ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประสิทธิ์ พยอมยงค์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Thapana1 (คุย | ส่วนร่วม)
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 52:
ประสิทธิ์ พยอมยงค์หัดเล่น[[เปียโน]]จากชัยวัฒน์ เลาหบุตร น้าชาย มาตั้งแต่อายุ 10 ปี แต่ประสิทธิ์เองมีปัญหาคือรูปร่างเล็ก และนิ้วมือสั้น ทำให้เล่นเปียโนคลาสสิกได้ไม่ดีนัก ทำให้ต้องหันไปหาการเล่นการเล่นเปียโนในแนวป๊อบปูล่าแทน ส่วนการเล่นดนตรีอย่างจริงจังนั้น เริ่มเมื่อเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้รวมพรรคพวกเพื่อตั้งวงดนตรีของมหาวิทยาลัย ตามที่นิยมตั้งในขณะนั้น สำหรับการอยู่ในวงดนตรีมหาวิทยาลัยครั้งนี้ ประสิทธิ์ได้พบกับ[[จำนรรจ์ กุณฑลจินดา]] อดีตหัวหน้าวงดนตรีกรรณเกษมด้วย
 
ส่วนงานดนตรีที่เป็นอาชีพหลักนั้น เริ่มต้นเมื่อระยะหลัง[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] ราว พ.ศ. 2489 เนื่องจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปิดทำการในระยะสงครามและเกิดสถานบันเทิงมากขึ้น ทำให้ประสิทธิ์หันไปเล่นดนตรีตามสถานบันเทิงเหล่านั้น โดยมีผู้ชักชวนคือ ครู[[ไสล ไกรเลิศ]] ครูเพลงที่ปั้น[[สุเทพ วงศ์กำแหง]] และ [[ชรินทร์ นันทนาคร]]ขึ้นมา ในขณะนั้นประสิทธิ์ พยอมยงค์มีอายุได้เพียง 20 ปี
 
ประสิทธิ์ พยอมยงค์เริ่มชีวิตการเป็นนักดนตรีครั้งแรกที่ภัตตาคารห้อยเทียนเหลา หรือ หยาดฟ้าภัตตาคาร โดยมีเพื่อนร่วมวงคือ [[จำนรรจ์ กุณฑลจินดา]] [[ฮอน หาญบุญตรง]] [[สมาน กาญจนะผลิน]] [[ธนิต ผลประเสริฐ]] [[เวส สุนทรจามร]] และ [[เฉลียว คีติกานต์]] ชาว[[ฟิลิปปินส์]] สำหรับเพลงที่เล่นมักจะเป็นเพลง[[ลีลาศ]]เป็นส่วนใหญ่
บรรทัด 60:
ประสิทธิ์ พยอมยงค์เริ่มทำงานประจำในช่วงนี้ ควบคู่ไปกับการเล่นดนตรี โดยทำงานที่บริษัทแผ่นเสียง ย่าน[[วังบูรพา]] โดยได้เป็นผู้ดูแลการสั่งเข้าแผ่นเสียง และควบคุมห้องบันทึกเสียงด้วย เช่น บริษัท อัศวินการละคร และแผ่นเสียง, บริษัท ดีคูเปอร์ แอนด์ยอห์นสัน และ บริษัท แบล๊คแอนด์ไว้ท์ ซึ่งการทำงานในวงการแผ่นเสียงนี้เอง ทำให้โลกดนตรีของประสิทธิ์กว้างขึ้นกว่าเดิม และได้รู้จักกับคนในวงการดนตรีมากขึ้น
 
ใน [[พ.ศ. 2496]] [[พ.ต.อ.พุฒ บูรณสมภพ]]ได้ตั้งวงดนตรีประสานมิตรขึ้น ประสิทธิ์ พยอมยงค์ได้เข้าไปเป็นนักดนตรีอยู่ในวงนั้น พร้อมกับพรรคพวกเดิม และใหม่หลายคน เช่น [[สมาน กาญจนะผลิน]] [[สง่า ทองธัช]] [[ม.ร.ว.พรพุฒิ วรวุฒิ]] [[มาโนช ศรีวิภา]] [[เล็ก ชะอุ่มงาม]] และ [[ชาลี อินทรวิจิตร]] แต่วงดนตรีประสานมิตรอยู่ได้ไม่นานก็สลายตัวไป เนื่องด้วยเหตุผลทางการเมือง ประสิทธิ์ พยอมยงค์และ [[จำนรรจ์ กุณฑลจินดา]] จึงฟื้นวงดนตรีใหม่ เปลี่ยนชื่อเป็นวงดนตรีกรรณเกษม ได้ [[สมาน กาญจนะผลิน]] และ [[ไพบูลย์ ลีสุวัฒน์]]มาร่วมวง
 
ประสิทธิ์ พยอมยงค์เคยเดินทางไปร่วมแสดงเพื่อกระชับสัมพันธ์กับ[[จีนแดง]] โดยร่วมคณะกับ[[สุวัฒน์ วรดิลก]] และ [[เพ็ญศรี พุ่มชูศรี]] ใน พ.ศ. 2500 เมื่อกลับมาแล้วต้องต่อสู้คดีคอมมิวนิสต์พักหนึ่ง ใน พ.ศ. 2502 จึงได้เข้ารับราชการที่[[วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์]] ร่วมกับ [[ครูเอื้อ สุนทรสนาน]]แต่อยู่ได้เพียง 3 ปี ประสิทธิ์ก็ลาออกไปอยู่วงดนตรีเทศบาลกรุงเทพกับ[[สุทิน เทศารักษ์]] จนกระทั่ง พ.ศ. 2512 จึงได้ลาออก และไปเรียนวิชาเรียบเรียงเสียงประสานกับ[[แมนรัตน์ ศรีกรานนท์]] รุ่นเดียวกับ [[นริศร ทรัพยะประภา]] และ [[ชัยยุทธ เวชสวรรค์]] พร้อมกับเข้าสอนที่นั่น จึงยุติการเล่นดนตรีตามไนต์คลับ และสอนมาจนกระทั่งอายุมากจึงเลิกสอนไป