ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอภูผาม่าน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
JBot (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนเนื้อหาอาจละเมิดลิขสิทธิ์ หรือไม่เป็นสารานุกรม ไม่ใช่? แจ้งที่นี่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24:
* '''ทิศใต้''' ติดต่อกับ[[อำเภอคอนสาร]] ([[จังหวัดชัยภูมิ]])
* '''ทิศตะวันตก''' ติดต่อกับ[[อำเภอน้ำหนาว]] ([[จังหวัดเพชรบูรณ์]])
== ประวัติ ==
* [[การตั้งถิ่นฐาน]]
ประมาณปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา นายภูมิ บิดาเป็นกรมการเมืองนครไทย (อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก)ได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่ควบคุมสมัครพรรคพวกไปซ่องสุมคอยดักจับเอาพวกจรจัดที่หลบหนีอยู่ตามป่าในเขตเมืองเพชรบูรณ์และเมืองหล่มสัมมารวมไว้ ท่านปฏิบัติหน้าที่เป็นผลดีแก่ทางราชการมาก จึงได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้เป็น หมื่นอร่ามกำแหง และต่อมาท่านได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น หลวงวิชิตสงคราม และได้รับใช้บ้านเมืองด้วยความอุตสาหะวิริยะ และซื่อสัตย์ สุจริต จึงเป็นที่โปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่อิจฉาริษยาของข้าราชการในสมัยนั้นหลายคน จนในที่สุดถูกใส่ร้ายจึ่งถูกถอดยศลดตำแหน่งหลวงวิชิตสงครามลงเป็นไพร่หลวง สังกัดกองด่านเมืองเพชรบูรณ์ ท่านจึงพาพรรคพวกอพยพหาทำเลที่เหมาะสมสำหรับตั้งบ้านเรือนซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตำเฉียงเหนือของบ้านเป้า ซึ่งเป็นที่ว่าง (บ้านเป้า ตำบลบ้านเป้า อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ) เป็นที่มีดินอุดมสมบูรณ์และมีลำห้วย ลำคลองหลายสาย น้ำพุ น้ำซับหลายแห่งเพียงพอที่จะทำการทดหรือระบายเข้าสู่ไร่นาในอนาคตได้ ประกอบกับพื้นที่มีพืชพันธุ์นานาชนิด ทั้งที่ใช้เป็นอาหารมนุษย์ได้และใช้ทำเป็นเครื่องใช้สอยขึ้นอยู่หนาแน่น คล้ายคลึงกับภูมิภาคบ้านเดิมของท่าน ดังนั้นท่านจึงตั้งบ้านเมืองอยู่ที่บ้านคอนสาร
และได้ทำหน้าที่ขุดร่อนทองคำเป็นอากรส่วยทูลเกล้าถวายเป็นประจำทุกปี เมืองคอนสารมีเจ้าเมืองปกครองมาเรื่อย ๆ จนถึงสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ กองบ้านคอนสารถูกยุบเป็นตำบลได้ ๓ ตำบล คือ
{|
|-
1.ตำบลคอนสาร ขึ้นอยู่กับอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ (ปัจจุบันคืออำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ)
|-
2.ตำบลโนนหัวนา ขึ้นอยู่กับอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ต่อมาเมื่อมีประชากรมากขึ้น ทางราชการจึงแยกออกเป็นตำบลทุ่งพระ (ปัจจุบันคือตำบลโนนหัวนาและตำบลทุ่งพระ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
|-
3.ตำบลโนนคอม ขึ้นอยู่กับอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เมื่อทางราชการตั้งอำเภอชุมแพขึ้น ก็ถูกยุบไปรวมกับตำบลโนนกัน ขึ้นกับอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ต่อมาจึงยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอภูผาม่าน และอำเภอภูผาม่าน ในลำดับต่อมา
|}
* [[การพัฒนาทางประวัติศาสตร์]]
|-
เดิมอำเภอภูผาม่านมีเขตการปกครองขึ้นกับอำเภอชุมแพ แต่ด้วยเหตุผลด้านการเมือง การปกครองและด้านความมั่นคง เนื่องจากตำบลโนนคอม ซึ่งเป็นที่ตั้งกิ่งอำเภอภูผาม่าน อยู่ระหว่างรอยต่อของ ๔ จังหวัด พื้นที่เต็มไปด้วยภูเขา ทำให้มีลัทธิคอมมิวนิสต์แทรกซึม ยากแก่การปราบปรามของฝ่ายรัฐบาล ดังนั้น เมื่อปี ๒๕๒๑ พลโทเปรม ติณสูลานนท์ (ยศสมัยนั้น) แม่ทัพภาคภาคที่ ๒ จึงได้ดำริว่า ควรจะตั้งกิ่งอำเภอขึ้น เพื่อง่ายแก่การบริการประชาชน และเป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมือง การปกครอง ดังนั้นเรืออากาศตรีถวัลย์ พิทักษ์วงศ์ นายอำเภอชุมแพสมัยนั้นร่วมกับข้าราชการ ผู้ใหญ่บ้าน กำนันตำบลโนนคอม และตำบลนาหนองทุ่ม ได้ประชุมปรึกษาหารือเพื่อจะขอตั้งกิ่งอำเภอภูผาม่านในปี ๒๕๒๑ แต่การดำเนินการไม่สำเร็จ เนื่องจากตำบลนาหนองทุ่มไม่ยอมเข้าร่วม ทำให้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ของราชการ
|-
ต่อมาปี ๒๕๒๓ นายอำเภอชุมแพ เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะตั้งกิ่งอำเภอ จึงได้แยกตำบลโนนคอมออกเป็นอีกตำบลหนึ่ง คือ ตำบลนาฝาย และได้นำเรื่องเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ กระทรวงมหาดไทยจึงประกาศตั้งกิ่งอำเภอภูผาม่าน เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๒๔ ลงนามประกาศโดย พลเอกสิทธิ์ จิรโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้เริ่มเปิดบริการประชาชนเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๒๔ และทำพิธีเปิดที่ว่าการกิ่งอำเภอเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๒๔ โดยมี ร.ต.เจริญชัย คชทิน เป็นปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอภูผาม่านคนแรก
|-
กิ่งอำเภอภูผาม่านได้รับการพัฒนาขึ้นโดยลำดับ ทั้งด้านการเมือง ด้านการศึกษา และการคมนาคม โดยมีปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งหมุนเวียนกันหลายคน จนถึงปี ๒๕๓๔ ต่อกับปี ๒๕๓๕ ในช่วงที่นายฉลอง สุวรรณวัฒนะ ดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่ง เห็นว่ากิ่งอำเภอภูผาม่านมีความพร้อมตามหลักเกณฑ์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จึงได้เสนอเรื่องยกฐานะกิ่งอำเภอภูผาม่านเป็นอำเภอ ต่อที่ประชุมกรมการจังหวัดขอนแก่น เพื่อเสนอกรมการปกครองพิจารณา ซึ่งนับแต่นั้นชาวภูผาม่านทุกคนไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกหมู่เหล่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แม้แต่ราษฎรก็เฝ้าคอย คอยความหวังว่าเมื่อไรกิ่งอำเภอของพวกเรา จะได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอเสียที และอาจจะเป็นโชคดีของชาวภูผาม่าน ที่ถึงแม้นายฉลอง สุวรรณวัฒนะ จะย้ายไปดำรงตำแหน่งที่อื่น ปลัดอำเภอคนต่อ ๆ มาไม่ว่าจะเป็นนายบุญธรรม บุณยทัย หรือที่เห็นชัดเจนคือนายพยัต ชาญประเสริฐ
ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งคนสุดท้ายของอำเภอภูผาม่าน ได้ร่วมกับบรรดาหน้าหน้าส่วนราชการช่วยกันประสานงานกับบุคคลและหน่วยงาน เพื่อสนับสนุนให้ยกฐานะเป็นอำเภอ ซึ่งบุคคลที่มีส่วนสนับสนุนครั้งนี้ได้แก่ ส.ส.สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ ส.ส.ดร.สฤต สันติเมทนีดล ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต ๔ ในขณะที่เฝ้ารอคอยวันที่จะยกฐานะเป็นอำเภอ นายพยัต ชาญประเสริฐ ได้ร่วมกับข้าราชการและพี่น้องประชาชน พัฒนากิ่งอำเภอภูผาม่านให้เจริญรุดหน้าทุก ๆ ด้าน เพื่อรองรับการเป็นอำเภอที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดระบบการทำงานภายในกิ่งอำเภอ การพัฒนาสภาพแวดล้อมและจัดบรรยากาศการทำงาน การจัดสวัสดิการแก่ข้าราชการ การส่งเสริมอาชีพ และที่สำคัญคือการประชาสัมพันธ์กิ่งอำเภอภูผาม่านให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชนทั่วไป โดยใช้คำขวัญของอำเภอภูผาม่านที่ว่า “ภูผาม่านอุทยานขุนเขา ฝูงค้างคาวนับล้าน แลละลานถั่วเหลือง ลือเลื่องเครื่องดื่มสมุนไพร ตรุษไทยเทสกาล” เป็นจุดรวมในการส่งเสริมพัฒนาและประชาสัมพันธ์หน่วยงานจนเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป
|-
กรมการปกครองแจ้งว่า กิ่งอำเภอภูผาม่านจะได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอในปีงบประมาณ ๒๕๓๗ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๓๗ หลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ชาวภูผาม่าน จึงพร้อมใจกันจัดงานสถาปนาอำเภอภูผาม่าน ในวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๓๗ ซึ่งตรงกับวันสำคัญของชาวภูผาม่าน คือ เทศกาลตรุษไทย ภูผาม่า
 
== การปกครองส่วนภูมิภาค ==
อำเภอภูผาม่านแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 5 [[ตำบล]] 41 [[หมู่บ้าน]] ได้แก่