกที่ได้รับการปล่อยตัวจากรถบัส สามีของเธอและผู้ป่วยโรคเบาหวานคนหนึ่งในรับการปล่อยตัว จากนั้น หญิงวัยกลางคนและลูกอีกสองคนได้รับการป่อยตัว และเมื่อเธอออกมา เธอได้ขอให้เด็กคนที่สาม (เป็นเด็กชายวัย 12 ปี) ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน โดยอ้างว่าเด็กชายคนดังกล่าวเป็นลูกของเธอ ช่างภาพชาวฟิลิปปินส์สองคนขึ้นมาบนรถบัสและอาสาที่จะถูกจับเป็นตัวประกันแทนการปล่อยตัวก่อนหน้า ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวได้ถูกนำไปยังพื้นที่ตำรวจในสวนไรซาล
 
จนถึงเวลาเที่ยง ตัวประกันอีกสี่คน (รวมไปถึงไกด์ทัวร์และช่างภาพอีกสองคน) ได้รับการปล่อยตัว ทำให้มีตัวประกันถูกปล่อยตัวไปแล้ว 10 คน นักข่าวทีวี 5 เออร์วิน ทัลโฟ ยังคงติดต่อกับเมนโดซาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้อำนวยการ ออร์ลันโด เยบราและหัวหน้าสารวัตร โรมิโอ ซัลวาดอร์ เป็นผู้นำการเจรจา ยังเหลือตัวประกันอีก 17 คนบนรถ ในเวลานี้ สถานีโทรทัศน์หลายแห่ง (ABS-CBN, GMA, TV5 และ NBN) ได้ถ่ายทอดสดในมะนิลา TVB และ Cable TV ยังได้ถ่ายทอดสอดในฮ่องกงหลังเที่ยงเป็นต้นไป และด้วยการยืมใช้การเชื่อมต่อดาวเทียมจากเครือข่าย GMA ทำให้ [[CNN]], Channel News Asia, และ[[รอยเตอร์]] สามารถถ่ายทอดข่าวไปได้ทั่วโลก
 
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไม่อนุญาตตามความต้องการของเมนโดซาที่จะรับเขากลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีการยืนยันว่าคดีของเขาจะได้รับการพิจารณาใหม่ รองนายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา อิสโค โมเรโน ส่งจดหมายจากผู้ตรวจการแผ่นดินมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุการณ์จี้ตัวประกันหลังจากดวงอาทิตย์ตกดิน อย่างไรก็ตาม เมนโดซากล่าวถึงการตัดสินใจของผู้ตรวจการแผ่นดินว่าเปฦ็น "ขยะ" และกล่าวว่าข้อความดังกล่าวมิได้ตอบสนองข้อเรียกร้องของเขา นายกเทศมนตรลิมกล่าวทางวิทยุท้องถิ่นว่าทางการตกลงที่จะรับเมนโดซากลับเข้ารับราชการและยุติวิกฤตดังกล่าว แต่ข้อความไม่สามารถส่งไปได้เนื่องจากการจราจรที่เลวร้าย
 
เมื่อหน่วยสวาทของสถานีตำรวจมะนิลามาถึง เมนโดซาประกาศทางการสัมภาษณ์ทางวิทยุบน DZXL ว่าเขาจะสังหารผู้โดยสารและต้องการให้หน่วยสวาทออกจากพื้นที่ น้องชายของเขา เกรกอริโอ เมนโดซา ตำแหน่งนายตำรวจอาวุโส-2 (SPO2 เทียบเท่าสิบโทในกองทัพบก) เดินออกไปหลังจากเจรจากับพี่ชายของเขา เขากระตุ้นพี่ชายให้ยอมมอบตัวโดยสันติและกล่าวว่า "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่" เกรกอรืโอถูกจับกุมหลังจากนั้น โดยกล่าวว่าเขามิได้ถูกร้องขอให้มีส่วนในการเจรจา และเขาฝ่าพื้นที่กีดกันในขณะที่มีอาวุธปืน ประธานาธิบดีอาคีฦโนกล่าวในภายหลังว่าน้องชายของมือปืนได้มีส่วนทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงโดยการสร้างความเกลียดชังต่อผู้เจรจา
 
== อ้างอิง ==