ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกิพีเดีย:ระดับการเขียนบทความ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 10:
ในป้ายโครงการ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับระดับที่ถูกคนอื่นกำหนด คุณสามารถแก้ได้ตามต้องการโดยตรวจสอบกับเกณฑ์ที่กล่าวไว้ด้านล่าง โปรดทราบว่าบางโครงการอาจมีเกณฑ์ที่ต่างจากด้านล่างนี้
 
ทักษิณโกงอย่างไร?
== ระดับบทความ ==
1. นโยบาย บริโภคนิยม ส่งเสริมหนี้ภาคครัวเรือน ฟุ้งเฟ้อ มอมเมาประชาชน
{{ระดับบทความ}}
และรัฐไม่เคยแถลงผลสำเร็จ
- กองทุนหมู่บ้าน
- ธนาคารประชาชน
- แปลงสินทรัพย์เป็นทุน
- หวยบนดิน
- ออกหวยซื้อหุ้น Liverpool
- เปิดบ่อนเสรี
- เปิดเสรีสุรา
- เอาเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น
- กทม. เมืองแฟชั่น
- ครีมหน้าเด็ง
- บัตรสมาชิก ไทยแลนด์อีลิทการ์ด
- Complex Entertainment
- Mega Project
- ส่งเสริมเงิน+++้ทั้งในและนอกระบบ (Bank & Non-Bank)
- ใช้งบประมาณแผ่นดินหาเสียง (ทัวร์นกขมิ้น)
 
2. นโยบายสร้างภาพ หาเสียง ฉาบฉวย หลอกลวง และรัฐไม่เคยแถลงผลสำเร็จ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการวิกิบางโครงการที่มีการจัดระดับบทความเป็นของตัวเอง ซึ่งอาจมีเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปหรือเพิ่มเติมจากเงื่อนไขที่ปรากฎในตารางด้านบนนี้ ซึ่งประกอบด้วย
- พักหนี้เกษตรกร
* [[วิกิพีเดีย:โครงการวิกิวรรณศิลป์#การจัดระดับคุณภาพของบทความ#แนวทางการจัดระดับคุณภาพ|โครงการวิกิวรรณศิลป์]]
- ปฏิรูปการศึกษา
- จัดระเบียบสังคม
- ผู้ว่า CEO
- ปราบปรามผู้มีอิทธิพล
- ลงทะเบียนคนจน
- ส่ง 23 รมต. แก้ปัญหาภาคใต้ (แต่ไม่มีใครไป)
- ไปนอนวัดที่นราธิวาส
- ไปนอนที่สนามบินสุวรรณภูมิ
- ทำกับข้าว
3. นโยบาย และการกระทำสิ้นคิดของ นายก และคนในรัฐบาล
- เปิดบ่อนเสรี
- ซื้อหุ้น Liverpool
- เปลี่ยนนาข้าวเป็นนากุ้ง (ทำให้น้ำและดินเน่าเสีย)
- สร้างคอนโดเป็นบ้านพักคนชรา (ให้อาศัยอยู่ห้องทึบในตึกสูง)
- ตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ อ.เชียงแสน (แหล่งโบราญสถาน)
- สส.รัฐบาลเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน
- โภคินนั่งเก้าอี้ ประธานรัฐสภา ยกมือเลือกนายก (ไม่เหมาะสม ไม่เป็นกลาง)
- ทักษิณ เป็นประธานประกอบพิธีศาสนา ในอุโบสถวัดพระแก้ว (ประธานต้องเป็นกษัตริย์
เท่านั้น)
- ประชุม ครม. บนรถไฟ (ไปเที่ยว)
- ประชุม ครม. บนประสาทพนมรุ้ง
- ยึดและฟ้องผู้ทำสติกเกอร์ "ยิ่งรวยยิ่งโกง" (อ้างหมิ่นฯ โยนผิดให้ฝ่ายค้าน)
- กำหนดแบ่ง Zone พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้เป็น 3ระดับ (3 สี แดง, เขียว, เหลือง)
- ย้าย 3 ข้าราชการที่ไม่สนองนโยบายขายลำไย ไปประจำใน 3 จังหวัดภาคใต้
- ติด UBC 3 จังหวัดภาคใต้
- เปลี่ยนเพลงชาติไทยใหม่ มีให้เลือก 6 แบบ (แต่งโดยแกรมมี่)
- พานทองแท้ลอกโพยข้อสอบที่ ม.ราม
- ปิดถนนแข่งรถซิ่ง
- โครงการ อาชีวะปราบขอทาน
- นโยบายปิดปอเนาะทั่วประเทศ
- เปลี่ยนสนามบินดอนเมือง เป็นสนามเทนนิส
4. ทุจริต หรือส่อเจตนาทุจริต
- คดีซุกหุ้น (โอนให้คนรับใช้ คนขับรถ)
- ค่าโง่ทางด่วน
- ค่าโง่ ITV
- บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
- โครงการรับจำนำข้าว
- โครงการรับซื้อลำไย
- โครงการโคล้านตัว
- โครงการแจกต้นกล้ายาง
- เครื่องตรวจระเบิด CTX
- ที่จอดรถ สนามบินสุวรรณภูมิ
5. เหตุการณ์ และคดีที่มีเงื่อนงำ และเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาล
- ชิปปิ้งหมูถูกฆ่าตาย (เกี่ยวข้องธุรกิจอุปกรณ์ดาวเทียมไทยคม)
- อุ้มทนายสมชายฯ
- กรือเซะ, ตากใบ
- ฆ่าตัดตอนคดียาเสพติด 2000 กว่าศพ
- ตำรวจบุกทุบทำลายบ้านฉลอง เรี่ยวแรง (ก่อนวันสอบซ่อม สส. นนทบุรี)
- จับยาบ้าผิดตัว ตำรวจบุกยิงถล่มชาวบ้านอยุธยา (บ้าน/ตู้เย็น พรุ่นทั้งหลัง)
- ข้อสอบ Ent. รั่ว (ก่อนอุ้งอิ๋งติดจุฬาฯ)
- นายนิธินันท์ หรือ ลัทธพล ออกมาแฉทุจริตที่จอดรถ สนามบินสุวรรณภูมิ กลับไปกลับมา
- รันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิแตกร้าว
6. การระเมิดสิทธิเสรีภาพ
- รัฐบาลคุกคาม แทรกแซงการเสนอข่าวของสื่อมวลชน
- ปลด 23 พนักงาน ITV (หลังจากชินคอป์เข้าบริหาร)
- บังคับให้ สส.กลุ่มวังน้ำเย็นถอนชื่อ การคัดค้านเสนอผู้ว่า สตง.
- งัดห้องทำงานผู้ว่า สตง. (คุณหญิงจารุวรรณฯ)
เรื่องสถานะคุณหญิงจารุวรรณยังหาข้อสรุปไม่ได้ ยืดเยื้อมาจนบัดนี้แล้ว
- สั่งปิดวิทยุชุมชนที่วิจารณ์รัฐบาล (อ้างคลื่นรบกวนเครื่องบิน)
- ถอดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
7. ด้านเศรษฐกิจ / ตลาดหุ้น
- คลังฮุบหุ้น TPI (เป็นการปล้นอย่างหน้าด้านๆ ไม่มียางอาย ไม่มีหิริโอตัปปะ)
- หลอกแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ขายสมบัติชาติ แอบแบ่งหุ้นให้พรรคพวก และต่างชาติ
แต่รัฐยังเป็นเจ้าของและแทรกแซงได้เหมือนเดิม เช่น การบินไทย, ปตท., อสมท.,
กฟผ., กสท., TOT
- รัฐพยายามหาทางเอาเงินประชาชน กบข. (ราชการ) กองทุนประกันสังคม, กบช.
(เอกชน) ไปใช้จ่ายในโครงการต่างๆอย่างฟุ่มเฟือย
- GMM แกรมมี่ และคนในรัฐบาลซื้อหุ้น นสพ. การเมือง 5 ฉบับ (มติชน, ข่าวสด,
ประชาชาติธุรกิจ, Bangkok Post, Post Today) พร้อมกัน โดยไม่สมเหตุสมผล
และฟังไม่ขึ้น ส่อเจตนาเข้ามายึดครอง)
 
8. ด้านกฎหมาย / อำนาจนิยม ที่ส่อเจตนาทุจริต และสร้างฐานอำนาจ
เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเครือญาติ
- แต่งตั้ง ญาติ พี่น้อง เพื่อน พรรคพวก ดำรงตำแหน่งในหน่วยราชการ การเมือง ตำรวจ
ทหาร เพื่อรวบอำนาจบริหาร - ปกครอง
- แทรกแซงองค์กรอิสระ ด้วยวิธี ดูด, ดึง, ซื้อ, ส่งคนเข้าไปคุม เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ,
ศาลปกครอง, กลต., ปปง., ปปช., คตง., สว.(บางส่วน)
- แทรกแซงสถาบันสงฆ์ (ออก พรก.แต่งตั้งรักษาการสมเด็จพระสังฆราชโดยพละการ)
- ศาลรัฐธรรมนูญ และประธาน สว. แทรกแซงและแต่งตั้งผู้ว่า สตง.
คนใหม่อย่างมีเงื่อนงำ และไม่มีเหตุผลสมควร
- การสรรหา กสช. และ กทช. ไม่โปรงใส
- พระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ถูกตีกลับ
- พระราชกฤษฎีกา บำเหน็จบำนาญ สส. และ สว.
- ออก พระราชกำหนด สรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม เพื่อผลประโยชน์
และกีดกันคู่แข่งทางธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ (AIS)
- ออก พระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสร้างฐานอำนาจเบ็ดเสร็จ
- โผทหารของนายก และ การลงนามแต่งตั้งช้ากว่าปกติ
9. ปัญหา บ้านเมืองไทยในปัจจุบันนี้
- ระเบิด และคนถูกฆ่า ใน 3 จังหวัดภาคใต้ (ที่เปลี่ยน แม่ทัพ, ผอ., ผู้กำกับ, รมต.,
รองนายก แล้วหลายคน แต่ยังไม่เปลี่ยน นายก จึงแก้ปัญหาไม่ได้)
- ราคาน้ำมันแพงเกินเหตุ (แต่ ปตท. กำไรแสนล้าน)
- เศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนถูกสอนให้ +++้เงิน ใช้เงิน
แต่ไม่เน้นให้ความรู้ในการประกอบอาชีพ และประหยัดในแบบ เศรษฐกิจพอเพียง)
- ไม่มีระบบตรวจสอบ และ คานอำนาจรัฐบาล (ฝ่ายค้าน, องค์กรอิสระ
เป็นง่อยทำอะไรไม่ได้
- รมต. ก่อนจะรับ หรือพ้นตำแหน่ง ไม่มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินให้ประชาชนรู้เหมือน
เมื่อก่อน
- ปัญหาสังคม, ครอบครัว, บัตรเครดิตเต็มเมือง, ประชาชนเป็นหนี้ท่วมตัว, ตกงาน,
อาชญากรรม, จี้, ปล้น, การพนัน, โรคจิต, ทิ้งเด็ก, รถซิ่ง, นักเรียนตีกัน, ขายตัว,
ส่วยตำรวจ
10. สิ่งที่ทักษิณซื้อ
- บุคคล และองค์กร เช่น ข้าราชการ, สส., สว., พรรคการเมือง, องค์กรอิสระ,
นักวิชาการ, สื่อมวลชน, ประชาชน, วัง, ประเทศไทย
ธุรกิจ เช่น
- สัมปทานโทรคมนาคม โทรศัพท์เคลื่อนที่ (บ. AIS)
- ดาวเทียมไทยคม, IP Star (บ. ชินแซคฯ)
- อินเตอร์เนท (บ. CS Loxinfo)
- สายการบิน (AIR ASIA)
- สถานีโทรทัศน์ (ITV)
- มหาวิทยาลัย (ม.ชินวัตร)
- โรงพยาบาล (พญาไท)
- ธนาคาร (Non-Bank Capital OK)
- บริษัทโฆษณา
- ฯลฯ
11. คำพูด คำสัญญาของรัฐบาล ที่ไม่เป็นจริง
- ผมจะแก้ปัญหาจราจรให้ได้ภายใน 6 เดือน
- จะขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 5 % ภายในตุลาคม 2548 (ภายหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ
สุริยะฯ)
- โครงการย้ายที่ตั้งรัฐสภาไปรังสิต (บ.ไทยเมล่อน)
- โครงการย้ายส่วนราชการ ไป จ.นครนายก
12. วีรกรรม และคำคม (ของทักษิณ)
- ด่านักวิชาการที่ให้คำแนะนำรัฐบาล
- ด่าวิชาชีพทนาย
- ด่า UNSCR กลางที่ประชุมสหประชาชาติ (ห้ามยุ่งกับปัญหาภาคใต้ไทย)
- "UN ไม่ใช่พ่อ"
- "พวกนี้มันโจรกระจอก" (ปัญหาภาคใต้)
- "ไม่ต้องตกใจ มันแค่โรคอหิวาระบาด" (ปัญหาไข้หวัดนก)
- "เป็นพระอยู่ส่วนพระ ไม่สมควรพูดเรื่องการเมือง ถ้าพูดก็ไม่สมควรเรียกว่าพระ"
- "แมง...+++พวกนักวิชาการก็เอาแต่ติ"
- "พูดเรื่องพระราชอำนาจ ระวังเหาจะกินหัว"
13. คนดีมีอุดมการณ์ แต่ถูกกลั่นแกล้ง และอยู่ในรัฐบาลไม่ได้
- ดร.เกษม วัฒนะชัย
- ดร.ปุระชัย เปรี่ยมสมบูรณ์
- นายวิโรจน์ นวลแข
 
ท้ายนี้หวังว่าผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ นายกทักษิณ จะได้ตอบ
ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้สำเร็จต่อไป หากตอบไม่ได้ ไม่ชัดเจน หรือไม่ตอบ ไม่แก้ไข
และเมื่อคำถามมีมากขึ้น เมื่อนั้นรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้เหมือนกัน
 
ผู้รวบรวม อดีตนักศึกษา 3 สถาบัน (RIT, KMITL, AIT) ผ่านศึกมาแล้ว 3 สังเวียน
- 14 ตุลา 16
- 6 ตุลา 19
- พฤษภาทมิฬ 35
ประมวลความผิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมาสรุปเป็นกลุ่ม ๆ ได้เป็น 11 กลุ่ม 11 ข้อหา ดังต่อไปนี้
1. ทำลายระบอบประชาธิปไตยฯ, ละเมิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 2540
2. ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ (ละเมิดพระราชอำนาจ)
3. ทำลายสถาบันศาสนา
4. ฉ้อราษฎร์บังหลวง
5. ขายสมบัติชาติ
6. แบ่งแยกดินแดน
7. ทำลายทำนบกั้นกระแสไหลบ่าของโลกาภิวัตน์
8. ทำลายวินัยทางการคลัง
9. ใช้นโยบายการต่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
10. ทำลายกระบวนการยุติธรรม
11. ทำลายจิตวิญญาณของชาติ
ขอขยายความแต่โดยสังเขปให้เหมาะกับเนื้อที่ ดังต่อไปนี้
ทำลายระบอบประชาธิปไตยฯ, ละเมิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ
หัวใจของระบอบประชาธิปไตยฯ คือการตรวจสอบ ถ่วงดุล เป็นระบบที่มีเหตุมีผล สังคมเปิดกว้าง ไม่ปิดกั้น ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิและเสรีภาพ เพราะประชาธิปไตยเชื่อว่า สังคมเปิดที่ไม่มีการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร และมีกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลที่ดี จะเป็นเครื่องกำกับการใช้อำนาจของผู้ปกครอง แต่ระบอบทักษิณได้ทำลายกลไกทั้งหมด
* ทำลายและครอบงำกลไกการตรวจสอบถ่วงดุล -- คือ ส.ส. (ใช้กุศโลบายยุบรวมพรรค) ส.ว. (ซื้อ, แทรกแซง) และองค์กรอิสระ (ซื้อ, แทรกแซง และเข้ากำกับตั้งแต่ขั้นสรรหาและขั้นเลือกในวุฒิสภา)
* ทำลายหลักสิทธิเสรีภาพพื้นฐาน ครอบงำสื่อ ปิดกั้นข้อมูลข่าวสารทั้งทางตรงและทางอ้อม
นอกจากนั้น ระบอบทักษิณยังทำลาย “วัฒนธรรมทางการเมืองประชาธิปไตย” อย่างถึงราก
รูปแบบการเมืองแบบประชาธิปไตยสากลจะใช้ได้ผล ต้องควบคู่ไปกับวัฒนธรรมทางการเมืองแบ[ประชาธิปไตย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรปากอ้างกติกา ๆ แบบนกแก้วนกขุนทอง แต่ไม่รู้ว่ากติกาประชาธิปไตยสากลนั้นไม่ใช่แค่เรื่องเลือกตั้งและเสียงข้างมาก เขาไม่เคยรู้ว่าวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตย ก็คือ การเคารพสิทธิ การเคารพเสรีภาพ และการมีมาตรฐานทางจริยธรรม
นายกรัฐมนตรี และฝ่ายบริหาร ต้องมีมาตรฐานของความรับผิดชอบมากำกับ ยกตัวอย่างเช่น
* กฎหมายไม่ผ่านขั้นตอน – ต้องลาออก
* มีข้อครหาเรื่องคนใกล้ชิดและโคตรเหง้าคอรัปชั่น -- ก็ต้องออก
* หรือแม้แต่ประชาชนจับได้ว่าโกหก -- ก็ต้องออก
แต่นี่ – พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรท่องแต่คาถา “กูไม่ออก”, “กูไม่สน” และ “กูไม่ผิด” พระราชกฤษฎีกาแปรรูปกฟผ.ถูกศาลปกครองพิพากษาว่าเป็นโมฆะ 2 ฉบับ ตัวเองในฐานะผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโอกงการก็ไม่ยอมลาออก, คอร์รัปชั่นกันโครม ๆ ก็ไม่ออก, โกหกครั้งแล้วครั้งเล่า ก็หน้าด้านอยู่ได้เรื่อย ๆ
ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
มีพฤติกรรมจาบจ้วง ใช้วาจาไม่เหมาะสม ละเมิดพระราชอำนาจ ซ้ำซ้อน หลายเรื่อง
ล่าสุดก็คือกรณีเปิดยุทธการชนฟ้าระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2549 กล่าวถึงผู้เสมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ
ทำลายสถาบันศาสนา
ทำลายธรรมเนียมปฏิบัติของศาสนาพุทธ แบ่งแยกคณะสงฆ์ และสร้างความแตกแยกให้พี่น้องมุสลิม
การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชทุกพระองค์ในสมัยรัตนโกสินทร์ แยกไม่ออกจากราชประเพณี โดยธรรมเนียมการแต่งตั้ง ต้องมีความเห็นชอบส่วนพระองค์ลงมาด้วย แต่บังอาจสร้างกติกาใหม่ เรื่องการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ทำให้เกิดสภาวะสมเด็จพระสังฆราชซ้อน 2 พระองค์ โดยไม่กราบทูลขอพระราชทานคำชี้แนะ
ทะเลาะกับองค์กรมุสลิมโลก -- แนะให้เลขาธิการโอไอซี กลับไปอ่านอัลกุรอานใหม่
ศาสตราจารย์อิกเมเล็ดดิน อิซาโนกลู เลขาธิการองค์การการประชุมอิสลาม (OIC) ออกแถลงการณ์ที่นครเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2548 แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย โดยระบุว่า กังวลกับข่าวความรุนแรงต่อชาวมุสลิมในภาคใต้ของไทย เน้นถึงความสำคัญของการเคารพในสิทธิมนุษยชนในทุกสถานการณ์ และการใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับบุคคลที่พิสูจน์ได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว
โลกมุสลิมมองว่าไทยเกี่ยวข้องกับการทำร้าย และไม่ให้สิทธิที่เท่าเทียมกับชาวมุสลิม เป็นปัจจัยเสริมให้ความรุนแรงในภาคใต้มากขึ้น
ล่าสุดสนับสนุนให้คนของตัวเองเข้าไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และตั้งพรรคการเมืองใหม่
อภิมหาฉ้อราษฎร์บังหลวง
สมัยก่อน “โคตรโกง” แต่สมัยนี้ “โกงกันทั้งโคตร” หนักไม่หนักคิดดูก็แล้วกันว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ต้องมีพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2546 ทรงแช่ง
เป็นการโกงแบบใหม่ที่เนียนกว่าเก่า ใช้อำนาจหาผลประโยชน์มิชอบแก่ตนและพวกพ้อง ผ่านนโยบายสาธารณะที่มีวาระซ่อนเร้นทับซ้อนอยู่
สร้างมาตรฐานค่าคอมมิชชั่นใหม่ จากเดิม 10 % มาเป็น 30 %
ขายสมบัติของชาติ
เป็นการขายโดยผ่านนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ยึดสมบัติชาติเป็นสมบัติตัวและพวกพ้อง ผ่านทางการกระจายหุ้นในตลาด และให้ Nominee ทั้งไทยและฝรั่งเข้ามาถือครอง
ดึงต่างชาติเข้ามาร่วมถือครองรัฐวิสาหกิจที่เป็นสมบัติชาติ
ขายสถานีโทรทัศน์ และดาวเทียม ซึ่งมีความละเอียดอ่อนเรื่องความมั่นคง ให้ต่างชาติ
แบ่งแยกดินแดน
กระบวนทัศน์แบบพ่อค้าทำให้ปัญหาภาคใต้ถึงวิกฤต และแบ่งแยกคนในชาติเป็นฝ่ายไทยรักไทย กับฝ่ายไม่ใช่ไทยรักไทย ตอนแรกคิดว่าโจรกระจอก เด็ดแต่ตัวหัว ๆ สัก 200 กว่าคนก็พอ
ประกาศสาเหตุว่าเพราะภาคใต้ไม่ได้รับการพัฒนา จึงทุ่มเงินลงทุน ซึ่งก็คือกระบวนท่าเงินฟาดหัวแบบเดิม ๆ ทำไปโดยขาดความรู้ความเข้าใจ เชื่อขันทีใกล้ชิด รื้อโครงสร้างการจัดการใหม่ จนเหตุเลวร้ายถึงที่สุด
ทะเลาะกับมาเลเซีย และโลกมุสลิม
ไม่กล้าลงไปภาคใต้ ไม่เน้นพัฒนาภาคใต้จริง ๆ จัง ๆ เพราะภาคใต้ไม่เลือกไทยรักไทย
ประกาศว่าพื้นที่ไหนเลือกส.ส.พรรคไทยรักไทยยกจังหวัด จะมาช่วยก่อนเป็นอันดับแรก
ทำลายทำนบกั้นกระแสไหลบ่าของโลกาภิวัตน์
ละเลยการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสังคมก่อนการเผชิญหน้ากับกระแสทุนโลกาภิวัตน์
ภูมิคุ้มกัน = ปรัชญาแห่งความพอเพียง รู้เท่าทัน
เดินตามกระแสทุนนิยมโลกาภิวัตน์แบบรู้เท่าไม่ทัน เร่งรัดเอฟทีเอ. อย่างมีเงื่อนไขผลประโยชน์ตัวเองทับซ้อน (เจรจาดาวเทียม – สื่อสาร - ยานยนต์)
ความรู้เท่าทันและพอเพียง ต้องเริ่มจากระดับจิตใจ – กระบวนทัศน์ – โลกทัศน์ – คุณธรรม
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรไม่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนเริ่มจากจุดนี้
นโยบายเศรษฐกิจแบบสุ่มเสี่ยงบ้าระห่ำ แทนที่จะ “ลดด้านทุกข์” กลับ “เพิ่มแต่ด้านสุข” โดยไม่บันยะบันยัง
ความสุขที่พอดี ๆ พอเพียงมีองค์ 4
1. สุขจาการหาทรัพย์
2. สุขจากการใช้ทรัพย์
3. สุขจากการไม่มีหนี้สิน
4. สุขจากการทำประโยชน์ให้สังคม
แต่รักษาการนายกรัฐมนตรีเถื่อนคนนี้ส่งเสริมแต่ “สุขด้านที่ 2” ซึ่งก็คือ ส่งเสริมด้านมืดของมนุษย์ ส่งเสริมกิเลศ มอมเมาว่าการเป็นหนี้คือการสร้างตัวเอง วางนโยบายแต่ส่งเสริมการใช้จ่าย การบริโภค
มองอย่างตื้น ๆ – ในระยะแรกก็อาจเข้าใจว่าตัวเขาสำคัญผิด, หลงผิด
แต่เวลาผ่านมา – พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาและโคตรเหง้าบริษัทบริวารไปทำธุรกิจรองรับ
ทำลายวินัยการคลัง
สร้างธรรมเนียมใหม่ “การคลังที่ไม่ต้องผ่านสภาฯ” คือ ใช้เงินหวย ภายใต้การบริหารของเพื่อนร่วมรุ่นนรต. 26 ที่กลายเป็นกระเป๋าเงินติดสอยห้อยตามโตงแตงไปทุกที่ ทำตัวเป็นพระโพธิสัตว์แจกเงินเป็นว่าเล่น ทั้ง ๆ ที่เป็นเงินที่ต้องแลกด้วยการตกต่ำทางด้านศีลธรรมจริยธรรมของสังคม
เศรษฐีขาดวินัย = บริหารโดยไม่ยึดวินัยทางการคลัง
โครงการที่ชี้นิ้วสั่งตรง เป็นโครงการไม่เหมาะสม เพียงต้องการหาเสียง เช่น ไนท์ซาฟารี เป็นต้น
โยกงบฯกลางมาใช้เองตามอำเภอใจ โดยไม่ผ่านระบบงบประมาณ และสภา
ใช้นโยบายการต่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติภูมิประเทศอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
กรณีโด่งดังที่นิติภูมิ นวรัตน์นำมาแฉ คือ ดอด (แจ๋น) ไปพบประธานาธิบดีเม็กซิโก ตื๊อขอนั่งเครื่องบินไปด้วยกัน เพื่อจะของานโทรศัพท์ให้บริษัทที่มีลูกเป็น Nominee ถือหุ้นแทน
ทะเลาะกับมาเลเซียทำปัญหาใต้ลุกลาม
เอาใจสิงคโปร์ให้มามีอธิปไตยเหนือดินแดนไทยบางส่วน เพราะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกัน ทำให้มาเลเซียยิ่งไม่พอใจ
ทำลายกระบวนการยุติธรรม
สร้างรัฐตำรวจ, ละเมิดสิทธิมนุษยชน จนถูกจับตามองจากโลกทั้งโลก ติดบัญชีรัฐที่ปล่อยให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากที่สุด
ส่งสัญญาณอุ้มฆ่า, ฆ่าตัดตอน
ส่งเสริมกลไกรัฐตำรวจ และสร้างกองกำลังติดอาวุธของตนเอง เช่น กรณีชรบ.(ตำรวจบ้าน)เชียงราย มาบุกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
มาตรฐานการยุติธรรมตกต่ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ใช้กลไกยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง
คดีอื่น ๆ คืบหน้า แต่คดีชาวเชียงใหม่เถื่อนบุกชกต่อยขว้างน้ำปัสสาวะใส่อดีตนายกฯชวน หลีกภัยและคณะไม่คืบหน้า ส่งผลให้เกิดการแบ่งแยกและเกลียดชังระหว่างชาวใต้กับชาวเหนือ
คดีแจ้งความทักษิณ ชินวัตรไม่คืบหน้า แต่คดีแจ้งความนายสนธิ ลิ้มทองกุลและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คืบหน้าเร็วเหลือเกิน
ทำลายรากเหง้า-จิตวิญญาณของชาติ
เป็นการทำลายชาติอย่างสมบูรณ์แบบในขั้นสุดท้าย จนไม่เหลือสิ้นกระทั่งจิตวิญญาณ นั่นคือละเมิดขนบธรรมเนียม ประเพณี ซึ่งเป็นสายใยยึดโยงชาติ ที่สืบเนื่องกันมาแต่โบราณ แล้วสร้างแบบแผน-ธรรมเนียมใหม่ ให้คนในชาติหลงมัวเมาในวัตถุ หนี้สิน กระแสบริโภคนิยม
มอมเมาให้คนในชาติหลงยึดกับตัวบุคคล ผู้เป็นผู้นำหลักหนึ่งเดียว แล้ว ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก
รื้อทิ้งระบบคุณธรรม และมาตรฐานจริยธรรม
ตอกย้ำค่านิยมใหม่ให้แพร่หลาย จากเดิมนับถือคนดี มาเป็นนับถือความรวย
นายกรัฐมนตรีเดินแต่ห้างเอมโพเรียม สยามพารากอน กินกาแฟร้านแบรนด์เนมนอก ซื้อสบู่ราคาก้อนละ 2,000 บาท วันว่างก็ออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเศรษฐี หยุดลองวีคเอนด์ก็ไปต่างประเทศ (ลอนดอน, นิวซีแลนด์, ฮ่องกง, สิงคโปร์)
เคยบ้างไหมที่จะไปวัดฟังธรรม
เคยบ้างไหมที่จะไปเดินเที่ยวตลาดนัดจตุจักร และตลาดอื่น ๆ
 
สรุปการจาบจ้วง
1. การถวายบัตรทอง
2. การทำบุญที่วัดพระแก้วคงไม่ได้ผิด แต่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ดังที่พลเอกพิจิตร องคมนตรีได้พูดไว้แต่ไม่ค่อยเป็นข่าว การทำเรื่องขอพระบรมราชานุญาตวัดศุกร์เพื่อทำพิธีในวันอาทิตย์ก็ไม่เหมาะสม มีคำถามปลีกย่อยที่ไม่ได้ตอบ จริงๆแล้วโดนกล่าวหาว่าแก้เคล็ดเสริมดวงชะตาในโบสถ์วัดพระแก้ว เพราะหมอดูบอกว่าต้องทำในสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศ วัดพระแก้วเปรียบเสมือนสถานที่ที่พระมหากษัตริย์ใช้ติดต่อกับพระอินทร์บน สวรรค์ ตามความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ และเปรียบเสมือนเป็นวัดส่วนพระองค์ ไม่เคยมีใครกล้าหาญชาญชัยไปทำอย่างนี้ ที่เคยเป็นมา และกระทำอย่างลุกลี้ลุกลน หากทำบุญประเทศจริงๆ อื่นได้ แม้จะให้นายวิษณุ เครืองาม และนายธงทอง จันทรางศุ ออกมาชี้แจง ประชาชนไม่เชื่อ
3. ตั้งสังฆราช 2 องค์ ทั้งที่อำนาจในการแต่งตั้งเป็นของพระมหากษัตริย์
4. เมื่อ ปธน.ฝศ.จ๊าก ชีรัค มาเยือนไทย และพระเจ้าอยู่หัวไปรับที่สนามบิน ทรงแนะนำให้จ๊าก ชีรัค รู้จักคนสำคัญฝ่ายไทย พอถึง พ.ต.ท.ทักษิณๆ พูดทักทายกับจ๊ากหลายนาทีโดยไม่สนใจในหลวงซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเลย แสดงความสนิทสนมกับจ๊าก ชีรัค ซึ่งคนดูทีวีเห็นแล้วขัดลูกนัยน์ตา เพราะถ้ารู้จักที่ต่ำที่สูง ควรทักทายจ๊าก ชีรัคสั้นๆ เพราะวันรุ่งขึ้นก็ต้องพบปะเจรจากันอยู่แล้ว แต่นี่กล้าทำต่อหน้าพระพักตร์โดยไม่สนใจพระเจ้าอยู่หัวเลย
5. การพูดว่านายกเซ็นโผทหารไปแล้วใครจะกล้าแก้หลังจากทูลเกล้า เป็นเรื่องไม่สมควร ในหลวงทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ซึ่งสูงที่สุดสำหรับทหาร การไปตีกอล์ฟเลี้ยงฉลองกันล่วงหน้าก่อนโปรดเกล้าก็ไม่ใช่เรื่องควรปฏิบัติ
6. การที่แม่คุณหญิงไปที่จตุจักรแล้วพูดกับคาราวานคนจนแล้วพาดพิงสถาบัน ก็ไม่เหมาะ ใครจำได้ว่าพูดยังไงช่วยเติมให้หน่อย
7. การไม่น้อมรับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใส่ใจ ในขณะที่สหประชาชาติชื่นชม และ ดร ศุภชัย บอกว่านี้คือทางรอดของประเทศโลกที่ 3 ในหลวงทรงย้ำเรื่องนี้มาตลอด แต่ไม่เคยใส่ใจ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกของพรรคไทยรักไทย ได้ออกมาวิจารณ์ทำนองว่า พระราชดำริว่าด้วย เศรษฐกิจพอเพียงไม่น่าจะนำประเทศไปรอดได้ สิ่งที่จะนำประเทศไปรอด คือ ระบบทุนนิยม เท่านั้น
7.. การไม่นำเรื่อง BIO diesel ตามพระราชดำริ มาดำเนินการต่อเพราะมีผลกระทบต่อกำไร ปตท.
8. จากพระราชดำรัสวันที่ 4 ธค ที่ ผ่านมาจะเห็นได้ว่าโครงการพระราชดำริไม่ค่อยได้รับความใส่ใจจากรัฐบาล โดยไม่จัดสรรเงินงบประมาณไปให้ ในหลวงต้องใช้เงินส่วนพระองค์ ไม่เหมือนรัฐบาลก่อนๆ
9. การซื้อเครื่องบินส่วนตัวก่อนเครื่องบินพระที่นั่ง แถมยังขายเฮลิคอปเตอร์ส่วนพระองค์ด้วย รายละเอียดดูได้จาก VCD รู้ทันทักษิณที่ ให้ข้อมูลโดยทหารอากาศ ไปหาดูกันเอง
10.. การละเมิดพระราชอำนาจก็ชัดเจนในหนังสือของคุณประมวล รุจนเสรี ซึ่งไม่มีในห้องสมุดพรรคไทยรักไทย
ไม่เชื่อไปอ่านดู โดยเฉพาะบทนำที่ในหลวงทรงชื่นชมความถูกต้องของหนังสือเล่มนี้ แนะนำให้อ่านเป็นอย่างยิ่ง
11. กลั่นแกล้งคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑากา ผู้ว่า สตง. ให้พ้นจากตำแหน่งเพราะคุณหญิงไม่ยอมเป็นพวก โดยใช้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่ง และศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการ โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการแต่งตั้งที่ยังไม่มีอะไรมาลบล้าง ต่อมาแม้จะได้รับสัญญาณ อีกทั้งท่านราชเลขาธิการแจ้งให้ทราบว่าต้องทำอย่างไร ก็ยังไม่ทำจนกระทั่งถูกวิจารณ์อย่างมากและไม่มีทางเลือกจึงจำใจต้องทำเมื่อ ปลายเดือนมกราคม 2549 ทั้งที่ปล่อยให้เรื่องค้างคามากกว่า 1 ปี 7 เดือน
12. ให้นายดุสิต ศิริวรรณ กล่าวโจมตี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อทำลายความเชื่อถือเพราะระแวงว่า ดร.สุเมธ จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีพระราชทาน
13. การพูดว่าให้เป็นเสือ อย่าเป็นหมา ก็หมิ่นเหม่เหลือเกิน ถ้าไม้ที่ไปแหย่นั้นหมายถึงศาลแล้ว เสือมันจะไปกัดคนถือไม้ ช่วงเวลาที่พูดก็น่าคิด หวังว่าไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้นะ
14. ทำไมต้องเอาตราครุฑออกจากบัตรประชาชนรุ่นใหม่หรือทำให้มองไม่เห็น กำลังคิดอะไรอยู่
15. การใช้ธงทรงพระเจริญมาให้ประชาชนโบกเชียร์ก็ดูไม่เหมาะสม ครั้งแรกอาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่มีครั้งที่สองอีก
16. การชอบปล่อยข่าวหลังเข้าเฝ้า ให้ประชาชนเข้าใจผิดในหลวงทรงรับรู้ทุกเรื่องแล้ว
17.ทำไมต้องเปลี่ยนบัตรข้าราชการซึ่งแปลว่าผู้ที่ปฎิบัติหน้าที่แทนพระมหากษัตริย์เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ(บาล)
18. การพูดจาที่ไม่เหมาะสมก็ไม่เคยออกมาขออภัยโทษ อาทิ “ถ้าผมไม่จงรักภักดี แล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี” และ “ถ้าพระเจ้าอยู่หัว กระซิบที่หูผมสักนิดว่า ทักษิณ ลาออกเถอะ ผมจะลาออกทันที” เป็นวาจาที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ตีตนเสมอ
19. การเปิดเวบด่าศาลซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นกรณีพิเศษก็ไม่มีการจัดการทางกฎหมาย
20. การเปิดคลื่นด่าศาลที่ 94.25 92.75 102 105 ก็ดูเหมือนน้อมรับแต่ปาก
21. การบังคับให้ ดร บวรศักดิ์ ทูลเกล้าเรื่องพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งทั้งๆที่ กกต จะอยู่หรือไป ก็ไม่สมควรทำ ต้องการให้มีผลคุ้มครอง กกต โดยไม่สนใจเรื่องอื่น
22. การส่งกฎหมายผิดๆถูกๆ ขึ้นทูลเกล้า ไม่ตรวจสอบให้ถูกต้องสมบูรณ์
 
 
พฤติฏรรมทักษิณ
1. นั่งทำพิธีในวัดพระแก้ว ที่สงวนไว้เฉพาะกษัตริย์
2. ตัดต่อภาพราชวงศ์ โดยเวปมาจากอเมริกา
3. รุกให้ประชาชน ติดตั้งอินเตอร์เนตทุกครัวเรือน เพื่อจะได้รับข้อมูลด้านลบ
4. จาบจ้วงในรายการทักษิณพบประชาชน
5. จาบจ้วงในรายการทักษิณพบแท็กซี่
6. ปลดสังฆราชโดยให้คนในกลุ่มขึ้นรักษาการณ์
7. นำธงทรงพระเจริญ ไปโบกต้อนรับ ในหลายจังหวัดและที่สนามหลวง
และอีกมากมาย นี่นะประชาธิปไตยของทักษิณ
 
สรุปการจาบจ้วง
1. การถวายบัตรทอง
2. การทำบุญที่วัดพระแก้วคงไม่ได้ผิด แต่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ดังที่พลเอกพิจิตร องคมนตรีได้พูดไว้แต่ไม่ค่อยเป็นข่าว การทำเรื่องขอพระบรมราชานุญาตวัดศุกร์เพื่อทำพิธีในวันอาทิตย์ก็ไม่เหมาะสม มีคำถามปลีกย่อยที่ไม่ได้ตอบ จริงๆแล้วโดนกล่าวหาว่าแก้เคล็ดเสริมดวงชะตาในโบสถ์วัดพระแก้ว เพราะหมอดูบอกว่าต้องทำในสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศ วัดพระแก้วเปรียบเสมือนสถานที่ที่พระมหากษัตริย์ใช้ติดต่อกับพระอินทร์บน สวรรค์ ตามความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ และเปรียบเสมือนเป็นวัดส่วนพระองค์ ไม่เคยมีใครกล้าหาญชาญชัยไปทำอย่างนี้ ที่เคยเป็นมา และกระทำอย่างลุกลี้ลุกลน หากทำบุญประเทศจริงๆ อื่นได้ แม้จะให้นายวิษณุ เครืองาม และนายธงทอง จันทรางศุ ออกมาชี้แจง ประชาชนไม่เชื่อ
3. ตั้งสังฆราช 2 องค์ ทั้งที่อำนาจในการแต่งตั้งเป็นของพระมหากษัตริย์
4. เมื่อ ปธน.ฝศ.จ๊าก ชีรัค มาเยือนไทย และพระเจ้าอยู่หัวไปรับที่สนามบิน ทรงแนะนำให้จ๊าก ชีรัค รู้จักคนสำคัญฝ่ายไทย พอถึง พ.ต.ท.ทักษิณๆ พูดทักทายกับจ๊ากหลายนาทีโดยไม่สนใจในหลวงซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเลย แสดงความสนิทสนมกับจ๊าก ชีรัค ซึ่งคนดูทีวีเห็นแล้วขัดลูกนัยน์ตา เพราะถ้ารู้จักที่ต่ำที่สูง ควรทักทายจ๊าก ชีรัคสั้นๆ เพราะวันรุ่งขึ้นก็ต้องพบปะเจรจากันอยู่แล้ว แต่นี่กล้าทำต่อหน้าพระพักตร์โดยไม่สนใจพระเจ้าอยู่หัวเลย
5. การพูดว่านายกเซ็นโผทหารไปแล้วใครจะกล้าแก้หลังจากทูลเกล้า เป็นเรื่องไม่สมควร ในหลวงทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ซึ่งสูงที่สุดสำหรับทหาร การไปตีกอล์ฟเลี้ยงฉลองกันล่วงหน้าก่อนโปรดเกล้าก็ไม่ใช่เรื่องควรปฏิบัติ
6. การที่แม่คุณหญิงไปที่จตุจักรแล้วพูดกับคาราวานคนจนแล้วพาดพิงสถาบัน ก็ไม่เหมาะ ใครจำได้ว่าพูดยังไงช่วยเติมให้หน่อย
7. การไม่น้อมรับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใส่ใจ ในขณะที่สหประชาชาติชื่นชม และ ดร ศุภชัย บอกว่านี้คือทางรอดของประเทศโลกที่ 3 ในหลวงทรงย้ำเรื่องนี้มาตลอด แต่ไม่เคยใส่ใจ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกของพรรคไทยรักไทย ได้ออกมาวิจารณ์ทำนองว่า พระราชดำริว่าด้วย เศรษฐกิจพอเพียงไม่น่าจะนำประเทศไปรอดได้ สิ่งที่จะนำประเทศไปรอด คือ ระบบทุนนิยม เท่านั้น
7.. การไม่นำเรื่อง BIO diesel ตามพระราชดำริ มาดำเนินการต่อเพราะมีผลกระทบต่อกำไร ปตท.
8. จากพระราชดำรัสวันที่ 4 ธค ที่ ผ่านมาจะเห็นได้ว่าโครงการพระราชดำริไม่ค่อยได้รับความใส่ใจจากรัฐบาล โดยไม่จัดสรรเงินงบประมาณไปให้ ในหลวงต้องใช้เงินส่วนพระองค์ ไม่เหมือนรัฐบาลก่อนๆ
9. การซื้อเครื่องบินส่วนตัวก่อนเครื่องบินพระที่นั่ง แถมยังขายเฮลิคอปเตอร์ส่วนพระองค์ด้วย รายละเอียดดูได้จาก VCD รู้ทันทักษิณที่ ให้ข้อมูลโดยทหารอากาศ ไปหาดูกันเอง
10.. การละเมิดพระราชอำนาจก็ชัดเจนในหนังสือของคุณประมวล รุจนเสรี ซึ่งไม่มีในห้องสมุดพรรคไทยรักไทย
ไม่เชื่อไปอ่านดู โดยเฉพาะบทนำที่ในหลวงทรงชื่นชมความถูกต้องของหนังสือเล่มนี้ แนะนำให้อ่านเป็นอย่างยิ่ง
11. กลั่นแกล้งคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑากา ผู้ว่า สตง. ให้พ้นจากตำแหน่งเพราะคุณหญิงไม่ยอมเป็นพวก โดยใช้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่ง และศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการ โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการแต่งตั้งที่ยังไม่มีอะไรมาลบล้าง ต่อมาแม้จะได้รับสัญญาณ อีกทั้งท่านราชเลขาธิการแจ้งให้ทราบว่าต้องทำอย่างไร ก็ยังไม่ทำจนกระทั่งถูกวิจารณ์อย่างมากและไม่มีทางเลือกจึงจำใจต้องทำเมื่อ ปลายเดือนมกราคม 2549 ทั้งที่ปล่อยให้เรื่องค้างคามากกว่า 1 ปี 7 เดือน
12. ให้นายดุสิต ศิริวรรณ กล่าวโจมตี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อทำลายความเชื่อถือเพราะระแวงว่า ดร.สุเมธ จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีพระราชทาน
13. การพูดว่าให้เป็นเสือ อย่าเป็นหมา ก็หมิ่นเหม่เหลือเกิน ถ้าไม้ที่ไปแหย่นั้นหมายถึงศาลแล้ว เสือมันจะไปกัดคนถือไม้ ช่วงเวลาที่พูดก็น่าคิด หวังว่าไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้นะ
14. ทำไมต้องเอาตราครุฑออกจากบัตรประชาชนรุ่นใหม่หรือทำให้มองไม่เห็น กำลังคิดอะไรอยู่
15. การใช้ธงทรงพระเจริญมาให้ประชาชนโบกเชียร์ก็ดูไม่เหมาะสม ครั้งแรกอาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่มีครั้งที่สองอีก
16. การชอบปล่อยข่าวหลังเข้าเฝ้า ให้ประชาชนเข้าใจผิดในหลวงทรงรับรู้ทุกเรื่องแล้ว
17.ทำไมต้องเปลี่ยนบัตรข้าราชการซึ่งแปลว่าผู้ที่ปฎิบัติหน้าที่แทนพระมหากษัตริย์เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ(บาล)
18. การพูดจาที่ไม่เหมาะสมก็ไม่เคยออกมาขออภัยโทษ อาทิ “ถ้าผมไม่จงรักภักดี แล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี” และ “ถ้าพระเจ้าอยู่หัว กระซิบที่หูผมสักนิดว่า ทักษิณ ลาออกเถอะ ผมจะลาออกทันที” เป็นวาจาที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ตีตนเสมอ
19. การเปิดเวบด่าศาลซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นกรณีพิเศษก็ไม่มีการจัดการทางกฎหมาย
20. การเปิดคลื่นด่าศาลที่ 94.25 92.75 102 105 ก็ดูเหมือนน้อมรับแต่ปาก
21. การบังคับให้ ดร บวรศักดิ์ ทูลเกล้าเรื่องพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งทั้งๆที่ กกต จะอยู่หรือไป ก็ไม่สมควรทำ ต้องการให้มีผลคุ้มครอง กกต โดยไม่สนใจเรื่องอื่น
22. การส่งกฎหมายผิดๆถูกๆ ขึ้นทูลเกล้า ไม่ตรวจสอบให้ถูกต้องสมบูรณ์
 
== คำถามที่ถามบ่อย ==