ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กิโยตีน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ใส่อายุให้เเละ ออยเกิน ไวด์มันน์เขาฆ่า6ศพครับ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 11:
นายแพทย์[[อ็องตวน หลุยส์]] สมาชิกสมาคมศัลยศาสตร์ (Académie Chirurgical) เป็นบุคคลที่คิดค้นการทำงานของเครื่องกิโยตีน โดยเครื่องกิโยตีนตอนแรกได้ใช้ชื่อว่า ลูยซง (Louison) หรือลูยแซ็ต (Louisette) แต่ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "กิโยตีน" ตามชื่อของ ดร.[[โฌแซ็ฟ-อีญัส กียอแต็ง]] แพทย์ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้เสนอแนะการประหารชีวิตโดยการตัดคอ ภายหลัง ดร.กิโยตีน ได้เปลี่ยนนามสกุล เนื่องจากไม่ต้องการใช้ชื่อสกุลเป็นคำเดียวกับวิธีการประหารชีวิต ทั้งนี้ก่อน[[การปฏิวัติฝรั่งเศส]] ผู้มีชื่อเสียงมักถูกตัดคอโดยดาบหรือขวาน ในขณะที่ชาวบ้านทั่วไปจะถูกแขวนคอ หรือวิธีการประหลาดต่าง ๆ ในช่วงของ[[ยุคกลาง]] (เช่น ถูกเผาหรือมัดกับล้อไม้) ในการตัดคอ มีหลายครั้งที่ตัดคอไม่สำเร็จในดาบแรก ทำให้เกิดความทรมานต่อผู้ถูกประหารชีวิต การใช้กิโยตีนจะทำให้ผู้ถูกประหารชีวิตเจ็บปวดน้อยที่สุด ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส มีผู้ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตีนอย่างน้อย 20,000 คน โดยการประหารด้วยกิโยตีนถือเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปเช่นกัน
กิโยตีนถือเป็นเครื่องประหารชนิดเดียวที่ถูกกฎหมาย จนกระทั่งยกเลิกกฎหมายประหารชีวิตในปี ค.ศ. 1881 อย่างไรก็ตาม ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ทวีปยุโรปได้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของ[[นาซีเยอรมนี]] นาซีได้นำเครื่องกิโยตีนมาใช้ในการประหารชีวิตผู้ที่ต่อต้านระบอบนาซีในเยอรมนี บุคคลสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตีนในฝรั่งเศสในที่สาธารณะ คือ ออยเกิน ไวด์มันน์ (Eugene Weidmann) อายุ 31 ปี ฆาตกรสังหาร 6 ศพชาวเยอรมัน โดยถูกตัดศีรษะเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 1939 เวลา 16.32 น. ภายนอก[[คุกแซ็ง-ปีแยร์]] (Saint-Pierre) ที่เมือง[[แวร์ซาย]] ส่วนบุคคลสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตีนและเป็นผู้ถูกประหารชีวิตคนสุดท้ายฝรั่งเศสใน
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
|