ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระพิจารณ์พลกิจ (ยู่เซ็ก ดุละลัมพะ)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ธนูเทพ (คุย | ส่วนร่วม)
ธนูเทพ (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 17:
# พลตำรวจตรีโมรา ดุละลัมพะ
 
เมื่อเยาว์วัย ได้เข้าศึกษาที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดตราด ในสำนักของ [[พระวิมลเมธาจารย์วรญาณคณานุรักษ์ ( เจ้ง จันทสรจนฺทสร )]] เจ้าคณะจังหวัดตราด จนสอบไล่ได้ประกาศนียบัตร ประถมชั้น 3 เมื่ออายุได้ 11 ปี ต่อมา เมื่อ พ.ศ. 2446 รัฐบาลไทยได้ยกจังหวัดตราดให้กับฝรั่งเศส โดยได้แลกกับจังหวัดจันทบุรีที่ยึดไว้เป็นประกันนั้น จึงได้อพยพติดตามมารดากับพี่น้องมาอยู่ที่จันทบุรีชั่วระยะหนึ่ง แล้วย้ายเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยมาเข้าศึกษาต่อที่[[โรงเรียนวัดปทุมคงคา]] แล้วลาออก โดยมารดาพาเข้าไปฝากตัวต่อ[[สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์]] [[วัดบวรนิเวศวิหาร]] ซึ่งขณะนั้นยังมีสมณศักดิ์ที่ พระญาณวราภรณ์
 
เริ่มเข้ารับราชการครั้งแรก เป็นเสมียนโรงกลึง ในกรมทาง กระทรวงคมนาคม เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2453 แล้วจึงโอนมารับราชการในกระทรวงนครบาล เมื่อ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2455 ได้ศึกษาวิชาการตำรวจ สำเร็จการศึกษาในปีถัดมา
บรรทัด 57:
เครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดที่ได้ คือ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ,ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย และ เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 2
 
เมื่อลาออกจากราชการแล้ว ในปี พ.ศ. 2490 ก็ได้ทำการอุปสมบท ณ วัดเบญจมบพิตร โดยมี[[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตติโสภณมหาเถร)]] เมื่อยังเป็นที่สมเด็จพระวันรัต เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับสมญาว่า "วิจารโณภิกขุ" และภายหลังเมื่อลาสิกขาแล้ว ก็ได้ใช้ชีวิตไปกับการอุทิศตนให้กับศาสนา ด้วยการถือศีล ฟังธรรมเทศนา ในวันธรรมสวนะตามวัดต่างๆ เช่น วัดบุปผาราม วัดราชาธิวาศ วัดมหาธาตุ และสุดท้ายคือวัดราชผาติการาม โดยมีความเคารพนับถือ และเป็นที่คุ้นเคยของพระเถระผู้ใหญ่หลายรูปอาทิ [[สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ( วิน ธมฺมสาโร )]] วัดราชผาติการาม, [[พระธรรมวราลังการ ( กล่อม อนุภาโส )]] วัดบุปผาราม เป็นต้น กับได้ได้บวชกุลบุตรให้อุปสมบทในวัดต่างๆ รวมถึง 44 รูป
 
=== ครอบครัว ===