เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
|
|
|
{{รอการตรวจสอบ}}
{{ตรวจ}}
'''ประวัติศาสตร์การทหาร''' (Military History) เป็นการรวบรวมบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของความขัดแย้ง (Conflict) ตั้งแต่ข้อขัดแย้งระหว่างเผ่าชนพื้นเมืองเล็กๆ สองเผ่า ระหว่างสองรัฐ หรือ สงครามโลกที่มีผลกระทบต่อประชากรโลกในระดับที่รุนแรง นักประวัติศาสตร์การทหาร (Military Historian) จะเป็นผู้ทำการบันทึกประวัติศาสตร์การทหารเหล่านี้
กิจกรรมทางทหาร เป็นปรากฎการณ์ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานับพันปี แต่การจัดการบันทึกข้อมูลนั้นเป็นไปอย่างหยาบๆ (อ๊อตเตอร์บีน 2004). สิ่งที่เป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์โลกในยุคโบราณ ก่อนประวัติศาสตร์(prehistoric past) นั้นแทบจะไม่มีข้อมูลอะไรเหลืออยู่แล้ว แต่นักประวัติศาสตร์หลายๆ คนเชื่อว่า รูปแบบของยุทธวิธี (tactics),ยุทธศาสตร์ (strategy), และความมุ่งหมาย (goals) ในการทำสงคราม ต่างๆ นั้นแทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงเลย มาเป็นเวลาร่วมห้าพันปี ในประวัติศาสตร์ ที่มีบันทึกไว้และ ในรอบ 90,000 ปีตั้งแต่มีเผ่าพันธ์มนุษย์ขึ้นมาบนโลก ตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างหนึ่งคือ ยุทธวิธี ของ ดับเบิ้ล เอ็นเวลอปเมนต์ (double envelopment) หรือการล้อมสองด้าน, ซึ่งเป็นยุทธวิธีพื้นฐานที่ใช้กันมากในการทำสงคราม ได้ถูกใช้โดย ฮันนิบาล (Hannibal) ที่ยุทธภูมิ แคนเน (Battle of Cannae) ในปี 216 ก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นเวลากว่า สองพันสองร้อยปีมาแล้ว ต่อมาอีเกือบพันปี ก็ได้รับการใช้อีกโดย คาลิด ไอบิน อัล วาลิด (Khalid ibn al-Walid) ที่ยุทธภูมิ วาฮายา (Battle of Walaja) ในปี ค.ศ.633 และในอีกซีกโลกหนึ่งก็ได้รับการบันทึกได้โดย ซุนหวู่ (Sun Tzu) นักการทหารผู้เขียนตำราพิชัยสงคราม การศึกษาประวัติศาสตร์เหล่านี้ นักการทหารมีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการทำความผิดซ้ำเดิมที่มีคนเคยทำมาแล้ว และนำมาใช้เป็นกรณีศึกษาที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์เบื้องหน้า เพื่อหยิบยุทธวิธีที่เคยมีการใช้แก้ปัญหาในประวัติศาสตร์มาแล้วมาเป็นหนึ่งในแนวทางการพิจารณา ขอบเขาของประวัติศาสตร์การทหาร จะมีแยกย่อยออกไปเป็น ประวัติศาสตร์สงคราม (War) ประวัติศาสตร์ของยุทธภูมิต่างๆ (Battle) การต่อสู้ทั่วไป (combat) ศิลปะทางทหาร (military art) และการสนับสนุนกิจการทางทหารอื่น (specific military service)
มีวิธีการจัดแบ่งหมวดหมู่ของสงครามอยู่หลายแบบ แต่แบบที่นิยมมากที่สุดคือการแบ่งสงครามออกเป็น สงครามตามประเพณี (conventional warfare) ซึ่งตรงข้ามกับ สงครามที่ไม่ตามประเพณี (unconventional warfare) โดยสงครามตามประเพณีจะเกี่ยวข้องกับ การแบ่งฝายชัดเจน มีการจัดการกองทัพเป็นหมวดหมู่ มีการปะทะเข้าหากันแบบตรงไปตรงมา โดยไม่ใช้อาวุธทำลายล้างระดับสูง (weapons of mass destruction) ส่วนสงครามที่ ไม่ทำตามประเพณีได้แก่ การบุกเข้ายึด (raiding), ปฎิบัติการปฏิบัติการใต้ดิน (guerrilla, insurgency) การก่อการร้าย (terrorism) หรือการใช้อาวุธทำลายล้างระดับสูงเช่น นิวเคลียร์ อาวุธเคมี หรือชีวภาพ
== อ้างอิง ==
|
