ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จิตรศิลป์นิยม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาด +แจ้งรอตรวจสอบด้วยบอต
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3:
{{ชื่ออังกฤษ}}
 
'''Pictorialism''' เป็นความเคลื่อนไหวในวงการ[[ถ่ายภาพ]]ช่วงราวๆ ปี [[ค.ศ. 1885]] ทำให้เกิดแนวทางในการใช้กระบวนการ Dry-Plate อย่างกว้างขวาง ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงต้น[[ศตวรรษที่ 20]] และลดความนิยมลงอย่างรวดเร็วหลังปี 1914 หลังจากการได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางของ[[ศิลปะสมัยใหม่ [[Modernism]]
 
โดยทั่วไปแล้ว Pictorialism เป็นส่วนหนึ่งของแนวความคิดการถ่ายภาพศิลปะที่ต้องการให้ภาพถ่ายเหมือนเป็นภาพวาด และรูปสลัก ส่วนมากของรูปภาพเหล่านี้เป็นสีขาว-ดำ หรือ sepia [[ซีเปีย]]ในวิธีการถ่ายภาพ เป็นการใช้โฟกัสต่ำ softซอฟต์โฟกัส focus, filter พิเศษฟิลเตอร์พิเศษ และใช้เคลือบผิวเลนส์ coatingขั้นตอนหลาย เลนส์ ขั้นตอนหลายๆขั้นตอนในห้องมืดที่ใช้ล้างฟิล์ม และกระบวนการการพิมพ์ที่มาจากต่างประเทศ กระดาษอัดรูปที่มีพื้นผิวขรุขระ ได้ถูกเพิ่มเข้ามาใช้เป็นองค์ประกอบของรูป เพื่อเบรกความชัดเจนของรูปให้น้อยลง
'''Pictorialism''' เป็นความเคลื่อนไหวในวงการ[[ถ่ายภาพ]]ช่วงราวๆ ปี [[ค.ศ. 1885]] ทำให้เกิดแนวทางในการใช้กระบวนการ Dry-Plate อย่างกว้างขวาง ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงต้น[[ศตวรรษที่ 20]] และลดความนิยมลงอย่างรวดเร็วหลังปี 1914 หลังจากการได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางของศิลปะสมัยใหม่ [[Modernism]]
 
โดยทั่วไปแล้ว Pictorialism เป็นส่วนหนึ่งของแนวความคิดการถ่ายภาพศิลปะที่ต้องการให้ภาพถ่ายเหมือนเป็นภาพวาด และรูปสลัก ส่วนมากของรูปภาพเหล่านี้เป็นสีขาว-ดำ หรือ sepia ในวิธีการถ่ายภาพ เป็นการใช้โฟกัสต่ำ soft focus, filter พิเศษ และใช้ coating เลนส์ ขั้นตอนหลายๆขั้นตอนในห้องมืดที่ใช้ล้างฟิล์ม และกระบวนการการพิมพ์ที่มาจากต่างประเทศ กระดาษอัดรูปที่มีพื้นผิวขรุขระ ได้ถูกเพิ่มเข้ามาใช้เป็นองค์ประกอบของรูป เพื่อเบรกความชัดเจนของรูปให้น้อยลง
 
เพื่อการบรรลุผลงานของศิลปินทั้งหลาย Pictorialists ใช้เทคนิคแตกต่างกันไป อย่างเช่น
# การรวมตัวของต้นแบบที่อัดภาพ (จากเนกาทีฟหลาย negative หลายๆอย่าง)
# ใช้โฟกัสแบบ soft focus ซอฟต์โฟกัสในกล้องถ่ายรูป
# การจับโน่นผสมนี่ของ negativeเนกาทีฟ (การขูด หรือการทาสีบน negativeเนกาทีฟ)
# ใช้เทคนิค Gumgum bichromate ซึ่งเป็นการใส่รายละเอียดน้อยลงมาก และผลิตภาพเป็นศิลปะมากขึ้น
 
ศิลปินจำนวนหนึ่ง ใช้การแกะสลัก พื้นผิวของพวกเขานั้น เป็นการใช้เทคนิคจากเข็ม ทำให้เกิดพื้นผิว เป้าหมายของการใช้เทคนิคเป็นที่ยอมรับ โดยในปี 1911 [[สารานุกรม Encyclopedia Britannica บริเตนนิกา]]ยอมรับให้ Pictorialism เป็น “ศิลปะส่วนบุคคล”
 
แม้ว่าจุดมุ่งหมายของการแสดงความรู้สึกของศิลปินดีที่สุดของภาพถ่าย ก็คล้ายคลึงกับ[[แนวคิด Impressionistอิมเพรสชันนิส]] ที่เป็นการวาดรูปในขณะเกิดความประทับใจ มองย้อนกลับไปจากปัจจุบันนี้ เรายังคงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในความคล้ายคลึงกันระหว่างองค์ประกอบ และสิ่งที่อยู่ในภาพวาด ของวิธีการวาดภาพและจำนวนของศิลปินการถ่ายภาพในแนว pictorialist
 
ในปี 1911 สารานุกรม Encyclopedia Britannica บริเตนนิกาได้ให้ข้อสังเกตว่า ในส่วนของความเคลื่อนไหวที่มีความชัดเจนของการถ่ายภาพแบบ pictorial เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเริ่มต้นที่อังกฤษ ถึงแม้ว่าในระยะต่อมาจะได้รับการยอมรับอย่างมาก ในการถ่ายภาพที่สหรัฐอเมริกา
 
สิ่งพิมพ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการเผยแพร่ศิลปินแนว Pictorialism คือหนังสือของ Alfred Stieglitz ที่มีชื่อว่า Camera Work ในปี 1903-1917 ซึ่งในการพิมพ์ออกมาแต่ละครั้งจะมีแม่พิมพ์สูงถึง 12 แม่พิมพ์ ที่เป็นการนำกลับมาใช้ใหม่ใน Photogravure, Halftone หรือ Collotype แม่พิมพ์นี้ปัจจุบันนี้ได้ถูกรวบรวมและเป็นที่ต้องการอย่างมากในโลกศิลปะ ช่างถ่ายภาพส่วนใหญ่นั้นได้สร้างประเด็นในการถ่ายภาพขึ้น “Photo-Succession” เป็นสมาชิกของกลุ่มที่ประกาศว่าการถ่ายภาพเป็นศิลปะ
เส้น 26 ⟶ 25:
Stieglitz ยังคงนำมาซึ่ง Picasso, Matisse, Rodan และช่างวาดภาพสำคัญคนอื่นๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในศิลปะแห่งสหรัฐอเมริกา
 
Stieglitz ไม่เพียงแต่เป็นช่างภาพผู้บุกเบิกในยุคแรกเท่านั้น แต่ยังคงเป็นบรรณาธิการ และเป็นเจ้าของแกลอรี่อรี เขาและช่างภาพคนอื่นๆ ผู้ที่ได้แบ่งปันความทุกข์จากการถูกกล่าวหาต่างๆในการก่อตั้งกลุ่มที่ถูกเรียกว่า Photo-Succession ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้ความสำคัญในด้านฝีมือที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ
 
 
<gallery>
</gallery>
 
[[หมวดหมู่:การถ่ายภาพ]]