ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มีเกเล ซานมีเกลี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Luckas-bot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: es:Michele Sanmicheli
M-Bot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่คำอัตโนมัติ (-[[ภาพ: +[[ไฟล์:) ด้วยบอต
บรรทัด 6:
เขาได้เดินทางไป[[โรม]]ตั้งแต่เล็ก และคาดว่าน่าจะมีโอกาสได้ฝึกฝนวิชากับ[[อันโตนีโอ ดา ซานกัลโล]] (Antonio da Sangallo (Murray)) ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของ[[สถาปนิกตระกูล ซานกาลโล|สถาปนิกตระกูลซานกัลโล]]ที่มีชื่อเสียง ณ ที่นี้เขาได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับ[[สถาปัตยกรรม]]และงาน[[ประติมากรรม]]แบบคลาสสิก ในปี ค.ศ. 1509 เขาได้เดินทางไปพำนักที่เมืองออร์วีเอโต (Orvieto) ซึ่งเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ถึงยี่สิบปี เขาได้ทำการออกแบบ[[โบสถ์]]หลาย ๆ แห่งเช่น [[ซานตามารีอาเดลลากราซีเอ]] (Santa Maria delle Grazie) [[ซานโดเมนีโก]] เป็นต้น จัตุรัสหน้าโบสถ์ซานโดเมนีโกนี้เป็นรูปแบบส่วนตัวของเขาเอง
 
[[ภาพไฟล์:Zadar PortaTerraferma.jpg|thumb|Porta Terraferma in Zadar]]
มีเกเลย้ายมาที่[[เวโรนา]] ประมาณช่วงปี ค.ศ. 1527 โดยทำการออกแบบอาคารทางการทหารเป็นส่วนใหญ่ เช่น ประตูเมืองที่สามารถทนกระสุน[[ปืนใหญ่]]ได้ เขาได้ทำการปรับปรุงระบบป้อมปราการอีกหลาย ๆ ประการตามแนวทางการรบที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ในสมัยนั้น งานที่มีเกเลออกแบบนอกจากจะแข็งแรงทนทานต่อการศึกแล้ว ยังมีความงามเป็นอย่างมากด้วยการตบแต่งอย่างมหาศาล ป้อมนูโอวา (Porta Nuova) และป้อมปาลีโอ (Palio) มีการใช้องค์ประกอบเสาดอริกของโรมันเป็นเอกลักษณ์พิเศษ เข้าไปผสมกับลักษณะของการก่อให้เห็นวัสดุเปลือยให้เห็นแบบการก่อชัดเจน (rustication) [[จอร์โจ วาซารี]]ได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมชิ้นนี้ กล่าวชมเชยสาธารณรัฐเวนิสว่า เข้าใจนำองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของโรมันที่มีความหมายของความเกรียงไกรทางทหารเข้ามาใช้กับสถาปัตยกรรมทางทหารของสาธารณรัฐได้เป็นอย่างดี