ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 7:
|สถานที่เกิด= อัสเชอร์เลเบน [[จักรวรรดิเยอรมัน]]
|สถานที่ถึงแก่กรรม=[[ฮานโนเฟอร์]] [[โลว์เออร์แซกโซนี]] [[ประเทศเยอรมนี|สหพันธรัฐเยอรมนี]]
|ฉายา= "อัศวินมืดดำ"
|เหล่าทัพ=[[กองทัพบก]]
|รับราชการทหาร= ค.ศ. 1892 - 1938<br>
บรรทัด 17:
|บัญชาการ=
|สงคราม=[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]
|รางวัล=[[เครื่งอิสรยาภรณ์เครื่องอิสริยาภรณ์อัศวินชั้นกางเขนเหล็ก]]<br>
[[กางเขนเหล็ก]]
|อาชีพอื่น=
}}
 
'''คาร์ล รูดอล์ฟ เกอร์ด ฟอน รุนด์ชเทดท์''' ({{lang-de|Karl Rudolf Gerd von Rundstedt}}; [[12 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1875]] - [[24 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1953]]) เป็น[[จอมพล]]แห่งกองทัพเยอรมัน ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ผู้ได้รับสมญานามว่า "อัศวินมืดดำ" (Black Knight)
 
== สงครามโลกครั้งที่สอง ==
 
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น เขาถูกเรียกตัวกลับมารับรัฐการราชการทหารอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำกองทัพกลุ่มใต้ระหว่างการรุกรานโปแลนด์ และในระหว่างการรบในฝรั่งเศส เขาได้บัญชาการ 7 กองพลแพนเซอร์ 37 หน่วย กองพลยานยนต์ทหารราบ และ3 35หน่วย และกองพลทหารราบ 35 หน่วย
 
เกอร์ด ฟอน รุนด์ชเทดท์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจอมพลเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม [[ค.ศ. 1940]] และมีส่วนในการวางแผน[[ปฏิบัติการสิงโตทะเล]] เมื่อแผนการบุกดังกล่าวถูกเลื่อนเวลาออกไป เขาจึงเป็นผู้บัญชาการกองกำลังยึดครองและได้รับมอบหมายให้สร้างแนวป้องกันทางทะเลตามชายฝั่งของ[[ประเทศเนเธอร์แลนด์|เนเธอร์แลนด์]] [[ประเทศเบลเยี่ยม|เบลเยี่ยม]] และ[[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]]
บรรทัด 34:
{{ดูเพิ่มที่|ปฏิบัติการบาร์บารอสซา|แนวรบด้านตะวันออก (สงครามโลกครั้งที่สอง)}}
 
ระหว่างปฏิบัติการบาร์บารอสซา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน [[ค.ศ. 1941]] เขาได้รับมอบอำนาจบัญชาการกองทัพกลุ่มใต้ ซึ่งประกอบด้วย 52 กองพลทหารราบ และ52 5หน่วย และกองพลแพนเซอร์ 5 หน่วย บุกเข้าไปใน[[สหภาพโซเวียต]] เมื่อถึงเดือนกันยายน กองทัพกลุ่มใต้สามารถยึด[[เคียฟ]] ในปฏิบัติการโอบล้อมสองครั้ง ทำให้สตาลินจำเป็นต้องละทิ้งเมืองไว้ กองทัพเยอรมันอ้างว่าตนสามารถจับเชลยศึกชาวโซเวียตได้กว่า 665,000 นาย หลังจากนั้น จึงเป็นผู้บัญชาการการโจมตีคาร์คอฟและรอสตอฟในเวลาต่อมา เขามีความเห็นคัดค้านการเดินหน้ารุกรานสหภาพโซเวียตต่อไปในฤดูหนาวและแนะนำให้ฮิตเลอร์สั่งหยุดการโจมตีไว้ก่อน แต่ข้อเสนอของเขาไม่ได้รับความยินยอมความเห็นชอบ
 
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1941 เขาเกิดอาการ[[กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด]] แต่เขาปฏิเสธที่จะได้รับการรักษาพยาบาล และยืนยันที่จะบัญชาการรบต่อไป หลังจากตีได้รอสตอฟ เมื่อวันที่ [[21 พฤศจิกายน]] แล้ว แต่กองทัพเยอรมันถูกตีโต้กลับมา เขาจึงสั่งการให้กองทัพบางส่วนล่าถอย ฮิตเลอร์โกรธมาก จึงสั่งให้นายพล[[วัลเทอร์ ฟอน ไรเชนนาว]] บัญชาการรบแทน
บรรทัด 42:
{{ดูเพิ่มที่|แนวรบด้านตะวันตก (สงครามโลกครั้งที่สอง)}}
 
ฮิตเลอร์เรียกตัวเกอร์ด ฟอน รุนด์ชเทดท์กลับเข้ารับหน้าที่ดังเดิมในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตก ในเดือนมีนาคม [[ค.ศ. 1942]] แต่การทำงานของเขาล่าช้า จนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ [[ค.ศ. 1943]] ก็ยังแทบไม่มีการสร้างป้อมปราการใดตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเลย เพียงแต่ผู้จนเมื่อเออร์วิน รอมเมล ได้รับมอบหมายมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา จึงค่อยได้เริ่มแสดงให้เห็นความคืบหน้าการก่อสร้างบ้าง
 
ส่วนแผนการป้องกันทางทะเล เขาเห็นว่า ควรจะมีการจัดวางกำลังยานเกราะอยู่ในแนวหลัง เพื่อที่จะได้สั่งโจมตีพื้นที่ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกมา แต่จอมพลรอมเมลไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เขาเห็นว่า ควรจะจัดวางกำลังยานเกราะใกล้กับแนวชายฝั่ง โดยอยู่นอกวิถีของปืนใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนทางด้านฟอน รุนด์ชเทดท์ถูกชักจูงให้เชื่อว่า การยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของฝรั่งเศสจะไม่เกิดขึ้น และควรจะมีการวางกำลังยานเกราะเพียงเล็กน้อยไว้ที่นั้น ทำให้มีกองกำลังยานเกราะเพียงสองกองพลป้องกันเขต[[นอร์มองดี]] ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาลเมื่อการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรมาถึง
 
หลังจาก[[การยกพลขึ้นบกในนอร์มองดี]] เมื่อเดือนมิถุนายน [[ค.ศ. 1944]] เขาได้กระตุ้นให้ฮิตเลอร์เจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เมื่อเขาถูกปฏิเสธ ว่ากันว่า เขาได้ระเบิดออกมาว่า ''"สร้างสันติภาพสงบศึกซะ ไอ้โง่"'' ฮิตเลอร์ได้ปลดเขาออก และแทนที่โดยจอมพล[[กึนเธอร์ ฟอน คลุจ]]
 
กลางเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1944 เขาได้รับตำแหน่งในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง เขาได้รวบรวมกองกำลังเพื่อต่อกรกับ[[ปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดน]]อย่างรวดเร็ว และได้รับชัยชนะ เขาถูกปลดออกจากกองบัญชาการอีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม [[ค.ศ. 1945]] เนื่องจากเขาบอกกับเคย์เทลว่า ฮิตเลอร์ควรจะเจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร ดีกว่าสู้รบในสงครามอันสิ้นหวังนี้
บรรทัด 64:
* Schaulen, Fritjof (2005). ''Eichenlaubträger 1940 - 1945 Zeitgeschichte in Farbe III Radusch - Zwernemann'' (in German). Selent, Germany: Pour le Mérite. ISBN 3-932381-22-X.
* Ziemke, Earl, "Gerd Von Rundstedt" in ''Hitler's Generals'', ed. Correlli Barnet, New York: Grove Weidenfeld, 1989
 
 
{{เกิดปี|2418}}
{{ตายปี|2496}}
 
[[หมวดหมู่:ผู้นำการทหารในสงครามโลกครั้งที่สอง]]
[[หมวดหมู่:อาชญากรสงครามชาวเยอรมัน]]
[[หมวดหมู่:ทหารชาวเยอรมัน]]
{{เกิดปี|2418}}
{{ตายปี|2496}}
{{โครงบุคคล}}