ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรคตับแข็ง"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล แจ้งไม่เป็นสารานุกรมด้วยสจห. |
Love Krittaya (คุย | ส่วนร่วม) ล →การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดทำอะไรกับตับบ้าง?: +แทนที่ " " → "" ด้วยสจห. |
||
บรรทัด 10:
* ภาวะ[[ไขมัน]]สะสมใน[[ตับ]] พบได้ในผู้ป่วย[[โรคเบาหวาน]], [[โรคอ้วน]],ไขมันในเลือดสูง
* การรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบเป็นระยะเวลานานๆ
{{ปรับภาษา}}
ในสภาวะปกติที่ร่างกายกินอาหารเข้าไป อาหารที่ถูกย่อยและดูดซึม จะเข้าไปในกระแสเลือด ไม่ว่าน้ำตาล โปรตีน ไขมัน ต่างถูกนำไปสู่ตับ จากนั้นตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงสารเหล่านี้เพื่อให้เหมาะสมต่อการกระจายไปสู่อวัยวะต่างๆ บางส่วนตับจัดให้กลายเป็นพลังงานสะสมในตับ บางส่วนตับจะส่งไปสะสมในรูปไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกาย▼
แอลกอฮอล์ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ส่วนหนึ่งไปสมอง(ทำให้เกิดอาการเมา) ส่วนที่เหลือก็ไปยังตับ ... อย่างที่บอกว่าแอลกอฮอล์เป็นสารที่ให้พลังงาน เมื่อมันเข้าไป ตับก็จะเปลี่ยนแอลกอฮอล์ให้กลายเป็นสารที่ร่างกายจะเอาไปใช้ให้เกิดพลังงาน ปัญหาก็คือว่ามันเป็นสารที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร ดังนั้นจึงจัดในกลุ่มอาหารชั้นเลว เพราะพอกินไปแล้วร่างกายไม่รู้สึกอิ่ม แต่ว่ามันทำให้ร่างกายรู้สึกว่ามีพลังงานในร่างกายมาก ดังนั้นเมื่อเรากินอาหารเข้าไปตามปกติ ตับก็จะเปลี่ยนพลังงานส่วนเกินจากแอลกอฮอล์ให้กลายไปเป็นไขมัน ดังนั้นก็จะกลายเป็นสาเหตุของโรคอ้วน ซึ่งจะตามมาด้วยโรคทางหลอดเลือดหัวใจและสมองต่อไป นอกจากนี้เจ้ากรดไขมันที่เกิดขึ้นมาในกระบวนการนี้ ยังมีบางส่วนที่จะสะสมในตับ เกิดเป็นภาวะที่เรียกว่า Fatty Liver หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า "ไขมันเกาะตับ"อีกด้วย▼
'''ผลของเหล้าที่มีต่อตับในแง่ของการ'ทำลาย''''▼
เมื่อเรากินเหล้าเข้าไปเหล้าจะโดนส่งไปที่ตับ จากนั้นเหล้าก็จะถูกตับเปลี่ยนเพื่อเปลี่ยนไปเป็นพลังงานตามที่ได้ว่าไว้ บางส่วนของเหล้าจะเข้ากระบวนการของตับที่มีชื่อเรียกว่า Cytochrome P450 oxidase ... เป็นชื่อเอนไซม์ตัวนึงที่ใช้ในการทำลายเปลี่ยนแปลงสารต่างๆ ยาหลายตัวต้องใช้เจ้า P450 นี้ ... ยาบางชนิด ใช้เพื่อให้ยาทำงานได้ผล ... ยาบางตัวมีพิษ ก็จะมาถูกทำลายด้วยP450 นี้ แต่ถ้าเรากินเหล้าเข้าไป จะไปกระตุ้นเจ้า P450 นี้ให้ทำงานมากขึ้น เมื่อเจ้าP450ทำงานมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ ยาหลายตัวที่กินเข้าไป จะไปถูกทำลายที่นี่มากขึ้น ถ้าคนปกติกินยาเข้าไป1เม็ด ออกฤทธิ์ ครึ่งเม็ด (อีกครึ่งโดนทำลาย) คนที่กินเหล้าเป็นประจำ กินเข้าไปหนึ่งเม็ด สามในสี่อาจจะโดนทำลาย ... เหลือออกฤทธิ์จริงๆแค่หนึ่งในสี่ ... ดังนั้นกินยาเข้าไปก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์จากยาเลย▼
จึงไม่น่าแปลก หากใครกินเหล้าเป็นประจำแล้วเวลาเจ็บป่วยแล้วรักษาหายช้า หายไม่ทันใจ ... บางคนให้ยาถูกต้อง รักษาถูกต้อง ก็หายช้า บางครั้งบางคราวพาลไปโทษว่ายาไม่ดีรักษาไม่ดีเสียด้วยซ้ำ▼
▲ ในกระบวนการที่เหล้าเข้าไปในตับและเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานนั้น จะมีช่วงที่มันกลายไปเป็นอะเซตาลดีไฮด์ ... (ฟอร์มาลินดองศพ มีชื่อว่า ฟอร์มัลดีไฮด์ คล้ายๆกันไม๊) แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นอะซีเตท(ซึ่งเอาไปสร้างพลังงาน) และในกระบวนการช่วงที่เปลี่ยนเจ้าอะซีเตทไปเป็นพลังงาน จะเกิดไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งมีฤทธิ์แบบอนุมูลอิสระ หรือพูดง่ายๆว่า พอกินเหล้าไปแล้วก่อเกิดสารที่ทำลายเซลล์ตับขึ้น ตับจะเกิดการอักเสบขึ้นมา ... และเมื่อตับทำการซ่อมแซม ก็จะเกิดแผลเป็นขึ้น ถ้าเป็นแล้วหยุดเหล้า ตับซึ่งมีความสามารถในการซ่อมแซมตนเองสูงมาก ก็จะซ่อมแซมตนเองจากที่เคยผิดปกติจะกลับมาสู้สภาพปกติได้ แต่ถ้าไม่หยุด หากเป็นติดต่อกันนานๆเข้าก็จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า "ตับแข็ง"ขึ้นตับกลายเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำ
▲
'''ไขมันเกาะตับ ต้องรักษาไหม'''▼
▲
ปกติเวลาไปตรวจแล้วเจอไขมันเกาะตับ จะเป็นการตรวจเจอด้วยการเข้าเครื่อง เช่น MRI CT อัลตราซาวน์ ▼
คนหลายคนจะเจอแล้วกังวล ... ซึ่งแพทย์ก็มักไม่ได้ให้การรักษาอะไร(ถ้าหากพูดคุยกันเข้าใจ) ถ้าหากคุยไม่ค่อยเข้าใจ ก็อาจจะให้วิตามินบำรุงตับไป ไขมันเกาะตับจากเหล้านี้ไม่ใคร่มีอาการ ไม่มีผลเสีย และหายเองได้ภายในสองสัปดาห์หากหยุดเหล้าครับ (ดังนั้นก็จะเจอได้บ่อยๆ เวลาตรวจเจอ หมอไม่ได้รักษา แล้วไปหาพระรดน้ำมนต์และถือศีล5ศีล8 เพราะว่าการถือศีล5ก็ต้องงดเหล้า)▼
▲
▲
▲
'''ตับแข็งแล้วเป็นอย่างไร'''
กินยาเข้าไปแล้ว ร่างกายขับทำลายยาได้ไม่ดี เกิดผลข้างเคียงของยารุนแรงกว่าปกติ
'''ไปตรวจเลือดแล้วไม่เห็นเป็นอะไร'''
เวลาไปตรวจเลือด ในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จะมีเอนไซม์ของตับเพิ่มสูงมากขึ้นกว่าปกติ ... แต่ว่า หากปล่อยให้เป็นไปนานๆ จนเริ่มเกิดตับแข็งไปบางส่วน
จากที่เคยพบมา คนบางคนเจาะเลือดที่รพ.แล้วแพทย์ก็เตือนไปว่าตับเริ่มไม่ดี ให้หยุดดื่มเหล้า ... แต่จากนั้นไปแสวงหาการรักษาอื่นแล้วไปเจาะเลือดซ้ำ ปรากฏว่าผลเลือดปกติ ... บางคนหลงเข้าใจผิดว่าการรักษาทางเลือกที่ไปนั้นได้ผล จริงๆแล้วไม่ได้ผล และกำลังกลายเป็นตับแข็งไปแล้วด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าอาการยังไม่แสดงออกและผลเลือดที่เคยผิดปกติกลับมาสู่ค่าปกติ (ซึ่งต่อไปอีกระยะหนึ่งจะผิดปกติอย่างชัดเจน) ดังนั้นการเจาะเลือดแล้วปกติ ไม่ได้แปลว่าตับปกติครับ ต้องดูจากประวัติหลายๆอย่างในอดีตเพิ่มเติม
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง
* http://bphadungchob.spaces.live.com/feed.rss |