ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นางกุสาวดี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ฉัตรา (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ฉัตรา (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ต้องการสรุป}}
{{เก็บกวาด}}
 
== พระนางกุสาวดี ==
'''พระนางกุสาวดี''' เป็นอิสตรีที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไทยอีกพระองค์ โดยมีส่วนเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์ไทยในสมัยอยุธยาถึง 3 พระองค์ คือ [[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]] [[สมเด็จพระเพทราชา]] และ [[สมเด็จพระสรรเพชญที่ 7]] (สมเด็จพระสุริเยนทราธิบดี )หรือ หรือพระนามที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า '''สมเด็จพระเจ้าเสือ''' จะกล่าวไปแล้ว '''พระนางกุสาวดี''' นั้นมีความเกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์ "พลูหลวง" ของกรุงศรีอยุธยาทั้ง 7 พระองค์ รวมทั้งสมเด็จพระนารายมหาราชแห่งราชวงศ์ปราสาททองแล้ว รวมทั้งหมดเป็น 8 พระองค์
 
จะกล่าวไปแล้ว '''พระนางกุสาวดี''' นั้นมีความเกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์ "พลูหลวง" ของกรุงศรีอยุธยาทั้ง 7 พระองค์ รวมทั้งสมเด็จพระนารายมหาราชแห่งราชวงศ์ปราสาททองแล้ว รวมทั้งหมดเป็น 8 พระองค์
== พระประวัติ ==
 
ตามประวัติเท่าที่สืบค้นได้ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา และอาณาจักรล้านนา กล่าวว่า''' พระนางกุสาวดี'''หรือมักนิยมเรียกว่า เจ้านางกุสาวดี นั้น เดิมชื่อ '''เจ้านางกุลธิดา''' เป็นพระธิดาในพญาแสนหลวง ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ในสมัยพ.ศ. 2193 (ขณะนั้นเป็นเมืองขึ้นแก่พม่า) ครองเมืองได้ 13 ปี ใน พ.ศ. 2205 ก็เสียเมืองให้แก่เจ้าพระยาโกษาธิบดี(เหล็ก)ซึ่งเป็นแม่ทัพในรัชสมัยของพระนารายณ์มหาราช...ในครั้งนั้น เจ้านางกุลธิดาได้ถูกนำตัวมาถวายเป็นบาทบาจาริกาแก่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระสนม นามว่า พระสนมกุสาวดี ต่อมาได้ยกพระนางให้อภิเษกกับพระเพทราชา ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็น '''เจ้ากรมช้าง''' กล่าวกันว่าขณะนั้นพระนางได้ทรงครรภ์พระโอรสกับสมเด็จพระนารายณ์แล้ว แต่เกิดความละอายที่มีลูกกับหญิงลาว (ซึ่งแต่เดิมไทยอยุธยาถือว่าเชียงใหม่หรืออาราจักรล้านนาก็เป็นลาวเหมืองกับล้านช้าง-หลวงพระบาง-เวียงจันทร์ และดูถูกว่าต่ำต้อยกว่าไทยที่อยุธยาหรือรัตนโกสินทร์) ซึ่งเจึงยกนางนั้นให้แก่พระเพทราชาดูแลต่อ กล่าวกันว่าหลังจากที่พระนางได้ให้ประสูติพระโอรสที่จังหวัดพิจิตร (วัดโพธิประทับช้าง)แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดได้พบพระนางกลับมาที่วังอีก ... ดังนั้นพระโอรสที่ประสูติจากพระนางจึงเป็น บุตรบุญธรรมของ พระเพทราชา ...ซึ่งก็คือ '''หลวงสรศักดิ์ (สมเด็จพระเจ้าเสือ)''' พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาต่อมานั่นเอง...