ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทุนนิยม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Narutzy (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1:
{{Economic systems sidebar|expanded=by ideology}}
[[ภาพ:Pyramid of Capitalist System.jpg|200px|thumb|"[[พีระมิดระบบทุนนิยม]]" ถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ในปี ค.ศ. 1911 แสดงชนชั้นปกครองอยู่สูงสุด รองลงมาคือพระ ทหาร ผู้ประกอบการ[[ชนชั้นกระฎุมพี|นายทุน]] และเกษตรกรอยู่ต่ำที่สุด]] '''ทุนนิยม''' ({{lang-en|capitalism}}) เป็น[[ระบบเศรษฐกิจ]]ซึ่งเจ้าของเอกชนเป็นผู้ควบคุมการค้า อุตสาหกรรมและ[[วิถีการผลิต]] โดยมีเป้าหมายเพื่อทำ[[กำไร]]ใน[[เศรษฐกิจแบบตลาด]]<ref>[http://oxforddictionaries.com/definition/english/capitalism "Capitalism"] ''Oxford Dictionaries''. "capitalism. an economic and political system in which a country’s trade and industry are controlled by private owners for profit, rather than by the state." Retrieved 4 January 2013.</ref><ref>Chris Jenks. ''Core Sociological Dichotomies''. "Capitalism, as a mode of production, is an economic system of manufacture and exchange which is geared toward the production and sale of commodities within a market for profit, where the manufacture of commodities consists of the use of the formally free labor of workers in exchange for a wage to create commodities in which the manufacturer extracts surplus value from the labor of the workers in terms of the difference between the wages paid to the worker and the value of the commodity produced by him/her to generate that profit." London, England, UK; Thousand Oaks, California, USA; New Delhi, India: SAGE. p. 383.</ref> คุณลักษณะสำคัญของทุนนิยม ได้แก่ การสะสมทุน ตลาดแข่งขันและค่าจ้างแรงงาน<ref>Heilbroner, Robert L. [http://www.dictionaryofeconomics.com/article?id=pde2008_C000053 "capitalism."] Durlauf, Steven N.and Lawrence E. Blume, eds., ''The New Palgrave Dictionary of Economics''. 2nd ed. (Palgrave Macmillan, 2008) {{DOI|10.1057/9780230226203.0198}}</ref> ในเศรษฐกิจแบบทุนนิยม โดยทั่วไปภาคีในปฏิสัมพันธ์กำหนดราคาที่มีการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ สินค้าและบริการ<ref>http://www.merriam-webster.com/dictionary/capitalism "an economic system characterized by private or corporate ownership of capital goods, by investments that are determined by private decision, and by prices, production, and the distribution of goods that are determined mainly by competition in a free market"</ref>
 
ระดับการแข่งขัน บทบาทการแทรกแซงและจัดระเบียบ ตลอดจนขอบเขตของหน่วยงานธุรกิจที่รัฐเป็นเจ้าของแตกต่างกันไปตามทุนนิยมแต่ละแบบ<ref name="Modern Economics 1986, p. 54">''Macmillan Dictionary of Modern Economics'', 3rd Ed., 1986, p. 54.</ref> นักเศรษฐศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์การเมือง และนักประวัติศาสตร์ได้ยึดมุมมองการวิเคราะห์ทุนนิยมแตกต่างกันและยอมรับทุนนิยมหลายแบบในทางปฏิบัติ แบบของทุนนิยมรวมถึงทุนนิยม[[ปล่อยให้ทำไป]] ทุนนิยมแบบสวัสดิการและทุนนิยมโดยรัฐ โดยแต่ละแบบเน้นระดับการพึ่งพาตลาด หน่วยงานธุรกิจที่รัฐเป็นเจ้าของและการรวมนโยบายทางสังคมแตกต่างกัน การที่แต่ละตลาดมีความเป็นอิสระมากเพียงไร ตลอดจนกฎนิยามกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคลมีขอบเขตเป็นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของการเมืองและนโยบาย หลายรัฐใช้ระบบที่เรียกว่า [[เศรษฐกิจแบบผสม]]ทุนนิยม ซึ่งหมายความถึงการผสมระหว่างส่วนที่มีการวางแผนจากส่วนกลางและขับเคลื่อนโดยตลาด<ref name="Stilwell">Stilwell, Frank. "Political Economy: the Contest of Economic Ideas." First Edition. Oxford University Press. Melbourne, Australia. 2002.</ref>
 
ทุนนิยมมีอยู่ภายใต้[[ระบอบการปกครอง]]หลายระบอบ ในหลายเวลา สถานที่ และวัฒนธรรม หลัง[[ระบบฟิวดัล]]เสื่อมลง ทุนนิยมได้กลายมาเป็นระบบเศรษฐกิจหลักในโลกตะวันตก ต่อมา ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ทุนนิยมได้เอาชนะการท้าทายจากเศรษฐกิจที่มีการวางแผนจากส่วนกลางและปัจจุบันเป็นระบบเด่นทั่วโลก<ref name="britannica">{{cite book |title=Capitalism|publisher=Encyclopædia Britannica|year=2006}}</ref><ref>James Fulcher, ''Capitalism, A Very Short Introduction'', "In one respect there can, however, be little doubt that capitalism has gone global and that is in the elimination of alternative systems." p. 99, Oxford University Press, 2004, ISBN 978-0-19-280218-7.</ref> โดยมีเศรษฐกิจแบบผสมเป็นรูปแบบหลักในประเทศอุตสาหกรรมตะวันตก
 
มุมมองทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เน้นส่วนหนึ่งที่เฉพาะของทุนนิยมในนิยามที่ให้ความสำคัญ นักเศรษฐศาสตร์ปล่อยให้ทำไปและเสรีนิยมเน้นระดับซึ่งรัฐบาลไม่ควบคุมตลาดและความสำคัญของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน<ref>{{cite book |author=Tucker, Irvin B.|title=Macroeconomics for Today|page=553|year=1997}}</ref><ref>{{cite book |author=Case, Karl E.|title=Principles of Macroeconomics|publisher=Prentice Hall|year=2004}}</ref> นักเศรษฐศาสตร์แบบคลาสสิกใหม่และนักมหเศรษฐศาสตร์แบบเคนส์เน้นความจำเป็นที่ต้องมีการกำกับของรัฐบาลเพื่อป้องกัน[[การผูกขาด]]และเพื่อลดผลกระทบของวัฏจักรรุ่งเรืองและตกต่ำ (boom and bust)<ref>{{cite book|author=Fulcher, James|title=Capitalism A Very Short Introduction|page=41|publisher=Oxford University Press|year=2004}}</ref> นักเศรษฐศาสตร์แบบมากซ์เน้นบทบาทของการสะสมทุน การแสวงหาประโยชน์และค่าจ้างแรงงาน นักเศรษฐศาสตร์การเมืองส่วนใหญ่เน้นกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคลเช่นกัน นอกเหนือไปจากความสัมพันธ์ของ[[อำนาจทางเศรษฐกิจ|อำนาจ]] ค่าจ้างแรงงาน [[ชนชั้นทางเศรษฐกิจ|ชนชั้น]]และเอกลักษณ์ของทุนนิยมในฐานะการสร้างประวัติศาสตร์<ref name="Stilwell"/>
 
== ประวัติ ==
ทฤษฎีเกี่ยวกับทุนนิยมถูกพัฒนาขึ้นในยุค[[คริสต์ศตวรรษที่ 18]], [[คริสต์ศตวรรษที่ 19|19]] และ [[คริสต์ศตวรรษที่ 20|20]] ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น [[การปฏิวัติอุตสาหกรรม]]และ[[ลัทธิจักรวรรดินิยมใหม่|ลัทธิจักรวรรดินิยมของยุโรป]] (เช่น [[แอดัม สมิท]], [[เดวิด ริคาร์โด|ริคาร์โด]], [[คาร์ล มาร์กซ|มาร์กซ]]), [[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] หรือ The Great Depression (เช่น [[จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์|เคนส์]]), และ[[สงครามเย็น]] (เช่น [[ฟรีดริช ฮาเย็ค|ฮาเย็ค]], [[มิลตัน ฟรีดแมน|ฟรีดแมน]]) นักทฤษฎีเหล่านี้กล่าวว่าทุนนิยมคือระบบที่ให้คุณค่ากับการที่[[ราคา]]ถูกตัดสินในตลาดเสรี นั่นคือโดยการค้าที่เป็นผลมาจากการตกลงด้วยความสมัครใจของผู้ซื้อและผู้ขาย ความคิดเชิงตลาด จิตวิญญาณของ[[ผู้ประกอบการ]] และความเข้าใจเกี่ยวกับ[[ทรัพย์สิน]]และ[[สัญญา]]ที่ชัดเจนและบังคับได้ตามกฎหมาย ทฤษฎีเหล่านี้โดยทั่วไปจะพยายามอธิบายว่า ทำไมทุนนิยมระหว่างช่วง[[คริสต์ศตวรรษที่ 16]] ถึง [[คริสต์ศตวรรษที่ 19|19]] ที่สำคัญเช่น สิทธิของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่จะสามารถทำการได้แบบ "นิติบุคคล" (หรือ[[บรรษัท]]) ในการซื้อและขาย[[ทุน|สินทรัพย์]] และ[[ที่ดิน]], [[แรงงาน]], [[เงินตรา]] ใน[[ตลาดเสรี]] (ดู [[การค้า]]), และสามารถวางใจได้ว่ารัฐจะสามารถบังคับให้เกิดการเคารพสิทธิ[[ทรัพย์สินส่วนบุคคล]] แทนที่จะต้องพึ่งการคุ้มครองแบบศักดินา