ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อิจญ์ติฮาด"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 3:
กฎบัญญัติของศาสนาอิสลาม มาจากพระผู้เป็นเจ้า (อัลลอฮฺ)ที่บัญญัติมาทางพระดำรัสหรืออัลกุรอาน และความรู้อีกส่วนหนึ่งที่ประทานให้แก่นบีมุฮัมมัด ที่เรียกว่า ซุนนะฮฺ หรือ หะดีษ
กฎหมายนี้ในภาษาอาหรับเรียกว่า "ชารีอะฮฺ" ซึ่งมีที่มาคือ 1.อัลกุรอาน 2.หะดีษ 3.อิจมาอฺ (มติเอกฉันท์ของบรรดาปราชญ์) 4.กิยาส (เทียบเคียงตัวบทและฎีกาสมัยของท่านนบีและสาวก)
บรรดาปราชญ์ของอิสลามนั้นเรียกว่า "อุละมาอฺ"(ผู้รู้)
มุจญ์ตะฮิด หมายถึง ผู้ที่สามารถทำการอิจญ์ติฮาดได้ คือ ผู้มีคุณธรรม มีความเชี่ยวชาญในภาษา มีความรู้ในอัลกุรอานและหะดีษอย่างลึกซึ้ง รู้ความหมายและที่มาที่ไปของบัญญัติตลอดจนเป้าหมาย มีความรู้ในประวัติของนบีและบรรดาสาวก ตลอดจนฎีกาต่างๆในแต่ละยุคสมัยเป็นอย่างดี นอกจากนั้นก็ยังมีความรู้ทางสังคม การเมือง และความรู้รอบตัวอื่นๆอีกด้วย
ฉะนั้นเหตุการณ์หรือสิ่งใหม่ที่ไม่มีปรากฏในสมัยของท่านนบีและสาวก บรรดามุจญ์ตะฮิดจะทำการวินิจฉัยหรืออิจญ์ติฮาดเพื่อกำหนดบัญญัติให้ผู้คนถือปฏิบัติ เนื่องจากกฎหมายอิสลามหรือชารีอะฮฺนั้น มีคำสั่งโดยกว้างๆครอบคลุมตลอดไปทุกยุคทุกสมัย และบังคับใช้จนถึงวันสิ้นโลก
"ฟัตวา" หมายถึง การชี้คำตอบในปัญหาศาสนา หรือการให้คำตัดสินเกี่ยวกับบัญญัติ
"มุฟตี" หมายถึง ผู้ตอบปัญหาศาสนา หรือผู้ให้คำตัดสินในเรื่องบัญญัติ ซึ่งคุณสมบัติของมุ
กรณีหากเกิดขัดแย้ง หรือเข้าใจศาสนาไม่ตรงกัน ให้มุสลิมนั้นกลับไปที่อัลกุรอานและหะดีษ และละทิ้งเรื่องที่คลุมเครือ
|