ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ร้านภูฟ้า"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
{{ลบ}} |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{ลบ}}
{{ไม่เป็นสารานุกรม}}
'''ร้านภูฟ้า''' จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆของโครงการพัฒนาต่าง ๆ ซึ่งช่วยการส่งเสริมอาชีพประชาชนในถิ่นทุรกันดาร พัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร
ร้านภูฟ้า ใช้ตราสัญลักษณ์ "ภูฟ้า" เป็นเครื่องหมายการค้า
== พระราชดำรัส สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ==▼
=== การส่งเสริมอาชีพประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ===▼
[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] มีพระราชดำริ ให้ดำเนินงานโครงการพัฒนาต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนที่ด้อยโอกาส ในถิ่นทุรกันดารห่างไกลคมนาคม ให้มี คุณภาพชีวิตดีขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เป็นต้นมา
ด้วยทรงเห็นว่าประชาชนในพื้นที่เหล่านี้มีความเป็นอยู่ยากลำบาก ได้รับบริการพื้นฐานต่าง ๆ จากรัฐไม่ทั่วถึง ดังนั้นการพัฒนาทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม จึงเป็นไปอย่างช้า ๆ และไม่เพียงพอ ทำให้มาตรฐานในการดำรงชีวิตของประชาชนเหล่านี้ ไม่เท่าเทียมกับประชาชนใน พื้นที่อื่น ๆ
==ปัญหาพื้นฐาน 4 ประการ==
ในการดำเนินงานโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนเหล่านี้ทรงเน้นการพัฒนาเพื่อ ช่วยแก้ไขปัญหาพื้นฐาน 4 ประการ คือ
# ความยากจน
# ปัญหาโภชนาการและสุขภาพอนามัย
# การขาดโอกาสทางการศึกษา
# ความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีความเกี่ยวกันเป็นลูกโซ่ ก่อให้เกิดความทุกข์ยากแร้นแค้นอย่างเรื้อรังแก่ประชาชน
==พัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร==
โดย ที่ทรงเห็นว่าเด็กเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้มากที่สุด ดังนั้นในระยะแรกของการพัฒนา จึงทรงมุ่งพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารเป็น '''กลุ่มเป้าหมายหลัก'''
โดยทรงเลือกพื้นที่ดำเนินการในสถานที่เหล่านี้ คือ
# โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
# โรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
# ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง" สังกัดสำนักงานบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน
# ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาเด็กวัยเตาะแตะในถิ่นทุรกันดาร
# พื้นที่อื่น ๆ ตามพระราชประสงค์ ในกระบวนการพัฒนาให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
โรงเรียนเหล่านี้จะเป็นแหล่งความรู้พื้นฐานของประชาชนที่จะนำไปพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ในครอบครัวให้ดีขึ้นพร้อมกันไปด้วย
==การดำเนินงาน==
ในแต่ละปี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานความช่วยเหลือแก่ เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร เป็นจำนวนเพิ่มขึ้น จนถึงปัจจุบัน (ปีการศึกษา 2546) มีเด็กและเยาวชนจำนวนทั้งสิ้น 65,058 คน และมีพระราชดำริในการดำเนินงานพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ได้ดำเนินงานดังนี้
# การส่งเสริมโภชนาการดีและสุขภาพดีของเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์
# การส่งเสริมการผลิตอาหารในพื้นที่เพื่อช่วยลดระดับความรุนแรงของปัญหาการ ขาดสารอาหาร
# การป้องกันโรคติดต่อที่สำคัญในแต่ละพื้นที่
# การเสริมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมท้องถิ่น
# การสร้างความรู้และพัฒนาทักษะการอาชีพที่เป็นราก ฐานของพึ่งตนเองให้แก่เด็กอีกด้วย
ดังจะเห็นได้จากการที่มีพระราชดำริให้ดำเนินการฝึกอาชีพให้กับเด็กนักเรียน และศิษย์เก่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531
▲== พระราชดำรัส สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ==
จากพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่ผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ ความว่า
:''"…..เมื่อกาลผ่านมา 10 ปี ความเปลี่ยนแปลงของประเทศมีมากขึ้นอย่างที่เราเห็นได้ชัด ๆ ที่เห็นเป็นตัวเลข อาจจะดูง่าย ๆ เช่น เรื่องเศรษฐกิจ การขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ การเจริญขึ้นของธุรกิจ เป็นต้น ถึงแม้ว่าแหล่งปฏิบัติงานของเราจะอยู่ไกล แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบ ซึ่งไม่ใช่เป็นผลกระทบที่ไม่ดีเสมอไป เป็นผลกระทบทั้งดีและไม่ดี จึงเป็นเหตุให้คิดว่า จะมีอะไรทำเพิ่มเติมในส่วนของเราได้ กับบุคคลในความอารักขาดูแลของเรา คือด้านของความรู้ความสามารถ การศึกษา เมื่อบ้านเมืองเจริญก้าวหน้ามากขึ้นก็เป็นโอกาสให้บุคคลต่าง ๆ ได้สามารถพัฒนาตัวเอง และสร้างฐานะให้ดียิ่งขึ้น บ้านเมือง เหตุการณ์เปิดโอกาสให้มีความก้าวหน้า แต่เราต้องกลับมาย้อนคิดดูว่าบุคคลในความอารักขาของเรานั้น สามารถที่จะพัฒนาก้าวหน้าไปตามโอกาสที่เปิดให้หรือเปล่า ยกตัวอย่าง เช่น ตอนนี้มีการขยายทางด้านการงานขึ้นหลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ อาชีพ คนของเราพร้อมหรือยังที่จะสร้างฐานะที่มั่งคง มั่งคั่งขึ้นจากโอกาสหรือตำแหน่งงานที่เปิดขึ้น หรือว่าจะกลายเป็นบุคคลที่ได้รับผลกระทบในทางเสีย คือเสียโอกาสต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่เคยอยู่อย่างสงบในหมู่บ้านของตัวเอง ทำงานไป ก๊อก ๆ แกร็ก ๆ ที่ดินต่าง ๆ อาจหลุดมือไป หรือว่าอาจจะมีคนที่เขาอยู่ในระบบที่ใหม่กว่าเข้ามาให้อิทธิพลบางประการ คนของเราพร้อมหรือยัง …..ส่วนนักเรียนอีกส่วนหนึ่งนั้น เราที่ทำงานอยู่ก็คงจะรู้จักเด็กและเห็นได้ชัด ๆ ว่าบุคคล หรือเด็กเหล่านี้ จะเป็นด้วยสติปัญญาและการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เล็กมาก็ตาม ฐานะทางเศรษฐกิจหรือว่าฐานะทางการเมืองและสังคมไม่เปิดโอกาสแน่ ๆ ให้เขาได้ไปศึกษาต่อในระดับมัธยม หรืออย่างน้อยในช่วงนี้ไม่ทันกาล ก็อยากให้อะไรกับเขา เป็นส่วนเพิ่มเติมเข้ามา แม้อาจจะเล็กน้อย แต่ก็ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือเรื่องของการฝึกฝนให้กระทำอาชีพได้….."''
อย่างไรก็ตาม ทรงตระหนักว่าลำพังการพัฒนาเด็กและเยาวชนกลุ่มเดียว ไม่เพียงพอ ที่จะทำให้เกิดความมั่นคง ในการพัฒนา คุณภาพชีวิตของประชาชนในถิ่น ทุรกันดารได้ จำเป็นต้องช่วยเหลือ ครอบครัวของเด็ก และเยาวชนในชุมชนด้วย ทั้งในด้านสุขภาพอนามัย และการศึกษา และให้มีความพร้อม ที่จะก้าวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของประเทศ โดยการให้ความรู้ และพัฒนาศักยภาพในงานอาชีพ เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนเหล่านั้นมีงานทำ มีรายได้ที่จะจุนเจือครอบครัว สามารถหาอาหาร ที่มีคุณค่าได้เพียงพอ ต่อการบริโภคของสมาชิกในครอบครัวโดย เฉพาะลูกหลาน เพื่อให้มีสุขภาพอนามัย พร้อมที่จะศึกษา เล่าเรียนเป็นคนที่มีคุณภาพของ ครอบครัวและชุมชนต่อไป ดังพระราชดำรัสความว่า
''"…..ในการดำเนินชีวิตของคนเรานั้น มีอยู่หลายด้านด้วยกัน ทั้งในด้านการทำมาหากิน ในด้านสุขภาพอนามัย และการศึกษา….."2 "…..เมื่อเจ็บไข้แล้ว ที่ทางที่มีอยู่ก็ต้องขายไปเป็นค่ารักษาตัว จากคนที่เป็นชนชั้นปานกลางก็กลายเป็นคนที่ยากจนข้นแค้น เป็นคนเดือดร้อนไป คนเหล่านี้ก็ไม่มีแรงที่จะทำงาน เมื่อไม่มีแรงทำงานก็จน จนก็เหมือนกับเป็นคนขี้เกียจ มันก็เป็นลูกโซ่ไปอย่างนี้….."'' :''"…..จะเห็นได้ว่าพยายามคิดส่งเสริมงานในด้านการงานอาชีพนั้นก็จะแบ่งเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่สำหรับนักเรียนจริง ๆ คือเด็กที่อาจจะถือว่ายังเป็นเด็กเล็ก ๆ อยู่ ก็ให้ความรู้ทางทฤษฎี แล้วก็ให้ได้ฝึกปฏิบัติให้รู้จักใช้ทักษะการใช้มือ ทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน แต่สำหรับเด็กที่โตขึ้น หรือว่าศิษย์เก่าหรือชาวบ้านนั้นก็มีความมุ่งหมายว่าจะให้สามารถทำงานอะไร บางอย่างที่จะเป็นเครื่องดำรงชีวิตหรือหารายได้ เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้เล่าเรียนขึ้นไปในทางสายสามัญ หรือแม้แต่สายอาชีวศึกษา ได้ขึ้นไปถึงขั้นสูง ในเรื่องของการทำมาหากินนั้น ก็อาจจะมีรายละเอียดหรือเกร็ดหลาย ๆ อย่าง แม้แต่ในเรื่องของการค้า การตลาด การสหกรณ์ เรื่องเหล่านี้ก็พยายามที่จะให้มีความรู้ แล้วก็ได้ขยายผลไปจากเด็กที่ได้รับความรู้ความชินนิสัยที่จะร่วมมือกัน หรือว่าในการประกอบอาชีพ มาเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพอย่างจริงจัง….."''
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงมีพระราชดำริ ในการส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา ได้พระราชทาน ความช่วยเหลือทั้งในด้านการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาฝีมือ พระราชทานเงินทุนสำหรับการดำเนินงาน การจัดหาเครื่องมือ และอุปกรณ์การผลิตที่จำเป็น รวมทั้งทรงช่วยหาตลาด ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นด้วย และที่สำคัญมีพระราชดำริให้ประชาชนเหล่านี้ รวมกันเป็นกลุ่มอาชีพ เพื่อให้ประชาชนร่วมมือกัน รู้จักการช่วยเหลือตนเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกิดทักษะในการใช้กระบวนการกลุ่ม แก้ไขปัญหาการดำเนินงาน เป็นการสร้างความเข้มแข็ง และให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
''" นอกจากนี้ยังทรงเน้นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการประกอบอาชีพนอกเหนือจากการมีรายได้เพิ่มขึ้น คือ ความภาคภูมิใจ ความมั่นใจในตนเอง และความมั่นคงในชีวิตต่อไป
ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนา ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชน ในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ เพิ่มขึ้นมาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงมีพระราชประสงค์ ที่จะขยายการช่วยเหลือ ครอบครัวของเด็กและเยาวชนเหล่านี้ ให้มีโอกาสในการจัดตั้งกลุ่มอาชีพ หรือเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มอาชีพที่จัดตั้งอยู่แล้ว ให้มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว อันจะช่วยแก้ไขและบรรเทา ความรุนแรงของปัญหาพื้นฐานต่าง ๆ ที่ครอบครัวของเด็กและเยาวชนเหล่านี้ประสบอยู่ ซึ่งจะส่งความสามารถในการเรียนรู้ ได้อย่างเต็มศักยภาพ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เท่าเทียมกับประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ และเป็นคนที่มีคุณภาพ ของชุมชนและประเทศชาติต่อไป ดังพระราชดำรัสความว่า
:''"…..เราต้องการให้ทุกคนมีความมั่นคง มีความสุข อยู่ดีกินดี มีโอกาสในชีวิตที่จะได้รับความรู้ แล้วก็ฝึกฝนความสามารถ สามารถที่จะสร้างความก้าวหน้าให้แก่ตนเองได้เท่าเทียมกันทุกคน….."''
พระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดตั้งโครงการร้านภูฟ้า เพื่อสนับสนุนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆของโครงการ โดยใช้ตราสัญลักษณ์ "ภูฟ้า" เป็นเครื่องหมายการค้า และพระราชทานตำแนะนำในด้านการผลิต โดยเฉพาะการออกแบบผลิตภัณฑ์ว่าต้องสวยงามและประณีต
==ที่ตั้งสำนักงาน==
สำนักงาน ร้านภูฟ้า
==ลิงก์ภายนอก==
เชิญชม[http://www.phufa.com/ เว็บของร้่านภูฟ้า ]
▲สำนักงาน ร้านภูฟ้า 123 สุขุมวิทซอย 7 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
▲โทร 02 655 6242-3 โทรสาร 02 655 6244 หรือสาขา</center>
|