ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระอินทราชา"

'''สมเด็จพระอินทรราชา''' (เจ้านครอินทร์) หรือ '''สมเด็จพระนครินทราธิราช''' ทรงเป็นพระราชนัดดาใน[[ขุนหลวงพะงั่ว]] เสด็จพระราชสมภพ เมื่อปี [[พ.ศ. 1902|พ.ศ. ๑๙๐๒]] พระองค์ทรงครองราชย์ เมื่อปี เป็นพระราชนัดดาใน[[พ.ศ. 1952|พ.ศ.สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑๙๕๒1]] ทรงและเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๖6 ของ[[กรุงศรีอยุธยา]] เมื่อปี [[พ.ศ. 1952]]

ในปี พ.ศ. ๑๙๖๒1962 [[พระมหาธรรมราชาที่ 3|พระมหาธรรมราชาธิราช]]เสด็จสวรรคต เป็นเหตุให้[[พระยาบาลเมือง]]และ[[พระยาราม]]ได้สู้รบเพื่อชิงราชสมบัติกรุงแห่ง[[กรุงสุโขทัย]] พระองค์ได้ทรงเข้าไปไกล่เกลี่ย แล้วทรงอภิเศกอภิเษกพระยาบาลเมือง ให้ครองกรุงสุโขทัย และพระยารามราชครองเมือง[[ศรีสัชนาลัย]] หลังจากนั้น ได้ทรงปรับปรุงการปกครองหัวเมืองต่าง ๆ ของกรุงศรีอยุธยาใหม่ ได้พระองค์โปรดเกล้า ฯเกล้าฯ ให้พระราชโอรสไปครองเมืองต่างๆ ได้แก่ [[เจ้าอ้ายพระยา]]ไปครอง[[เมืองสุพรรณบุรี]]ซึ่งเป็น[[เมืองลูกหลวง]] [[เจ้ายี่พระยา]]ไปครองเมือง[[แพรกศรีราชา]] (บริเวณ[[อำเภอสรรคบุรี]] [[จังหวัดชัยนาท]]) และ[[เจ้าสามพระยา]]ไปครองเมือง[[ชัยนาท]]ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านทางด้านเหนือ

เจ้านครอินทร์สมเด็จพระอินทรราชาเคยเสด็จไปเมืองจีน เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๒๐1920 เมื่อครั้งยังครองเมือง[[สุพรรณบุรี]] เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์แล้วก็ได้ทรงส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับ[[จีน]] พระเจ้ากรุงจีนให้ความสนิทสนม อีกทั้งยังยกย่องว่าเป็นกษัตริย์อีกองค์หนึ่ง เมื่อ[[สมเด็จพระรามราชาธิราช(พระราชโอรสสมเด็จพระราเมศวร)ได้มี]]เกิดข้อพิพาทกับเจ้าพระยามหาเสนาบดี ผู้เป็นอัครมหาเสนาบดี และเป็นผู้บังคับบัญชาทหาร เหตุให้เจ้าพระยามหาเสนาบดีได้หนีไปมาขึ้นกับเจ้านครอินทร์ พระองค์และยกกำลังจากสุพรรณบุรีมาเข้ายึดวังหลวงกรุงศรีอยุธยาได้ แล้วจึงทูลเชิญเจ้านครอินทร์ขึ้นครองราชย์กรุงศรีอยุธยา ส่วนสมเด็จพระบรมรามราชาธิราชที่ ๒ ได้รับโปรดเกล้า ฯ ให้ไปครองเมือง[[ปทาคูจาม]] แทน เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๕๒1952

{{สืบตำแหน่งพิเศษเริ่มกล่อง}}

{{สืบราชสมบัติตำแหน่งพิเศษ