ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อนัตตา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล โรบอต เพิ่ม: sr:Анатман |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{พุทธศาสนา}}
'''อนัตตา''' หรือ '''อนัตตตา''' แปลว่า ''ไม่มีอัตตา'' , ''ไม่มีตัวตน'' , ''มิใช่[[อัตตา]]'', ''มิใช่ตัวตน'' โดยทั่วไปหมายถึง [[สังขารธรรม]] อันได้แก่ [[ขันธ์]]
== เหตุที่ได้ชื่อว่า "อนัตตา" ==
'''อนัตตา''' ที่ขันธ์
# ''เป็นสภาพว่างเปล่า'' คือหาสภาวะที่แท้จริงไม่ได้ เพราะประกอบด้วยธาตุ
# ''หาเจ้าของมิได้'' คือไม่มีใครเป็นเจ้าของแท้จริง สงวนรักษามิให้เปลี่ยนแปลงไม่ได้
# ''ไม่อยู่ในอำนาจ'' คือไม่อยู่ในบัญชาของใคร ใครบังคับไม่ได้ เช่นบังคับมิให้แก่ไม่ได้
# ''แย้งต่ออัตตา'' คือตรงข้ามกับอัตตา
== อนัตตา กับ อนัตตลักษณะ ไม่เหมือนกัน ==
อนัตตา กับ อนัตตลักษณะ เป็นคนละอย่างกัน เพราะเป็น [[ลักขณวันตะ]] และ [[ลักขณะ]] ของกันและกัน<ref>พุทฺธโฆสาจริโย, วิสุทฺธิมคฺค-อฏฺฐกถา , อุปกฺกิเลสวิมุตฺตอุทยพฺพยญาณกถา, ปฏิปทาญาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทโส, วิสุทฺธิ. 2 ข้อ 739.</ref><ref>ธมฺมปาลาจริโย, ปรมตฺถมญฺชูสา-ฏีกา, อุปกฺกิเลสวิมุตฺตอุทยพฺพยญาณกถาวณฺณนา ปฏิปทาญาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา วิสุทธิมคฺคมหาฏีกา, วิสุทฺธิ.มหาฏี. 2 ข้อ 739.</ref><ref>พุทฺธโฆสาจริโย, สมฺโมหวิโนทนี-อฏฺฐกถา, อายตนวิภงฺคนิทฺเทสวณฺณนา สุตฺตนฺตภาชนีวณฺณนา อภิธมฺม-อฏฺฐกถา,อภิ.อฏฺ. 2 ข้อ 154.</ref><ref>
ธมฺมปาลาจริโย, มูลฏีกา, อายตนวิภงฺคนิทฺเทสวณฺณนา สุตฺตนฺตภาชนีวณฺณนา อภิธมฺม-มูลฏีกา,อภิ.มูลฏี. 2 ข้อ 154.</ref><ref>ธมฺมปาลาจริโย, ลีนตฺถวณฺณนา-ฏีกา, อายตนวิภงฺคนิทฺเทสวณฺณนา สุตฺตนฺตภาชนีวณฺณนา อภิธมฺม-อนุฏีกา, อภิ.อนุฏี. 2 ข้อ 154.</ref> ดังนี้ :-
* [[อนตฺตา]] ([[อนตฺตา]]) - หมายถึง ขันธ์ 5 ทั้งหมด เป็นปรมัตถ์ เป็นสภาวะธรรม มีอยู่จริง, คำว่า"ทุกขัง"เป็นคำ[[ไวพจน์]]ชื่อหนึ่งของขันธ์ 5.
* [[อนัตตลักษณะ]] ([[อนตฺตลกฺขณํ]],[[อนตฺตตา]]) - หมายถึง เครื่องกำหนดขันธ์ 5 ทั้งหมดซึ่งเป็นตัวทุกขัง. อนัตตลักษณะเป็นบัญญัติ ไม่ใช่สภาวะธรรม ไม่มีอยู่จริง ดังที่ท่านกล่าวไว้ใน[[อัฏฐสาลินี]]ว่า "''วุฏฺฐานคามินี ปน วิปสฺสนา กิมารมฺมณาติ ลกฺขณารมฺมณาติ. ลกฺขณํ นาม ปญฺญตฺติคติกํ น วตฺตพฺพธมฺมภูตํ.-ก็วุฏฐานคามินีวิปัสสนามีอะไรเล่าเป็นอารมณ์ ตอบว่า มีลักษณะเป็นอารมณ์ ชื่อว่า '''ลักษณะมีคติเป็นบัญญัตติ เป็นนวัตตัพพธรรม'''''"<ref>อภิ.ธ.อ.มกุฏ 75/-/620", บาลีอยู่ใน "โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา - -34- อฏฺฐสาลินี ธมฺมสงฺคณี-อฏฺฐกถา (พุทฺธโฆส) - อภิ.อฏฺ. 1 ข้อ
ใน[[วิสุทธิมรรค]] ท่านได้ยกอนัตตลักษณะจาก[[ปฏิสัมภิทามรรค]]มาแสดงไว้ 5 แบบ เรียกว่า [[โต 5]] และในพระไตรปิฎกยังมีการแสดงอนัตตลักษณะไว้ในแบบอื่นๆอีกมากมาย. แต่คัมภีร์ที่รวบรวมไว้เป็นเบื้องต้นเหมาะสำหรับเป็นคู่มือสำหรับปฏิบัติธรรมได้แก่ คัมภีร์[[ปฏิสัมภิทามรรค]] เพราะสามารถจะจำคำที่คนโบราณใช้กำหนดกันจากคัมภีร์นี้แล้วนำไปใช้ได้ทันที ดังที่ท่านแสดงไว้เป็นต้นว่า ''"จกฺขุ อหุตฺวา สมฺภูตํ หุตฺวา น ภวิสฺสตีติ ววตฺเถติ - นักปฏิบัติธรรมย่อมกำหนดว่า "[[จักขุปสาท]]ที่ยังไม่เกิดก็เกิดมีขึ้น พอมีขึ้นแล้วต่อไปก็จะกลายเป็นไม่มีไปอีก"''เป็นต้น (ให้เพ่งเล็งถึงลักษณะที่ไรอำนาจบังคับตัวเองใหไม่เปลี่ยนไปไม่ได้ ก็จะกลายเป็นการกำหนดอนัตตขลักษณะ).
เส้น 19 ⟶ 20:
การแปลคำว่า อนัตตานั้น ใช้ได้ทั้งคำว่า ไม่มีอัตตา, ไม่มีตัวตน, มิใช่[[อัตตา]], มิใช่ตัวตน เพราะ
# สามารถแปลเข้ากันได้กับพระพุทธพจน์ที่ว่า "สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา, สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา - [[สังขาร]] ([[ขันธ์]] 5) ทั้งหมดทั้งสิ้น มันเป็นสิ่งไม่เที่ยง,[[สังขาร]] ([[ขันธ์]] 5) ทั้งหมดทั้งสิ้น มันเป็นตัวทุกข์, [[สรรพสิ่ง]]ทุกสิ่งทุกอย่าง ([[ขันธ์]] 5, [[นิพพาน]], [[บัญญัติ]]) มันไม่ใช่ตัวตน"ดังนี้. ซึ่งในพระคัมภีร์ต่างๆ เช่น [[อภิธัมมัตถสังคหะ]] ปริจเฉทที่ 8 และ [[อภิธัมมาวตาร]] บัญญัตินิทเทส เป็นต้น ท่านได้ระบุไว้ว่า ไม่มีอะไรพ้นไปจาก [[ขันธ์]] 5, [[นิพพาน]], [[บัญญัติ]] ดังนั้นขันธ์ 5 จังไม่ใช่ตัวตน เพราะตัวตนไม่มีอยู่ในที่ใดๆเลย.
# สามารถแปลเข้ากันได้กับ[[สักกายทิฏฐิ]] 4 หรือ 20 ดังที่ทรงตรัสไว้ทั้ง 4 อย่าง คือ
## ความเข้าใจผิดว่า ''ขันธ์ 5 เป็นตัวตนเราเขา'',
เส้น 31 ⟶ 32:
== ดูเพิ่ม ==
* [[ไตรลักษณ์]]
* [[อนิจจัง]]
* [[ทุกขัง]]
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
[[หมวดหมู่:ธรรมหมวด 3]]
[[หมวดหมู่:อภิธานศัพท์พุทธศาสนา]]
|