ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตรัสรู้"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
AkiAkira (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดทันใจด้วยสคริปต์จัดให้
AkiAkira (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{พุทธศาสนา}}
'''ตรัสรู้''' แปลว่า ''รู้แจ้ง รู้อย่างแจ่มแจ้ง รู้ชัดเจน'' ใช้เป็นคำเฉพาะสำหรับ[[พระพุทธเจ้า]] "ตรัสรู้" ของพระพุทธเจ้า คือตรัสรู้ '''ญาณ ๓''' ได้แก่
# '''บุพเพนิวาสานุสสติญาณ''' ความรู้เป็นเหตุให้ระลึกถึง[[ขันธ์]]ที่เคยอาศัยอยู่ในอดีตได้ คือระลึกชาติได้
# '''จุตูปปาตญาณ''' ความรู้ในจุติและอุบัติเกิดของสัตว์ทั้งหลาย เรียก ทิพพจักขุญาณ หรือ [[ทิพยจักษุญาณ]] บ้าง
# '''อาสวักขยญาณ''' ความรู้ในการกำจัดอาสวกิเสส
 
'''ตรัสรู้''' อีกนัยหนึ่งคือรู้แจ้ง[[อริยสัจ]] ๔ ได้แก่ [[ทุกข์]] [[สมุทัย]] [[นิโรธ]] [[มรรค]]
 
== การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ==
เหตุการณ์การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นปรากฏการณ์ต่อเนื่องจากเหตุการณ์การผจญมารของพระองค์ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นปรากฏการณ์ที่บังเกิดขึ้นแก่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวก่อนใครในโลก จากนั้นพระองค์จึงได้นำคุณธรรมที่พระองค์ได้ตรัสรู้ไปสั่งสอนเวไนยสัตว์จนได้บรรลุตามมากมาย จนสามารถก่อตั้งเป็นพระพุทธศาสนาขึ้นมาดลอดจนถึงปัจจุบัน การตรัสรู้เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เห็นถึงพุทธจริยาในการค้นพบสัจธรรม คือความจริงของสรรพสิ่งในโลก ที่ทำให้พระพุทธเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองเป็นพระสัมมาพุทธเจ้า การตรัสรู้ยังบ่งบอกให้เห็นถึงคุณธรรมความดีของพระองค์และความพยายามที่จะรู้สิ่งที่มนุษย์คนใดคนหนึ่งไม่เคยรู้มาก่อน
 
ในตอนแรกก่อนการตรัสรู้ พระพุทธเจ้าประสงค์จะเอาชนะกิเลสที่เกิดขึ้นในใจของพระองค์เท่านั้น แต่พอหลังจากตรัสรู้แล้ว จึงทราบว่าผลจากการตรัสรู้ธรรมของพระองค์นั้นสามารถนำไปสั่งสอนชาวโลกให้รู้ตามได้ นี้จึงนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อชาวโลก จนทำให้เราได้มีคุณธรรมความดีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมาได้จนทุกวันนี้
การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
 
ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะได้ตรัสรู้ พระองค์ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมากที่จะเอาชนะตัวพระองค์ให้ได้ พระองค์ได้ตั้งสัจอธิษฐานอย่างเด็ดเดี่ยว ถึงขนาดอธิษฐานว่าถ้าไม่ได้บรรลุคุณพิเศษดังที่ต้องการจะไม่ลุกจากที่บัลลังก์นี้ ถึงแม้ว่าหนัง เอ็น เนื้อและเลือดจะเหือดแห้งไปก็ตาม การตรัสรู้จึงถือว่าเป็นการบรรลุคุณพิเศษที่ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้
เหตุการณ์การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นปรากฏการณ์ต่อเนื่องจากเหตุการณ์การผจญมารของพระองค์ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นปรากฏการณ์ที่บังเกิดขึ้นแก่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวก่อนใครในโลก จากนั้นพระองค์จึงได้นำคุณธรรมที่พระองค์ได้ตรัสรู้ไปสั่งสอนเวไนยสัตว์จนได้บรรลุตามมากมาย จนสามารถก่อตั้งเป็นพระพุทธศาสนาขึ้นมาดลอดจนถึงปัจจุบัน การตรัสรู้เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เห็นถึงพุทธจริยาในการค้นพบสัจธรรม คือความจริงของสรรพสิ่งในโลก ที่ทำให้พระพุทธเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองเป็นพระสัมมาพุทธเจ้า การตรัสรู้ยังบ่งบอกให้เห็นถึงคุณธรรมความดีของพระองค์และความพยายามที่จะรู้สิ่งที่มนุษย์คนใดคนหนึ่งไม่เคยรู้มาก่อน
 
== วิเคราะห์การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ==
ในตอนแรกก่อนการตรัสรู้ พระพุทธเจ้าประสงค์จะเอาชนะกิเลสที่เกิดขึ้นในใจของพระองค์เท่านั้น แต่พอหลังจากตรัสรู้แล้ว จึงทราบว่าผลจากการตรัสรู้ธรรมของพระองค์นั้นสามารถนำไปสั่งสอนชาวโลกให้รู้ตามได้ นี้จึงนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อชาวโลก จนทำให้เราได้มีคุณธรรมความดีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมาได้จนทุกวันนี้
การตรัสรู้หมายความว่าอย่างไร ? พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร ? ผลที่เกิดจากการตรัสรู้เป็นอย่างไร ?
 
การตรัสรู้ หมายถึง การค้นพบสัจธรรมความจริงที่มีอยู่ในโลก จนเป็นที่พอพระทัยของพระพุทธเจ้า เป็นการค้นพบสิ่งใหม่ที่ทำให้พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทุกอย่าง ซึ่งไม่มีใครพบมาก่อนในครั้งนั้น
ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะได้ตรัสรู้ พระองค์ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมากที่จะเอาชนะตัวพระองค์ให้ได้ พระองค์ได้ตั้งสัจอธิษฐานอย่างเด็ดเดี่ยว ถึงขนาดอธิษฐานว่าถ้าไม่ได้บรรลุคุณพิเศษดังที่ต้องการจะไม่ลุกจากที่บัลลังก์นี้ ถึงแม้ว่าหนัง เอ็น เนื้อและเลือดจะเหือดแห้งไปก็ตาม การตรัสรู้จึงถือว่าเป็นการบรรลุคุณพิเศษที่ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้
 
การตรัสรู้ ไม่ใช่เป็นการรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น เพราะการที่ผู้ใดผู้หนึ่งรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว อาจไม่ได้ปฏิบัติเคร่งครัดตามเรื่องที่รู้นั้น แต่การตรัสรู้ เป็นการรู้แจ้งที่ทำความบริสุทธิ์ให้แก่ตัวเอง สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายในใจ เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความริษยา ความฟุ้งซ่าน เป็นต้น ได้ถูกกำจัดกวาดล้างไปอย่างหมดสิ้น จนทำให้ดวงจิตหมดจดบริสุทธิ์ผ่องใส การตรัสรู้จึงเป็นความสำเร็จความรู้ทั้งวิชาการและการปฏิบัติอย่างแท้จริง
วิเคราะห์การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
 
การตรัสรู้หมายความว่าอย่างไร ? == พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร ? ผลที่เกิดจากการตรัสรู้เป็นอย่างไร ?==
สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้น เป็นสัจธรรมเรียกว่า อริยสัจ 4 ซึ่งถือว่าเป็นหลักธรรมที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา แต่ก่อนที่จะตรัสรู้อริยสัจนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงปฏิบัติหลักการอื่นผ่านขั้นตอนมาก่อนแล้ว ในตอนแรกได้ทบทวนฌานต่าง ๆ ที่ได้ศึกษามาจากอาจารย์ ซึ่งได้แก่ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 ทรงเจริญสมถภาวนาทำจิตให้เป็นสมาธิ คือแน่วแน่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง และยังญาณอันเป็นปัญญารู้แจ้งเห็นจริงให้เกิดขึ้นในยามทั้ง 3 ญาณ 3 นั้น ได้แก่
 
1. # บุพเพนิวาสานุสสติญาณ คือการระลึกถึงชาติในอดีตของตนได้
การตรัสรู้ หมายถึง การค้นพบสัจธรรมความจริงที่มีอยู่ในโลก จนเป็นที่พอพระทัยของพระพุทธเจ้า เป็นการค้นพบสิ่งใหม่ที่ทำให้พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทุกอย่าง ซึ่งไม่มีใครพบมาก่อนในครั้งนั้น
2. # จุตูปปาตญาณ การรู้การจุติและการเกิดของสัตว์ทั้งหลาย
 
3. # อาสวักขยญาณ ความรู้เป็นเหตุสิ้นกิเลสอาสวะที่เป็นเครื่องเศร้าหมองหมมอยู่ในจิตสันดาน
การตรัสรู้ ไม่ใช่เป็นการรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น เพราะการที่ผู้ใดผู้หนึ่งรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว อาจไม่ได้ปฏิบัติเคร่งครัดตามเรื่องที่รู้นั้น แต่การตรัสรู้ เป็นการรู้แจ้งที่ทำความบริสุทธิ์ให้แก่ตัวเอง สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายในใจ เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความริษยา ความฟุ้งซ่าน เป็นต้น ได้ถูกกำจัดกวาดล้างไปอย่างหมดสิ้น จนทำให้ดวงจิตหมดจดบริสุทธิ์ผ่องใส การตรัสรู้จึงเป็นความสำเร็จความรู้ทั้งวิชาการและการปฏิบัติอย่างแท้จริง
 
พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร
 
สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้น เป็นสัจธรรมเรียกว่า อริยสัจ 4 ซึ่งถือว่าเป็นหลักธรรมที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา แต่ก่อนที่จะตรัสรู้อริยสัจนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงปฏิบัติหลักการอื่นผ่านขั้นตอนมาก่อนแล้ว ในตอนแรกได้ทบทวนฌานต่าง ๆ ที่ได้ศึกษามาจากอาจารย์ ซึ่งได้แก่ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 ทรงเจริญสมถภาวนาทำจิตให้เป็นสมาธิ คือแน่วแน่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง และยังญาณอันเป็นปัญญารู้แจ้งเห็นจริงให้เกิดขึ้นในยามทั้ง 3 ญาณ 3 นั้น ได้แก่
 
1. บุพเพนิวาสานุสสติญาณ คือการระลึกถึงชาติในอดีตของตนได้
 
2. จุตูปปาตญาณ การรู้การจุติและการเกิดของสัตว์ทั้งหลาย
 
3. อาสวักขยญาณ ความรู้เป็นเหตุสิ้นกิเลสอาสวะที่เป็นเครื่องเศร้าหมองหมมอยู่ในจิตสันดาน
 
ต่อจากรู้ญาณ 3 แล้ว พระองค์ทรงรู้อริยสัจ 4 เป็นเรื่องสุดท้าย ซึ่งได้แก่
1. # ทุกข์ ความลำบากของสรรพสัตว์
2. # สมุทัย เหตุของการเกิดทุกข์
3. # นิโรธ การดับเหตุแห่งการเกิดทุกข์
4. # มรรค หนทางที่จะเป็นเหตุแห่งการดับทุกข์
 
หลังจากพระองค์ได้รู้อริยสัจ 4 แล้ว ได้มีพระปัญญาแจ่มแจ้ง เป็นผู้รู้ทุกสิ่งอย่างในโลก เป็นเหตุให้ถึงความบริสุทธิ์จากกิเลสาวะเครื่องเศร้าหมองที่ดองอยู่ในจิตใจ จึงได้ตรัสรู้ธรรมในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6 อันเป็นเดือนวิสาขมาส จนได้พระนามว่า “อรหัง” ซึ่งแปลว่า ผู้หมดจดจากกิเลสและตรัสรู้ชอบโดยลำพังพระองค์เอง ได้พระนามว่า “สัมมาสัมพุทโธ” ซึ่งแปลว่า ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ พระองค์จึงได้พระนามใหม่ว่า “พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า” ตั้งแต่หลังการตรัสรู้นั้นมา ทั้งคำว่า “พุทโธ” ซึ่งหมายถึงผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จึงได้เป็นพระนามที่ชาวโลกได้กล่าวสรรเสริญพระคุณแด่พระองค์
1. ทุกข์ ความลำบากของสรรพสัตว์
 
2. สมุทัย เหตุของการเกิดทุกข์
 
3. นิโรธ การดับเหตุแห่งการเกิดทุกข์
 
4. มรรค หนทางที่จะเป็นเหตุแห่งการดับทุกข์
 
หลังจากพระองค์ได้รู้อริยสัจ 4 แล้ว ได้มีพระปัญญาแจ่มแจ้ง เป็นผู้รู้ทุกสิ่งอย่างในโลก เป็นเหตุให้ถึงความบริสุทธิ์จากกิเลสาวะเครื่องเศร้าหมองที่ดองอยู่ในจิตใจ จึงได้ตรัสรู้ธรรมในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6 อันเป็นเดือนวิสาขมาส จนได้พระนามว่า “อรหัง” ซึ่งแปลว่า ผู้หมดจดจากกิเลสและตรัสรู้ชอบโดยลำพังพระองค์เอง ได้พระนามว่า “สัมมาสัมพุทโธ” ซึ่งแปลว่า ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ พระองค์จึงได้พระนามใหม่ว่า “พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า” ตั้งแต่หลังการตรัสรู้นั้นมา ทั้งคำว่า “พุทโธ” ซึ่งหมายถึงผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จึงได้เป็นพระนามที่ชาวโลกได้กล่าวสรรเสริญพระคุณแด่พระองค์
 
ผลที่เกิดจากการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
 
การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นการประกาศสัจธรรมแห่งพระพุทธศาสนา เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการก่อตั้งพระศาสนา ซึ่งเป็นผลนำมาซึ่งความสุขอันยิ่งใหญ่แก่สัตว์โลกทั้งปวง การตรัสรู้นี้ ทำให้เกิดหลักธรรมคำสอนให้พวกเราได้ศึกษาปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ ผลแห่งการตรัสรู้ ยังถือเป็นแบบอย่างแก่มนุษย์ผู้มีความเพียรมุ่งพยายามอย่างแน่วแน่ที่จะกระทำสิ่งที่ทำได้ยากจนประสบความสำและได้ก่อประโยชน์แก่ชาวโลกอย่างมหาศาลและยังได้ทำให้พระสมณโคดม ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกของชาวพุทธ เป็นผู้ก่อตั้งกำเนิดพระพุทธศาสนาขึ้นมาจนเป็นที่ยอมรับเคารพนับถือ ฯ
 
== ผลที่เกิดจากการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ==
การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นการประกาศสัจธรรมแห่งพระพุทธศาสนา เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการก่อตั้งพระศาสนา ซึ่งเป็นผลนำมาซึ่งความสุขอันยิ่งใหญ่แก่สัตว์โลกทั้งปวง การตรัสรู้นี้ ทำให้เกิดหลักธรรมคำสอนให้พวกเราได้ศึกษาปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ ผลแห่งการตรัสรู้ ยังถือเป็นแบบอย่างแก่มนุษย์ผู้มีความเพียรมุ่งพยายามอย่างแน่วแน่ที่จะกระทำสิ่งที่ทำได้ยากจนประสบความสำและได้ก่อประโยชน์แก่ชาวโลกอย่างมหาศาลและยังได้ทำให้พระสมณโคดม ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกของชาวพุทธ เป็นผู้ก่อตั้งกำเนิดพระพุทธศาสนาขึ้นมาจนเป็นที่ยอมรับเคารพนับถือ ฯ
 
== อ้างอิง ==
* [[พระธรรมกิตติวงศ์]] (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ [[ราชบัณฑิต]] ''พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด,'' [[วัดราชโอรสาราม]] กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
 
 
[[หมวดหมู่:พระพุทธเจ้า]]