ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฉางอาน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Liger (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Liger (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
 
{{รอการตรวจสอบ}}
 
'''ฉางอาน''' หรือ '''ฉางอัน''' ({{zh-all|t=長安|s=长安|p=Cháng'ān}}; {{lang-en|Chang'an}}) เป็นเมืองหลวงเก่าของ[[ประเทศจีน]] โดยมีราชวงศ์ 13 ราชวงศ์ที่เลือกนครฉางอานเป็นเมืองหลวง <ref>http://www.komchadluek.net/2009/01/18/x_soc_s001_332135.php?news_id=332135</ref> ปัจจุบันคือเมือง[[ซีอาน]] ซึ่งเปลี่ยนชื่อในสมัย[[ราชวงศ์ชิง]]
 
เมืองหลวงของราชวงศ์ถังชื่อ คือเมือง'''ฉางอาน''' มีความหมายว่า "ความสงบสุขชั่วนิรันดร์" (เมืองซีอานในปัจจุบันPerpetual Peace) สร้างขึ้นในสมัย[[ราชวงศ์สุย]] ในยุคนั้นเรียกว่าเมืองต้าซิง เมื่อถึงราชวงศ์ถังจึงเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองฉางอาน เมืองนี้ใช้ระยะเวลาในการสร้างเกือบ 100 ปี แต่ความใหญ่โตมโหฬารกลับปรากฏในตอนท้าย เมืองฉางอานในยุคนั้นเมื่อเทียบกับเมืองซีอานในอดีตแล้วยังนับว่าใหญ่กว่า 10 เท่า ถือว่าเป็นเมืองระดับนานาชาติเลยก็ว่าได้
ชื่อ '''ฉางอาน''' มีความหมายว่า "ความสงบสุขชั่วนิรันดร์" (Perpetual Peace)
 
ภายในเมืองฉางอานมีพระราชวังที่โอ่อ่าสวยงาม ใช้เป็นที่ประทับขององค์พระมหากษัตริย์และเป็นที่บริหารราชภารแผ่นดิน ทางทิศใต้ของเขตพระราชวังใช้เป็นที่ทำงานของขุนนางทั้งหลาย ถนนหนทางภายในตัวเมืองฉางอานและที่พักอาศัย ถูกออกแบบคล้ายกระดานหมายรุก เป็นระเบียบเรียบร้อย ถนนหลายสายภายในเมืองมีความกว้างกว่า 100 เมตร หนึ่งในนั้น ถนน "จูเชว่" ถือได้ว่าเป็นถนนที่กว้างมากที่สุด สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความรุ่งเรืองของบ้านเมือง เมื่อเข้าสู่ราชวงศ์หมิงและชิงก็ได้นำเอาแบบอย่างการสร้างเมืองฉางอานไปใช้ในการสร้างเมือง[[ปักกิ่ง]]
 
เมืองฉางอานมีส่วนที่ใช้เป็นที่พักอาศัยและส่วนที่ใช้ทำมาค้าขาย แบ่งเป็นสัดส่วน ภายในส่วนที่ใช้ทำมาค้าขาย มีร้านค้ามากมาย เรียกร้านค้าเหล่านี้ว่า"ห้าง" อาทิ ห้างขายเนื้อ,ห้างขายปลา,ห้างขายยา,ห้างผ้า,ห้างเหล็ก,ห้างเงินทอง ฯลฯ ว่ากันว่าแค่เพียงส่วนค้าขายทางตะวันออก ก็มีถึง200กว่าร้านค้า สิ่งของหายากจากทั่วทุกสารทิศ สามารถหาซื้อได้ในเมืองฉางอาน
 
เมืองฉางอานยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางวัฒนธรรม มีกิจกรรมความบันเทิงต่างๆมากมาย อาทิ การร้องรำทำเพลง,การแข่งขันชนไก่,ชักเย่อ,โล้ชิงช้า ฯลฯ จิตกร นักอักษรศิลป์ กวีที่มีชื่อเสียงต่างก็พักอาศัยอยู่ในเมืองฉางอาน ผลงานของผู้คนเหล่านี้ทำให้เมืองฉางอานมีสีสันมากขึ้น
 
เมืองฉางอานยังเป็นเมืองที่วัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกมาบรรจบกัน ในยุคนั้นประเทศต่างๆกว่า70ประเทศ ได้มาเจริญสัมพันธไมตรีกับ[[ราชวงศ์ถัง]] เส้นทางสายไหมมีความเจริญสูงสุด ประเทศญี่ปุ่น ซินหลอ(เกาหลีเหนือและใต้ในปัจจุบัน) และประเทศอื่นๆอีกมากมาย ต่างส่งคนมาศึกษาเล่าเรียน พ่อค้าจากเปอร์เซีย(ส่วนหนึ่งของประเทศอิรักในปัจจุบัน) กับทาจิคส์ (ส่วนหนึ่งของเอเชียตะวันออกกลาง) ต่างมุ่งหน้ามาทำการค้าขายที่เมืองฉางอาน ในเวลานั้นเมืองฉางอานมีประชากรถึง 1 ล้านคน รวมกับชาวต่างชาติที่ย้ายมาพำนักอีกว่าหมื่นคน เมืองฉางอานไม่เพียงแต่เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม แต่ยังกลายเป็นเมืองระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งอีกด้วย <ref>วิทยาลัยภาษาจีนปักกิ่ง,มหาวิทยาลัยครูหนานจิง,มหาวิทยาลัยครูอันฮุย.''ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ประเทศจีน''.กรุงเทพฯ:สุขภาพใจ.2550</ref>
 
== อ้างอิง ==
<references/>
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
 
 
เส้น 27 ⟶ 35:
[[zh:长安]]
[[zh-classical:長安]]
 
เมืองหลวงของราชวงศ์ถัง คือเมืองฉางอาน (เมืองซีอานในปัจจุบัน) สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์สุย ในยุคนั้นเรียกว่าเมืองต้าซิง เมื่อถึงราชวงศ์ถังจึงเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองฉางอาน เมืองนี้ใช้ระยะเวลาในการสร้างเกือบ 100 ปี แต่ความใหญ่โตมโหฬารกลับปรากฏในตอนท้าย เมืองฉางอานในยุคนั้นเมื่อเทียบกับเมืองซีอานในอดีตแล้วยังนับว่าใหญ่กว่า 10 เท่า ถือว่าเป็นเมืองระดับนานาชาติเลยก็ว่าได้
 
ภายในเมืองฉางอานมีพระราชวังที่โอ่อ่าสวยงาม ใช้เป็นที่ประทับขององค์พระมหากษัตริย์และเป็นที่บริหารราชภารแผ่นดิน ทางทิศใต้ของเขตพระราชวังใช้เป็นที่ทำงานของขุนนางทั้งหลาย ถนนหนทางภายในตัวเมืองฉางอานและที่พักอาศัย ถูกออกแบบคล้ายกระดานหมายรุก เป็นระเบียบเรียบร้อย ถนนหลายสายภายในเมืองมีความกว้างกว่า 100 เมตร หนึ่งในนั้น ถนน "จูเชว่" ถือได้ว่าเป็นถนนที่กว้างมากที่สุด สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความรุ่งเรืองของบ้านเมือง เมื่อเข้าสู่ราชวงศ์หมิงและชิงก็ได้นำเอาแบบอย่างการสร้างเมืองฉางอานไปใช้ในการสร้างเมืองปักกิ่ง
 
เมืองฉางอานมีส่วนที่ใช้เป็นที่พักอาศัยและส่วนที่ใช้ทำมาค้าขาย แบ่งเป็นสัดส่วน ภายในส่วนที่ใช้ทำมาค้าขาย มีร้านค้ามากมาย เรียกร้านค้าเหล่านี้ว่า"ห้าง" อาทิ ห้างขายเนื้อ,ห้างขายปลา,ห้างขายยา,ห้างผ้า,ห้างเหล็ก,ห้างเงินทอง ฯลฯ ว่ากันว่าแค่เพียงส่วนค้าขายทางตะวันออก ก็มีถึง200กว่าร้านค้า สิ่งของหายากจากทั่วทุกสารทิศ สามารถหาซื้อได้ในเมืองฉางอาน
 
เมืองฉางอานยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางวัฒนธรรม มีกิจกรรมความบันเทิงต่างๆมากมาย อาทิ การร้องรำทำเพลง,การแข่งขันชนไก่,ชักเย่อ,โล้ชิงช้า ฯลฯ จิตกร นักอักษรศิลป์ กวีที่มีชื่อเสียงต่างก็พักอาศัยอยู่ในเมืองฉางอาน ผลงานของผู้คนเหล่านี้ทำให้เมืองฉางอานมีสีสันมากขึ้น
 
เมืองฉางอานยังเป็นเมืองที่วัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกมาบรรจบกัน ในยุคนั้นประเทศต่างๆกว่า70ประเทศ ได้มาเจริญสัมพันธไมตรีกับราชวงศ์ถัง เส้นทางสายไหมมีความเจริญสูงสุด ประเทศญี่ปุ่น ซินหลอ(เกาหลีเหนือและใต้ในปัจจุบัน) และประเทศอื่นๆอีกมากมาย ต่างส่งคนมาศึกษาเล่าเรียน พ่อค้าจากเปอร์เซีย(ส่วนหนึ่งของประเทศอิรักในปัจจุบัน) กับทาจิคส์ (ส่วนหนึ่งของเอเชียตะวันออกกลาง) ต่างมุ่งหน้ามาทำการค้าขายที่เมืองฉางอาน ในเวลานั้นเมืองฉางอานมีประชากรถึง 1 ล้านคน รวมกับชาวต่างชาติที่ย้ายมาพำนักอีกว่าหมื่นคน เมืองฉางอานไม่เพียงแต่เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม แต่ยังกลายเป็นเมืองระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งอีกด้วย
== อ้างอิง ==
<references />วิทยาลัยภาษาจีนปักกิ่ง,มหาวิทยาลัยครูหนานจิง,มหาวิทยาลัยครูอันฮุย.''ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ประเทศจีน''.กรุงเทพฯ:สุขภาพใจ.2550
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/ฉางอาน"