ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ผู่เจี๋ย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 8:
ผู่เจ๋ยทรงเป็นพระโอรสในเจ้าชายชุนที่ 2 และโยวหลัน ขณะทรงเป็นเด็ก ก็ทรงได้มาที่[[วังต้องห้าม]]ใน[[ปักกิ่ง]] เพื่อเป็นเพื่อนเล่นของผู่อี๋ เหตุการณ์อันเป็นที่รู้จักกันดี คิอ ผู่อี๋ทรงกรี้วเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรพบเสื้อข้างในของผู่เจี๋ยเป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นสีเฉพาะของจักรพรรดิ<ref>Cotter, Kids Who Rule, pp.76</ref>
 
ในปี พ.ศ. 2472 ผู่เจี๋ยได้ทรงเดินทางไปที่ยัง[[ประเทศญี่ปุ่น]]เพื่อไปศึกษาต่อ พระองค์สำเร็จการศึกษาที่กาคูชูอินและสามารถตรัสภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว และทรงได้เสด็จไปที่วิทยาลัยกองทัพจักวรรดิญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อ จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาในเดือนกรกฎาคม [[พ.ศ. 2478]]
 
ผู่เจี๋ยทรงเสกสมรสครั้งแรกในปี [[พ.ศ. 2467]] กับเจ้าหญิงแห่งแมนจู ทัง ชือช์ หเซีย (Tung Shih-hsia) แต่ทรงหนีจากพระชายาหลังจากไปที่ญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อ แต่ชีวิตสมรสนั้นได้สิ้นสุดลง หลังจากสำเร็จการศึกษาที่วิทยาลัยกองทัพจักวรรดิญี่ปุ่น ผู่เจี๋ยทรงตกลงเลือกภรรยา ([[Omiai]]) กับสตรีชั้นสูงของญี่ปุ่น ซึ่งก็คือ [[เจ้าหญิงฮิโระ ซากะ]] (พ.ศ. 2454-พ.ศ. 2530) ซึ่งทรงเป็นผู้ที่ที่มีความสัมพันธ์กับราชตระกูลญี่ปุ่น จากรูปและจากจำนวนผู้สมัครซึ่งได้ผ่านการประเมินโดย[[กองทัพควันทัง]]<ref> Lebra, Above the Clouds pp.213</ref> ขณะที่ผู่อี๋ยังทรงไม่มีทายาทชาย การแต่งงานนั้นมีความแข็งแกร่งเกี่ยวกับการแสดงออกโดยนัยการเมือง และถูกมุ่งหมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง สายเลือดญี่ปุ่น กับ ราชตระกูลแมนจูกัว
 
พิธีหมั้นจักจัดขึ้นที่สถานทูต[[แมนจูกัว]]ที่โตเกียวในวันที่ [[2 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2481]] และพิธีแต่งงานเสกสมรสจัดขึ้นที่โถงกองทัพจักรวรรดิที่ คูดานซากะ, โตเกียว ในวันที่ [[3 เมษายน]] ในเดือน[[ตุลาคม]]ทั้งคู่ก็ย้ายไปที่ซิงกิง (ปัจจุบันคือชางชุน) เมืองหลวงของ[[แมนจูกัว]] ซึ่งเป็นที่ผู่อี๋เป็นภายใต้การปกครองของจักรพรรดิในขณะนั้นผู่อี๋ หลังการล่มสลายของ[[ราชวงศ์ชิง]]
 
=== [[แมนจูกัว]] ===