ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บ้านลอมกลาง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 38:
4. พ่อหนานอิ่นเมือง (พ.ศ. 2450)
 
5. พ่อหนานบุญสงค์ สุยะตา (พ.ศ. 2474) สมัยพ่อบุญสงค์เป็นผู้ปกครองมีหมู่บ้านอยู่สามหมู่บ้าน คือน้ำบั่ววัด น้ำบั่วใต้ และน้ำบั่วป่ากล้วย อยู่ต่อมาบ้านน้ำบั่วใต้ก็ยุบไป แล้วมีหมู่บ้านเกิดขึ้นแถมบ้านหนึ่ง คือบ้านหนองเตา สามหมู่บ้านนี้อยู่ในเขตการดูแลของพ่อบุญสงค์ทั้งหมด สมัยนี้นายเลิศ สุภาแก้ว ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่ปกครองบ้านน้ำบั่วป่ากล้วยและติดต่อราชการกับบ้านเชียงยืน
 
6.พ่อน้อยคำ เมฆยะ (พ.ศ. 2505 ) สมัยพ่อน้อยคำเป็นผู้ใหญ่ก็มีการแบ่งหมู่บ้าน ทางราชการกำหนดให้ บ้านน้ำบั่วป่ากล้วย แยกการปกครองเป็นอีก 1 หมู่บ้านโดยตั้งพ่อหนานสายคำ เขยตุ้ย เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน
 
*'''บ้านน้ำบั่วป่ากล้วยลอมกลาง'''
 
1. พ่อหลวงหนานสายคำ เขยตุ้ย
บรรทัด 48:
2. พ่อหลวงหนานสมบูรณ์ เขยตุ้ย
 
3. พ่อหลวงน้อยคำ ไชยปรุง
3. พ่อหลวงน้อยคำ ไชยปรุง สมัยพ่อหลวงน้อยคำ บ้านน้ำบั่วป่ากล้วยได้เกิดโรคระบาด จึงได้อพยพลูกหลาน และขอให้ขาวบ้านป่ากล้วยได้อพยพมาตั้งเรือน ให้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ฝั่งทิศใต้ของลำน้ำบั่ว โดยครั้งนั้นพ่อหลวงน้อยคำซึ่งเป็นผู้มีฐานะ และกว้างขวางมาก และเป็นผู้ที่มีผู้คนยอมรับนับถือเป็นอันมาก ได้ซื้อที่ดินจากเจ้าของบริเวณทั้งหมดของหมู่บ้าน แล้วนำมาแบ่งให้กับลูกหลานได้ตั้งบ้านเรือน ประกอบกับครั้งนั้นทางราชการได้ตัดถนนหลวง สาย 1180 ผ่านหน้าหมู่บ้าน หลังจากนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น '''บ้านลอมกลาง''' หลังจากตั้งหมู่บ้านไม่นาน พ่อหลวงน้อยคำขอลาออกจากผู้ปกครองหมู่บ้าน เพื่อค้าขายวัว และเกลือ และสินค้าอื่น ๆ โดยมีคราวานวัวต่างนับร้อยตัว
 
หลังนั้นบ้านลอมกลางก็มีผู้ปกครองหมู่บ้านตามที่ทางราชการแต่งตั้งมาเรื่อย ๆ จนมาถึง ปี พ.ศ. 2526 สมัยของ นายวิเชียร ไชยปรุง ชาวบ้านลอมกลางเกิดความขัดแย้งในการปฏิบัติพุทธศาสนากับหมู่บ้านทุ่งฆ้อง ครั้งนั้นชาวบ้านจึงได้มีมติขอแยกวัดทุ่งฆ้องมาตั้งวัดขึ้นมาใหม่ ครั้งนั้นพ่อหลวงน้อยคำ และแม่หลวงขันคำ ไชยปรุง จึงได้บริจาคสวนมะม่วง เพื่อตั้งวัดลอมกลาง อีกทั้งสองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการสร้างศาสนสถานขึ้นในชุมชน