เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
|
|
|
== การวิพากษ์วิจารณ์==
ปลายปี [[พ.ศ. 2548]] นายกทักษิณ ชินวัตรได้ฟ้องร้องต่อนาย [[สนธิ ลิ้มทองกุล]] เจ้าของ[[หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ]], นางสาว[[สโรชา พรอุดมศักดิ์]] ผู้ดำเนินรายการร่วม [[เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร]] และพวก เป็นจำนวนสูงถึง 2,000 ล้านบาท และตามมาด้วยคดีอาญามากมาย เพื่อให้หยุดการกล่าวถึงการคอรัปชันใส่ร้ายป้ายสีอันไม่มีมูล โดยจุดนี้ทำให้ดัชนี[[เสรีภาพสื่อ]]ทั่วโลก (World Press Freedom) ที่จัดอันดับโดย [[รีพอร์ตเตอรส์วิทเอาต์บอร์เดอรส์]] (Reporters Without Borders) ตกลงจากอันดับ 59 ไปที่อันดับ 107
นักวิจารณ์หลายท่านให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของนายสนธิ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลประโยชน์ของประชาชน โดยอ้างว่ากำลังต่อสู้กับ[[ระบอบทักษิณ]] อย่างไรก็ตามบาง หลายท่านก็กล่าวว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาเคลื่อนไหวเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ถึงแม้หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระบรมราโชวาทเมื่อวันที่ [[4 ธันวาคม]] พ.ศ. 2548 ทาง พต.ท. [[ทักษิณ ชินวัตร]] [[นายกรัฐมนตรี]]และหัวหน้า [[พรรคไทยรักไทย]] ได้ดำเนินการสั่งให้ทนาย คือ นายธนา เบญจาธิกุล ไปที่ศาลอาญาและศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ดำเนินการถอนฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพวกทั้งหมดแล้ว และทางนายสนธิเองก็มิยังคงไม่ยอมเลิกรา ไม่ถอนฟ้องทางฝ่ายตน และไม่ระงับการชุมนุม จนการวิพากษ์วิจารณ์เกือบจะเป็นปัญหาบานปลายเมื่อ วันที่ [[13 มกราคม]] [[พ.ศ. 2549]] ได้ฟ้องกลับแต่อย่างใดมีการประท้วงคัดค้านจนไปสู่การบุก[[ทำเนียบรัฐบาล]]
การวิพากษ์วิจารณ์เกือบจะเป็นปัญหาบานปลายเมื่อ วันที่ [[13 มกราคม]] [[พ.ศ. 2549]] ได้มีการประท้วงคัดค้านจนไปสู่การบุก[[ทำเนียบรัฐบาล]]
ในวันที่ [[31 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2549]] นายสนธิได้เดินทางไปเมือง[[กุ้ยหลิน]] [[ประเทศจีน]] โดยกล่าวว่าจะไปพักผ่อน และจะกลับในวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อถึงวันต่อมา นายสนธิมิได้กลับมา แต่ได้กลับมาในวันที่ [[2 เมษายน]] โดยบอกว่าหา[[เครื่องบิน]]กลับไม่ได้ จึงได้เดินทางไปขึ้นเครื่องต่อที่[[ฮ่องกง]] จึงมีเที่ยวบินกลับเมืองไทย
|
