ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กบทูด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Luckas-bot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: es:Limnonectes blythii
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{Taxobox
| name = กบทูด
| image = L kuhlii 060616 7630 jbti.jpg
| image_caption = กบทูดที่จังหวัด[[ชวาตะวันตก]]
| status = NT | status_system = IUCN3.1
| regnum = [[Animalia]]
เส้น 10 ⟶ 11:
| genus = ''[[Limnonectes]]''
| species = '''''L. blythii'''''
| binomial = '''''Limnonectes blythii'''''
| binomial_authority = ([[George Albert Boulenger|Boulenger]], [[ค.ศ. 1920|1920]])
| synonyms = <I>Rana macrodon</I> var. <I>blythii</I> Boulenger, [[ค.ศ. 1920|1920]]}}
{{commons|Category:Limnonectes blythii}}
'''กบทูด''' หรือ '''กบภูเขา''' หรือ '''เขียดแลว''' ({{lang-en|RanaKuhl's blythiiCreek Frog}}, [[ชื่อวิทยาศาสตร์]]: ''Limnonectes blythii'') ซึ่งเป็น [[กบ]] ขนาดใหญ่ที่สุดใน[[ประเทศไทย]] <ref>http://www.focuspaktai.com/index.php?file=news&obj=news.view (id=9724) </ref> ความยาวจากปลาย ปากถึงก้น ประมาณ 1 [[ฟุต]] น้ำหนักกว่า 5 [[กิโลกรัม]] มีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณป่าต้นน้ำบนภูเขาสูง อยู่ตามลำห้วย[[ป่าดิบ]]เฉพาะแห่ง โดยพบ[[ภาคตะวันตก]]ของไทย ตั้งแต่[[ภาคเหนือ]]จนถึง[[ภาคใต้]]ไปจนถึง[[มาเลเซีย]] เช่น ใน[[เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา]], [[อุทยานแห่งชาติเขาสก]] เป็นต้น
 
มีลักษณะ ปลายปากเรียวแหลมจนเห็นได้ชัด ส่วนลำตัวอ้วนใหญ่ ผิวเป็นตุ่มเล็ก ๆ ไม่สะดุดตาดูคล้ายเป็นผิวหนังเรียบ เมื่อโตเต็มที่ลำตัวจะมีสีน้ำตาลแดง ริมฝีปากดำ มีขีดดำจากท้ายตาลากมาจนถึงเหนือวงแก้วหู บริเวณสีข้างอาจมีลาย หรือจุด[[สีดำ]] [[สีน้ำตาล|น้ำตาล]]เข้ม ส่วนขามีลายเข้มคาด เป็นระยะ ๆ นอกจากนี้ ยังพบว่ามันสามารถปรับเปลี่ยนสีผิวไปตามที่อยู่อาศัย เช่น ลำตัวของมันจะมีสีน้ำตาลแดงเมื่ออาศัยอยู่ตามพงหญ้าแห้ง หรือมีสีดำเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโพรงไม้ กบทูดเป็นสัตว์ที่มีนิสัยหากินตอน[[กลางคืน]] ชอบสภาพอากาศค่อนข้าง[[เย็น]] เวลากลางวันมักหลบซ่อนอยู่ตามที่มืดทึบ เช่น โพรงไม้, หลุม, พงหญ้า บริเวณเหล่านี้ล้วนมีสภาพ[[ชุ่มชื้น]]อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากกบทูดไม่สามารถอาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งหรือร้อนจัดได้นาน เพราะสภาพเช่นนี้จะทำให้ผิวหนังแห้ง อาจทำให้[[ตาย]]ได้
'''กบทูด''' หรือ '''กบภูเขา''' หรือ '''เขียดแลว''' ({{lang-en|Rana blythii}}) ซึ่งเป็น [[กบ]] ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย <ref>http://www.focuspaktai.com/index.php?file=news&obj=news.view (id=9724) </ref> ความยาวจากปลาย ปากถึงก้น ประมาณ 1 ฟุต น้ำหนักกว่า 5 กิโลกรัม มีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณป่าต้นน้ำบนภูเขาสูง อยู่ตามลำห้วยป่าดิบเฉพาะแห่ง เช่น ใน[[เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา]] [[อุทยานแห่งชาติเขาสก]]
 
ความแตกต่างเพศผู้เพศเมีย สามารถดูได้จากระยะห่างระหว่างตากับวงแก้วหู ตัวผู้จะมีระยะห่างดังกล่าวนี้ยาวกว่าตัวเมีย นอกจากนี้ ยังสังเกตได้จากเขี้ยว ซึ่งตัวผู้จะเห็นได้เด่นชัดมากกว่าตัวเมียที่มีลักษณะคล้ายตุ่มเล็ก ๆ และโดยส่วนใหญ่แล้ว กบทูดตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย
กบทูด จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 แต่จัดเป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ <ref>[http://www.ubonzoo.com/law/law_department/law_department6.htm กฎกระทรวงฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535]</ref>
 
ฤดู[[ผสมพันธุ์]]ของกบทูดอยู่ระหว่างเดือน[[มกราคม]]-[[มีนาคม]] เมื่อช่วงฤดูวางไข่ ตัวผู้จะขุดหลุมสำหรับตัวเมียวางไข่ เวลาผสมพันธุ์ตัวผู้ลงไปอยู่ในหลุมที่มันขุด แล้วจะส่งเสียงร้องเรียกตัวเมีย ตัวเมียที่พร้อมผสมพันธุ์ก็จะลงไปในหลุมนั้น หลังจากผสมพันธุ์เสร็จ ตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันกลบหลุมไข่ ซึ่งมีลักษณะเป็นกองหินนูนขึ้นมา ทั้งตัวเมียและตัวผู้จะผลัดกันเฝ้าหลุมไข่พร้อมกับออกหาอาหาร
 
กบทูด จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ใน[[พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535]] แต่จัดเป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ <ref>[http://www.ubonzoo.com/law/law_department/law_department6.htm กฎกระทรวงฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535]</ref>
 
ปัจจุบัน กบทูดเป็นสัตว์ที่หายากชนิดหนึ่งในประเทศไทย จึงมีการส่งเสริมให้มีการเพาะเลี้ยงเป็น[[สัตว์เศรษฐกิจ]] โดยทาง[[กรมประมง]]สามารถเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์จนเป็นสัตว์เศรษฐกิจได้แล้วในขณะนี้
 
== อ้างอิง ==
เส้น 25 ⟶ 34:
 
[[หมวดหมู่:กบ|ทูด]]
{{โครง[[หมวดหมู่:สัตว์}}เศรษฐกิจ]]
 
[[ca:Limnonectes blythii]]
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/กบทูด"