ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระพุทธโสธร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Siwadonn (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 5:
| short_describtion =
| type_of_object = พระพุทธรูป
| school_of_art = [[ปางขัดสมาธิเพชร]] [[ศิลปะสุโขทัยล้านช้าง]]
| width = 5 ฟุต 6 นิ้ว
| tall = 6 ฟุต 7 นิ้ว
บรรทัด 34:
ประชาชนพลเมืองจำนวนมากได้พากันหลั่งไหลมาอาราธนาฉุดขึ้นฝั่งแต่ก็ไม่สำเร็จ ขณะนั้นมีอาจารย์วิเศษผู้รู้คนหนึ่งสำเร็จไสยศาสตร์หรือเทพไสยรู้หลักและวิธีอาราธนา จึงได้ทำพิธีปลูกศาลเพียงตาบวงสรวง กล่าวคำอัญเชิญชุมนุมเทวดาอาราธนา และได้ใช้สายสิญจน์คล้องที่พระหัตถ์ของพระพุทธรูปก่อนจะค่อยฉุดลากขึ้นมาบนฝั่ง พระพุทธรูปจึงเสด็จขึ้นมาบนฝั่งเป็นที่ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งของชาวเมือง จึงได้พร้อมใจกันอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่ในพระวิหารวัดโสธร และเรียกนามว่า '''พระพุทธโสธร''' หรือ '''หลวงพ่อโสธร''' ตั้งแต่นั้นมา
 
ส่วนองค์สุดท้ายได้ลอยไปอยู่ใน[[แม่น้ำเจ้าพระยา]]ประชาชนละแวกนั้นก็หลั่งไหลมาอาราธรนาขึ้นฝั่งฉุดขึ้นเป็นการใหญ่แต่ก็ฉุดขึ้นไม่ได้ เล่ากันว่ามีประชาชนพากันมาฉุดนับได้ถึงสามแสนคน จึงเรียกสถานที่นั้นว่า ''สามแสน'' ภายหลังจึงเพี้ยนมาเป็น ''สามเสน'' และเรียกกันอยู่ทุกวันนี้ จากนั้นพระพุทธรูปองค์นี้ก็ลอยไปผุดขึ้นที่[[คลองสำโรง]] จังหวัด[[สมุทรปราการ]] ประชาชนจึงได้ได้อาราธนาขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่[[วัดบางพลีใหญ่ใน|วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม]]หรือ[[วัดบางพลีใหญ่ใน]]ตราบจนทุกวันนี้ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากอีกรูปหนึ่งของเมืองไทย คือ [[หลวงพ่อโต (บางพลี)|หลวงพ่อโต]] วัดบางพลีใหญ่ใน<ref>http://www.heritage.thaigov.net/religion/pra/index05.htm#top</ref>
 
เล่ากันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นในสมัย[[กรุงธนบุรี]] ตรงกับประมาณปี พ.ศ. 2313 รับเป็นประวัติพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยน้ำมาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง