ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเซ็นเซอร์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
แจ้งต้องการเก็บกวาดด้วยสจห. |
Applezapotis (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{เก็บกวาด}}
'''การเซ็นเซอร์''' ({{lang-en|'''Censorship'''}}) คือการปิดบังคำพูด
== เหตุผล ==▼
เหตุผลของการเซ็นเซอร์นั้นต่างกันออกไปตามลักษณะข้อมุลที่จะถูกเซ็นเซอร์ ▼
*การเซ็นเซอร์ทางด้านศีลธรรม คือการนำเอาสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีออก ตัวอย่างเช่นสื่อลามกซึ่งมักจะถูกเซ็นเซอร์ด้วยเหตุผลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่ออนาจารเกี่ยวกับเด็ก ถูกเซ็นเซอร์บ่อยที่สุดในโลก▼
▲เหตุผล
*การเซ็นเซอร์ทางการทหาร คือการรักษาความลับด้านยุทธวิธีและข้อมูลทางการทหารให้ห่างจากศัตรูเพื่อป้องกัน[[การจารกรรม]]ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งของกระบวนการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม บ่อยครั้งที่ทางการทหารพยายามจะปกปิดข้อมูลทางการเมืองบางอย่างที่อาจไม่เหมาะสมถึงแม้จะเป็นข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์ก็ตาม▼
▲เหตุผลของการเซ็นเซอร์นั้นต่างกันออกไปตามลักษณะข้อมุลที่จะถูกเซ็นเซอร์
*การเซ็นเซอร์ทางการเมือง คือการใช้อำนาจรัฐเมื่อทางรัฐบาลต้องการปกปิดข้อมูลางอย่างกับประชาชน
▲การเซ็นเซอร์ทางด้านศีลธรรม คือการนำเอาสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีออก ตัวอย่างเช่นสื่อลามกซึ่งมักจะถูกเซ็นเซอร์ด้วยเหตุผลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่ออนาจารเกี่ยวกับเด็ก ถูกเซ็นเซอร์บ่อยที่สุดในโลก
*การเซ็นเซอร์ทางศาสนา คือการนำข้อมูลที่เป็นปรปักษ์ต่อความเชื่อทางศาสนาออก รวมถึงการที่ศาสนาหนึ่งซึ่งมีบทบาทมากกว่าทำให้เกิดการจำกัดต่อศาสนาอื่นซึ่งมีบทบาทน้อยกว่า อีกวิธีหนึ่งคือการหลีกเลี่ยงข้อมูลและผลงานที่ทางศาสนาเห็นว่าไม่เหมาะสมต่อความเชื่อ▼
▲เพื่อป้องกันการจารกรรมซึ่งเป็นวิธีหนึ่งของกระบวนการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม บ่อยครั้งที่ทางการทหารพยายามจะปกปิดข้อมูลทางการเมืองบางอย่างที่อาจไม่เหมาะสมถึงแม้จะเป็นข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์ก็ตาม
*การเซ็นเซอร์ของบริษัท คือกระบวนการแทรกแทรงเพื่อหยุดยั้งการปล่อยข้อมูลในทางลบเกี่ยวกับธุรกิจหรือหุ้นส่วนของตน▼
▲การเซ็นเซอร์ทางการเมือง คือการใช้อำนาจรัฐเมื่อทางรัฐบาลต้องการปกปิดข้อมูลางอย่างกับประชาชน และป้องกันการแสดงออกซึ่งอาจนำไปสู่การปลุกปั่นให้เกิดจราจล
▲การเซ็นเซอร์ทางศาสนา คือการนำข้อมูลที่เป็นปรปักษ์ต่อความเชื่อทางศาสนาออก รวมถึงการที่ศาสนาหนึ่งซึ่งมีบทบาทมากกว่าทำให้เกิดการจำกัดต่อศาสนาอื่นซึ่งมีบทบาทน้อยกว่า อีกวิธีหนึ่งคือการหลีกเลี่ยงข้อมูลและผลงานที่ทางศาสนาเห็นว่าไม่เหมาะสมต่อความเชื่อ
[[ไฟล์:Voroshilov, Molotov, Stalin, with Nikolai Yezhov.jpg|thumb|right|250px|ภาพถ่ายจริงที่แสดงให้เห็นสตาลินกับ[[นิโคไล เยชอฟ]]]]
[[ไฟล์:The Commissar Vanishes 2.jpg|thumb|right|250px|ภาพถ่ายที่ถูกตัดแต่งและเผยแพร่โดยรัฐบาลแสดงให้เห็นเพียงแต่สตาลินเนื่องจาก[[นิโคไล เยชอฟ]] ขัดแย้งกับสตาลินเขาจึงถูกสังหารและถูกตัดออกจากภาพโดยกองเซ็นเซอร์โซเวียต]]
การเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดมีให้เห็นตั้งแต่กลุ่มคนในสมัยประเทศ[[คอมมิวนิสต์]] รัฐมนตรีต่างๆ เป็นผู้ควบคุมเหล่านักเขียน ผลผลิตทางวัฒนธรรมเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ความต้องการของรัฐ ในสมัยนั้นพรรค
▲การเซ็นเซอร์ของบริษัท คือกระบวนการแทรกแทรงเพื่อหยุดยั้งการปล่อยข้อมูลในทางลบเกี่ยวกับธุรกิจหรือหุ้นส่วนของตน
การครอบครองและการใช้เครื่องทำสำเนาล้วนถูกควบคุมเพื่อยับยั้งการผลิตและการเผยแพร่ของ[[หนังสือต้องห้าม]]ในโซเวียต (samizdat) หนังสือและนิตยสารที่ตีพิมพ์เองจะผิดกฎหมาย การครอบครองแม้กระทั่งหนังสือเพียงเล่มเดียวของ [[อันเดร ซินยาฟสกี]] ถือเป็นอาชญากรรมอันร้ายแรงและอาจมีการตรวจค้นจาก[[หน่วยตำรวจลับของสหภาพโซเวียต|หน่วยตำรวจลับแห่งสหภาพโซเวียต]]หรือเคจีบี ผลงานอื่นๆ ที่ไม่ได้สนับสนุนรัฐบาลต่างถูกตีพิมพ์ในต่างประเทศ [[สาธารณรัฐประชาชนจีน]]ซึ่งยังใช้กฎหมายทางการเมืองแบบคอมมิวนิสต์ว่าจ้างตำรวจ[[อินเทอร์เน็ต]]กว่าสามหมื่นคน เพื่อตรวจสอบการใช้อินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์เสิร์ชเอนจิ้นที่เป็นที่นิยม เช่น [[กูเกิล]] และ [[ยาฮู!]] และในประเทศ[[อิรัก]]ภายใต้การปกครองของ[[ซัดดัม ฮุสเซน]] มีการเซ็นเซอร์ข่าวสารเช่นเดียวกับในประเทศโรมาเนียภายใต้[[นิโคไล เชาเชสกู|ประธานาธิบดีนิโคไล เชาเชสกู]]แต่มีความรุนแรงทางการเมืองมากกว่า ส่วนสื่อในประเทศ[[คิวบา]]ดำเนินการภายใต้การตรวจการของพรรคคอมมิวนิสต์ หน่วยงานการกำหนดทิศทางของการปฏิวัติ (Department of Revolutionary Orientation) ซึ่งทำหน้าที่พัฒนาและประสานงานกลยุทธ์ในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ซึ่งการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
== การเซ็นเซอร์ความลับของรัฐและการป้องการความสนใจ ==▼
ในช่วงภาวะสงครามมีการเซ็นเซอร์อย่างเปิดเผย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการปล่อยข้อมูลบางอย่างที่อาจะป็นประโยชน์แก่ศัตรู โดยทั่วไปเป็นการเก็บข้อมูลเรื่องเวลาและสถานที่ หรือถ่วงเวลาการปล่อยข้อมูลจนกระทั่งแน่ใจว่าไม่มีประโยชน์ต่อกองทัพฝ่ายตรงข้าม เช่น จุดประสงค์การปฏิบัติการ ในทางศีลธรรมอาจะเห็นไปในทางต่างกัน ผู้ที่สนับสนุนการกระทำนี้เห็นว่าการปล่อยข้อมูลด้านยุทธวธีก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากมายต่อความตายของผู้คนและมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพ้สงครามของทั้งหมด ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] จดหมายซึ่งเขียนโดยทหาร[[อังกฤษ]]จะถูกส่งผ่านกระบวนกองเซ็นเซอร์ ซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่คอยอ่านจดหมายและใช้ปากกกามารคเกอร์สีดำขีดข้อความที่ไม่เหมาะสมทิ้งก่อนจะส่งจดหมายออกไป ซึ่งมีวลีหนึ่งที่เป็นที่นิยมในสมัย[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] “หลุดปาก เรือจม” (Loose lips sink ships) เป็นการกระตุ้นให้แต่ละคนมีความระมัดระวังเมื่อต้องพูดเกี่ยวกับข้อมูลอันเปราะบางทางการเมือง ตัวอย่างของ[[นโยบายเก็บกวาด]]ของสหภาพโซเวียตภายใต้การนำของ[[โจเซฟ สตาลิน]] ซึ่งมีปรากฎไว้บนภาพถ่ายและเผยแพร่เป็นการประณามการประหารชีวิตของนโยบายของสตาลิน แม้ภาพถ่ายเก่าๆ จะถูกเก็บไว้แล้วแต่ภาพเหล่านั้นยังอยู่ในความทรงจำของสาธารณะ และเป็นสัญลักษณ์ของระบบสตาลินและระบอบการปกครองแบบ[[เผด็จการเบ็ดเสร็จ]] ซึ่งการเซ็นเซอร์ส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องผู้มีอำนาจหรือบุคคลบางคนหรือการสนใจของสื่อมวลชนต่อเหยื่อการลักพาตัวเด็กถือเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
== การเซ็นเซอร์
เนื้อหาสาระของหนังสือเรียนในโรงเรียนส่วนมากเป็นการอภิปรายและต่อต้าน
▲การเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดมีให้เห็นตั้งแต่กลุ่มคนในสมัยประเทศคอมมิวนิสต์ รัฐมนตรีต่างๆเป็นผู้ควบคุมเหล่านักเขียน ผลผลิตทางวัฒนธรรมเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ความต้องการของรัฐ ในสมัยนั้นพรรคการเมือเป็นผู้ตรวจเช็คและควบคุมก่อนที่จะเผยแพร่ ในสมัยของสตาลิน (Stalinist period) แม้กระทั่งการพยากรณ์อากาศยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าหากรัฐบาลต้องการบอกว่าพระอาทิตย์จะไม่ส่องสว่างในวันที่ 1 พฤษภาคม ภายใต้การปกครองของ Nicolae Andruţă Ceauşesc แห่ง โรมาเนีย การรายงานสภาพอากาศถูกควบคุม อุณหภูมิจะได้ไม่ดูว่าขึ้นลงหรือเปลี่ยนแปลงมากจนถึงจุดที่ต้องออกคำสั่งหยุดงาน
การเซ็นเซอร์ดนตรีนั้นมีรูปแบบต่างกันออกไปตามแต่ละประเทศ, ศาสนา, ระบบการศึกษา, ครอบครัวและกฎหมาย ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่จะละเมิดสนธิ[[สัญญาสิทธิมนุษยชนนานาชาติ]] นอกจากการเซ็นเซอร์สื่อลามก ภาษา และความรุนแรง [[ภาพยนตร์]]บางเรื่องถูกเซ็นเซอร์เพราะมีเนื้อหาในเชิงเปลี่ยนแปลงทัศนคติและความถูกต้องทางการเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงการขัดต่อจริยธรรมของคนส่วนใหญ่ในสังคม
== การอนุญาตเพื่อการแก้ไขบทความและรูปภาพ ==▼
การอนุญาตเพื่อการแก้ไขบทความ
การเซ็นเซอร์แผนที่ถูกใช้ทั่วไปใน
== เบื้องหลังการเซ็นเซอร์ ==▼
การเซ็นเซอร์ในลักษณะนี้
== การเซ็นเซอร์ที่สร้างสรรค์ ==
เป็นการเซ็นเซอร์โดยการเขียนข้อความใหม่ แล้วส่งข้อความลับเหล่านี้ไปให้นักเขียนร่วมอีกหนึ่งคน รูปแบบนี้ใช้ในบทประพันธ์เรื่อง
== อ้างอิง ==
*[http://en.wikipedia.org/wiki/Censorship วิกิพีเดียภาษาอังกฤษ]
▲การเซ็นเซอร์ความลับของรัฐและการป้องการความสนใจ
▲เนื้อหาสาระของหนังสือเรียนในโรงเรียนส่วนมากเป็นการอภิปรายและต่อต้าน เพราะกลุ่มเป้าหมายนั้นคือเยาวชน การปกปิดความผิดหรือเคลือบสีขาว (white washing) เป็นหนึ่งในวิธีการเลือกสรรหรือทำลายหลักฐานที่ต้องการหรือไม่ต้องการปกปิด รายงานของทหารในประวัติศาสตร์นั้นมีข้อโต้แย้งมาก เช่นในกรณีระเบิดที่เดรสเดน (Dresden) สงครามที่นานกิง ซึ่งสามารถพบในหนังสือเรียนของญี่ปุ่น การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ของชาวอเมริกัน และเหตุการณ์ที่จตุรัสเทียนอันเหมิน
▲การเซ็นเซอร์ในดนตรี และวัฒนธรรมป๊อบ
▲นอกจากการเซ็นเซอร์สื่อลามก ภาษา และความรุนแรง ภาพยนตร์บางเรื่องถูกเซ็นเซอร์เพราะมีเนื้อหาในเชิงเปลี่ยนแปลงทัศนคติและความถูกต้องทางการเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงการขัดต่อจริยธรรมของคนส่วนใหญ่ในสังคม หรือหลีกเลี่ยงการต่อต้านคุณค่าในเชิงศิลปะและประวัติศาสตร์ ตัวอย่างหนึ่ง เช่น ภาพยนตร์ซีรี่ย์เรื่อง Censored Eleven ซึ่งเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่น แต่ถูกเซ็นเซอร์เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้อง
▲การอนุญาตเพื่อการแก้ไขบทความและรูปภาพ
▲การอนุญาตเพื่อการแก้ไขบทความ คือสิทธิในการอ่านและแก้ไขบทความก่อนการส่งตีพิมพ์ซึ่งส่วนมากมักเป็นบทสัมภาษณ์ หลายสำนักพิมพ์ปฏิเสธที่จะให้สิทธิ์ในการแก้ไขบทความแต่ปัจจุบันได้กลายเป็นข้อปฏิบัติธรรมดาเมื่อบุคคลมีชื่อเสียงเกิดความกังวลใจอย่างมาก การอนุญาติเพื่อแก้ไขรูปภาพ คือสิทธิ์ที่จะให้บุคคลนั้นๆ เลือกรูปภาพที่จะถูกนำไปตีพิมพ์หรือไม่ควรถูกตีพิมพ์ด้วยตนเอง Robert Redford เป้นผู้หนึ่งที่เรียกร้องถึงสิทธิ์ในการเลือกรูปภาพ นักหนังสือพิมพ์ของฮอลลิวูด Pat Kingsley เป็นที่รู้จักการดีว่าเป็นผุ้ต่อต้านนักเขียนที่เขียนข่าวแย่ๆต่อลูกค้าของเธอจากการสัมภาษณ์
▲การเซ็นเซอร์แผนที่
▲การเซ็นเซอร์แผนที่ถูกใช้ทั่วไปในเยอรมันตะวันออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ติดกับชายแดนของเยอรมันตะวันออก เพื่อให้การหลบหนีออกนอกประเทศเป็นไปได้ยากขึ้น การเซ็นเซอร์แผนที่นั้นยังถูกนำไปประยุกต์ใช้โดยกูเกิลแมป เมื่อพื้นที่นั้นๆตั้งใจถูกทิ้งไว้ล้าสมัย
▲เบื้องหลังการเซ็นเซอร์
▲การเซ็นเซอร์ในลักษณะนี้ ข้อมุลต่างๆเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์และมาตรฐานทางกฎหมายในการเซ็นเซอร์ล้วนถูกเซ็นเซอร์อีกที กฎของการเซ็นเซอร์ถูกแบ่งออกเป็นหมวดหมู่
▲การเซ็นเซอร์ที่สร้างสรรค์
▲เป็นการเซ็นเซอร์โดยการเขียนข้อความใหม่ แล้วส่งข้อความลับเหล่านี้ไปให้นักเขียนร่วมอีกหนึ่งคน รูปแบบนี้ใช้ในบทประพันธ์เรื่อง Nineteen Eighty-Four
|