ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เมซ วินดู"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Elite501st (คุย | ส่วนร่วม)
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 60:
หลายเดือนหลังจากเหตุการณ์บนจีโอโนซิส เมซ วินดูได้ติดต่อกับสหายเก่าของเขาโซร่า บัลก์ ผู้ที่นำกลุ่มของเจไดที่ประท้วงการมีส่วมร่วมในสงครามโคลนแยกตัวออกมาจากนิกาย เพื่อตอบสนองข้อความของบัลก์ เมซจึงออกเดินทางไปยังรูลเพื่อพบกับพวกเขา โชคร้ายที่ไม่นานหลังจากที่เขาไปถึงบัลก์ก็ถูกโจมตีโดยมือบลอบสังหารที่ฝึกโดยเคาท์ดูกู [[อซาจจ์ เวนเทรสส์]] ทำให้พาดาวันของตาย เมื่อเจไดคนที่เหลือรวมทั้งเมซ เกี่ยวข้องกับพวกเขา เวนเทรสส์อ้างว่าเธอถูกส่งมาโดยเมซเอง ทำให้พวกเจไดที่เหลือสับสน
 
ในขณะที่เจไดที่เหลือกำลังยุ่งอยู่ เมซก็เริ่มสืบสวนการมาของเวนเทรสส์ โดยไม่รู้ว่าถูกตามโดยเจไดราด ทาร์น ในขณะทำการสืบสวนเขาไปพบกับยานของเวนเทสส์เข้า และนั่นแปลว่าบัลก์ต้องเป็นคนปล่อยให้เธอลงจอดบนดาว เพราะไม่มีใครสามารถลงจอดบนรูลได้โดยที่บัลก์ไม่รู้ เมซรีบไปเผชิญหน้ากับบัลก์แต่ก็พบว่าเขากำลังเสียใจกับร่างพาดาวันของเขา เมื่อเมซกล่าวหาบัลก์ว่าเขาเข้าสู่ด้านมืดและเข้าร่วมกับฝ่ายสมาพันธ์ บัลก์ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งนั้น บัลก์เผยว่าเหตุผลเดียวที่ให้่เมซให้เมซมาที่นี่ก็เพราะต้องการทำให้เขาเสียชื่อเสียง โดยการใช้เจไดคนอื่นเป็นพยานโดยที่พวกเขาไม่รู้
 
[[Fileไฟล์:Windu vs Bulq.jpg|thumb|250px|right|เมซ วินดูต่อสู้กับโซร่า บัลก์]]
จากนั้นบัลก์ชักกระบี่แสงและโชโตของเขาและต้องการที่จะสังหารเมซ และกลับไปบอกคนอื่นๆ ว่าเมซคือคนทรยศ วินดูชักกระบี่แสงของเขาออกมาและเริ่มการต่อสู้ อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างดุเดือด เมซรับรู้ถึงเจไดคนอื่นกำลังตกอยู่ในอันตรายและรีบจบการต่อสู้ด้วยการโค่นเสาลงมาใส่บัลก์ เขารีบไปที่ยานของเวนเทรสส์เขาพบว่าราด ทาร์นตายแล้วและเจไดคนอื่นๆ ที่ตามทาร์นไปก็กำลังต่อสู้กับ[[เจไดมืด]] หลังจากที่เข้าร่วมต่อสู้เขาก็ไล่เวนเทรสส์ไปได้
 
บรรทัด 74:
หกเดือนหลังจากยุทธการจีโอโนซิสเมซได้กลับไปที่บ้านเกิดของเขาเพื่อตามหาอดีตพาดาวันของเขาที่หายตัวไป เดป้า บิลลาบา เขาถูกโจมตีสองครั้งในเมืองหลวงแห่งเพเลคบอว์ แต่ก็พบกับทีมที่เดป้าส่งมาเพื่อรับตัวเขา ในขณะที่เดินทางผ่านป่าเขาได้เอาชนะยานปืนของกลุ่มไซร์นาสามลำ ทำลายไปสอง และทำให้ลำที่สามเสียหายอย่างหนัก เมซพร้อมกับขัลค์ เลช เบช และนิก รอสตู ต้องพบกับอันตรายจากป่าและกองทหารอย่างมาก
 
ตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่ฮารูนคัล เมซได้เอาชนะศัตรูไปมากมาย หลังจากที่เขาพบกับเดป้าเมซก็แนะ่าซก็แนะาให้พาตัวเธอกลับไปที่วิหารเจได เขายังได้จัดการกับคาร์ วาสเตอร์ผู้ทรงพลัง หลังจากที่กองทัพได้เปิดการโจมตีใส่กลุ่มโครูนไนที่เดป้านำกลุ่ม เขาได้ทำแผนที่จะยึดดาวให้กับสาธารณรัฐและรบกับคาร์ วาสเตอร์ มันเป็นอารมณ์ที่นำเขาไปสู่ด้านมืด เมซได้ต่อสู้กับพาดาวันของเขาหลังจากที่เธอยอมจำนนต่อพลัง และเอาชนะเธอได้โดยที่ไม่ได้ทำร้ายเธอ แม้ว่าเมซจะรอดการทดสอบนี้และการวางแผนของเขาก็สมบูรณ์ ความทรงจำในการกลับมาที่ฮารูนคัลของเขายังคงหลอกหลอนเขาต่อไป ต่อมาเดป้าพยายามที่จะฆ่าตัวตายเมื่อรู้ว่าเธอเข้าด้านมืด และเป็นโคม่าเป็นเวลานานหลังจากนั้น
 
เมซ วินดูด้วยการช่วยเหลือจากพลังบนฮารูนคัล เป็นการทำนายถึงการล่มสลายของเจไดและการทำลายวิหารเจได ตามที่เกิดในตอนที่[[ยูซาน วอง]]เข้ายึดคอรัสซัง
บรรทัด 85:
เคโนบีและกองร้อนโกสท์ตั้งที่มั่นบนนาแบท ซึ่งเจไดได้วางแผนที่จะใช้เป็นจุดส่งพลลงจอด อย่างไรก็ตามปืนใหญ่โปรตอนจากเบื้องล่างได้ยิงเข้าใส่[[ยานจู่โจม แอคคลาเมเตอร์ เฟิร์ส-คลาส|ยานจู่โจมแอคคลาเมเตอร์]]ของพวกเขา และหลังจากที่[[ผู้บัญชาการโคลน|ผู้บัญชาการ]]ปอนด์สได้รายงานว่าปืนดังกล่าวได้ทะลุเกราะของพวกเขาแล้ว วินดูได้สั่งการให้เคโฯบีไปทำลายปืนนั่นเสียและทำให้การขนส่งสำเร็จ เคโนบีทำสำเร็จในที่สุดและหลังจากที่มีการลงจอด เจไดและโคลนทรูปเปอร์ก็ตั้งที่มั่นในเมืองหลวงแห่งเลสซูเพื่อยึดมันคืนและปลดปล่อยดาว<ref name="IOR">''Star Wars: The Clonces War - Innocents of Ryloth''</ref>
 
[[Fileไฟล์:Windu ARF.jpg|200px|thumb|left|เมซเปิดช่องบนรถขนส่งทหารของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนบนไรลอธพร้อมกับสมาชิกจากหน่วยไลท์นิ่ง]]
 
เพื่อทำให้มันสำเร็จเมซถูกบังคับให้ต้องใช้ทักษะในการเจรจาของเขา เพราะเขารู้ว่าเขาจะต้องการช่วยเหลือจากแชม ซินดุลล่า ผู้นำของนักสู้อิสระชาวทวิเลค อย่างไรก็ตามซินดุลล่าไม่อยากที่จะเจรจากับสาธารณรัฐเพราะเขาไม่เชื่อใจในตัววุฒิสมาชิกประจำไรลอธ ออร์น ฟรี ทา ซึ่งทาเองก็กลัวว่าวินดุลล่าจะวางแผนที่เพื่อยึดอำนาจ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้รู้ว่าฝ่ายแบ่งแยกดินแดนได้เริ่มทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านของชาวทวิเลค ซินดุลล่าก็ตกลงที่จะคุยกับวุฒิสมาชิกทา<ref name="LoR">''Star Wars: The Clonse War -Liberty on Ryloth''</ref>