ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อานแห่งเบรอตาญ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 27:
เมื่อมาถึง[[สงครามสืบครองบริตานี]] (Breton War of Succession) ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 บริตานีก็ใช้[[กฏบัตรซาลลิค|กฏบัตรซาลลิคแปลง]]ที่อนุญาตให้สตรีสืบอำนาจของอาณาจักรได้ถ้าผู้มีสิทธิฝ่ายชายสิ้นชีวิตกันไปหมด เมื่อแอนน์ประสูติพระบิดาก็เป็นเพียงทายาทชายคนเดียวของบริตานีที่เหลืออยู่ของ[[ตระกูลเดรอซ์]] (House of Dreux) สงครามสืบอาณาจักรยุติลงด้วยการตกลงว่าในเมื่อไม่มีทายาทชาย ทายาทของ Joanna of Penthievre ก็เป็นผู้สืบเชื้อสายต่อไป แต่ร้อยปีหลังจากนั้นข้อตกลงนี้ก็ถูกลืมกันไป ฉะนั้นเมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1486 เมื่อบิดาของแอนน์พยายามให้แอนน์เป็นที่ยอมรับว่าเป็นทายาท แต่การแต่งงานของแอนน์กลายเป็นปัญหาทางการเมือง ดยุคฟรานซิสผู้ไม่ต้องการให้บริตานีกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศสก็พยายามหาคู่ที่สามารถต่อต้านอำนาจของฝรั่งเศสได้
 
ดินแดนบริตานีกลายเป็นที่ต้องการของหลายฝ่ายที่ทำให้แอนน์มีผู้ประสงค์จะแต่งงานด้วยมากมาย แอนน์ได้รับการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการไว้กับ[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 แห่งอังกฤษ|เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์]]พระราชโอรสของ[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ]]ในปี ค.ศ. 1483 แต่เจ้าชายหายตัวไปอย่างไม่มีร่องรอยไม่นานหลังจากที่พระราชบิดาเสด็จสวรรคตและสันนิษฐานกันว่าสิ้นพระชนม์ ผู้อื่นที่ต้องการจะเสกสมรสกับแอนน์ก็ได้แก่[[สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิลเลียนที่เลียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]], Alain d'Albret, ฌอง เดอ ชาลองส์ (Jean de Châlons) (เจ้าชายแห่งออเรนจ์) และแม้แต่[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส|หลุยส์ ดยุคแห่งออร์เลอองส์]]ผู้ขณะนั้นมีภรรยาแล้ว
 
ในปี ค.ศ. 1488 กองทัพของดยุคฟรองซัวส์ได้รับความพ่ายแพ้ต่อฝรั่งเศสใน[[ยุทธการแซงต์โอแบงดูคอร์มิเยร์ (ค.ศ. 1488)|ยุทธการแซงต์โอแบงดูคอร์มิเยร์]] (Battle of Saint-Aubin-du-Cormier) ซึ่งเป็นการยุติสงคราม “Guerre folle” ใน[[สนธิสัญญาเซเบล]] (Treaty of Sablé) ของการยุติสงครามดยุคฟรองซัวส์ถูกบังคับให้ตกลงว่าการแต่งงานของลูกสาวต้องได้รับการอนุมัติโดยพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศส ดยุคฟรองซัวส์เสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้นเมื่อวันที่ [[9 กันยายน]] [[ค.ศ. 1488]] หลังจากตกจากหลังม้า แอนน์จึงกลายเป็น[[ดยุคแห่งบริตานี|ดัชเชส]] บริตานีเข้าสู่วิกฤติกาลใหม่ที่นำไปสู่สงครามฝรั่งเศส-บริตานี
บรรทัด 33:
[[ไฟล์:Blois cominus et eminus.JPG|thumb|260px|left|เม่นแห่งบริตานีหน้าประตู[[วังบลัวส์]] (Château de Blois)]]
 
สิ่งแรกที่สำคัญที่จำเป็นต้องทำสำหรับแอนน์คือการหาสามีที่ถ้าดีก็ควรจะเป็นผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อฝรั่งเศสและมีอำนาจพอที่จะรักษาความเป็นอิสระของบริตานีได้ด้วย [[สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|พระจักรพรรดิแม็กซิมิลเลียน]] ถือว่าเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุด [[การเสกสมรสโดยฉันทะ]]ของพระองค์กับจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนเกิดขึ้นที่[[แรนน์]]เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1490 ซึ่งทรงได้รับพระอิสริยยศเป็น “จักรพรรดินีแห่งโรมัน” แต่เป็นการเสกสมรสที่นำมาซึ่งปัญหาร้ายแรง ฝรั่งเศสนอกจากจะถือว่าเป็นการท้าทายโดยตรงและก็ยังเป็นการละเมิด[[สนธิสัญญาเซเบล]]ที่พระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสมิได้รับการปรึกษาและอนุมัติการเสกสมรส นอกจากนั้นก็ยังทำให้บริตานีตกไปเป็นของฝ่ายศัตรูของฝรั่งเศสอีกดัวย การเสกสมรสเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะด้วย เพราะในขณะนั้นแฮ็บสเบิร์กมัวยุ่งอยู่กับปัญหาในฮังการีจนไม่อาจหันมาสนใจกับบริตานีได้ และฝ่ายคาสตีลก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการต่อสู้ในกรานาดา แม้ว่าทั้งคาสตีลและอังกฤษจะส่งกองทหารมาหนุนกองทัพของบริตานีบ้าง แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดที่ต้องการจะต่อสูในสงครามอย่างออกหน้าออกตากับฝรั่งเศส ในฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 1491 นายพลหลุยส์ที่ 2 แห่ง Trémoille และ[[พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8 แห่งฝรั่งเศส]]ก็นำทัพมาล้อมเมืองแรนน์
 
เมื่อพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนมิได้ส่งกำลังมาช่วยแรนน์ก็เสียเมือง แอนน์จึงต้องมาหมั้นกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8 ทันที่ที่แรนน์และเดินทางพร้อมกับกองทหารอารักขาของพระองค์ไปยัง[[วังลองเชส์]] (Château de Langeais) เพื่อไปทำการเสกสมรส ทางออสเตรียก็ได้แต่ประท้วงว่าเป็นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องเพราะเจ้าสาวมิได้เต็มใจ และเจ้าสาวแต่งงานโดยถูกต้องตามกฎหมายกับพระจักรพรรดิแม็กซิมิลเลียนแล้วเลียนแล้ว และพระเจ้าชาร์ลส์เองก็ทรงหมั้นกับ[[มาร์เกอรีตแห่งออสเตรีย]]พระธิดาของพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนเองแล้ว แต่แอนน์ก็ต้องเสกสมรสกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1491
 
ต่อมาการแต่งงานก็ได้รับการอนุมัติว่าถูกต้องโดย[[สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 8]] เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1492 สัญญาการเสกสมรสระบุว่าฝ่ายใดที่เสียชีวิตก่อนผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะได้รับดินแดนบริตานี แต่ระบุต่อไปว่าถ้าพระเจ้าชาร์ลส์เสด็จสวรรคตโดยไม่มีรัชทายาท แอนน์ต้องแต่งงานกับผู้ครองราชย์ต่อจากพระองค์ซึ่งเป็นโอกาสที่สองที่ฝรั่งเศสสามารถผนวกดินแดนบริตานีได้อย่างถาวร
บรรทัด 51:
== สิ้นพระชนม์ ==
[[ไฟล์:Coeur Anne.JPG|thumb|220px|ผอบหัวใจของแอนน์แห่งบริตานี]]
แอนน์สิ้นพระชนม์กลางฤดูหนาวของปี ค.ศ. 1513-ค.ศ. 1514 เมื่อวันที่ 9 มกราคม ด้วยพระโรคนิ่วที่[[พระราชวังบลัวส์]] พระร่างถูกบรรจุที่[[มหาวิหารแซงต์เดอนีส์]] พระราชพิธีศพของพระองค์เป็นพิธีที่ยาวนานเป็นพิเศษถึง 40 วันและมีอิทธิพลต่อพระราชพิธีศพต่อมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 [[เรควีเอ็ม]]ของแอนน์เขียนโดย[[โยฮันเนส พริโอริส]] (Johannes Prioris) คีตกวีคนสำคัญ<ref>For a historical and musicological perspective on Prioris's Requiem, read {{cite conference
| first = Eugeen
| last = Schreurs