ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ขุนช้างขุนแผน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
อัตตะสันติ (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
อัตตะสันติ (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 26:
==เนื้อเรื่อง==
 
ขุนช้าง พลายแก้ว (ซึ่งต่อมาได้รับบรรดาศักดิ์ว่าขุนแผน) และนางพิมพิลาไลย (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวันทอง) เป็นเพื่อนสมัยเด็กด้วยกันอาศัยอยู่ในจังหวัดเมืองสุพรรณบุรี พลายแก้วรูปร่างหล่อและฉลาด แต่ยากจน เพราะพระพันวษาประหารชีวิตบิดาไปและได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมด
 
ครั้นเติบโตขึ้นเขาได้บวชเป็นสามเณรเพื่อรับการศึกษาตามวัย เรียนวิชาคาถาอาคม และด้านทหาร ขุนช้างรูปร่างขี้เหร่และโง่เขลา แต่ร่ำรวยและมีเส้นสายที่เชื่อมโยงกันอย่างดีในราชสำนัก อยุธยาเพราะบิดาฝากฝักไว้ตั้งแต่เด็ก
บรรทัด 33:
 
ส่วนขุนช้างพยายามขอนางพิมกับแม่ของนาง
โดยใช้ความมั่งคั่งและสถานะของเขา แต่สุดท้ายพลายแก้วและนางพิมก็แต่งงานกัน ขุนช้างออกอุบายไปทูลให้พระพันวษาส่งพลายแก้วไปรับศึกที่เชียงทองแล้วก็อ้างว่าพลายแก้วเสียชีวิตแล้ว เมื่อพลายแก้วได้รับชัยชนะ ขุนช้างจึงวางแผนที่จะขับไล่เขาออกจากอยุธยาเพราะด้วยข้อหาที่ประมาทเลินเล่อในงานราชการ
 
พิมพิลาไลย (ปัจจุบันคือวันทอง) ได้ต่อต้านขุนช้างตลอดเวลา แต่เมื่อพลายแก้ว (ปัจจุบันคือขุนแผน) กลับจากการทำสงครามตีเชียงทองก็ได้ภรรยาอีกคน ชื่อ " ลาวทอง " ก็กลับมีเรื่องอิจฉาริษยากับวันทองจนกระทั่งวันทองถูกแม่ฉุดให้ไปอยู่กับขุนช้าง จนเธอตกเป็นเมียของขุนช้างด้วยจำใจ
 
เมื่อภรรยาคนที่สองของขุนแผน คือลาวทอง ถูกพระพันวษาทรงพาเข้าไปในวังให้มีตำแหน่งเป็น "ปักสะดึงกรึงไหม" ขุนแผนรู้สึกเสียใจที่จะละทิ้งวันทอง เขาบุกเข้าไปในบ้านของขุนช้างอีกในตอนดึกแล้วได้ลักวันทองหนีไป ในตอนแรกเธอไม่เต็มใจที่จะทิ้งชีวิตอันสุขสบายของเธอ แต่ความหลงใหลในตัวตนขุนแผนประกอบกับความรัก และพวกเขาก็หนีไปด้วยกันและได้พักแรมในป่าอันงดงามที่เงียบสงัด
 
ฝ่ายขุนช้างโกรธจัดที่ขุนแผนพาเมียของตนหลบหนี เขาได้พยายามใส่ร้ายขุนแผน โดยทูลกษัตริย์กับพระพันวษาว่าขุนแผนกำลังก่อกบฏ พระราชาพันวษาส่งกองทัพไปตามจับ ขุนแผนฆ่าขุนเพชรขุนรามตาย มีการออกหมายจับไปทั่วเมือง จนเมื่อวันทองตั้งครรภ์ ขุนแผนจึงตัดสินใจออกจากป่าและบอกยอมแพ้ และเตรียมพร้อมจะสู้คดีความ สุดท้ายข้อหากบฏนั้นก็ไม่เป็นความจริง ขุนแผนพ้นผิดและขุนช้างถูกปรับอย่างหนัก
 
ขุนแผนยังทูลขอต่อพระราชาพันวษาโดยขอให้ปล่อยลาวทองให้เป็นอิสระ พระองค์ทรงกริ้ว เขาถูกจำคุกอีกและถูกขังอยู่ในคุกประมาณสิบสองปี ขุนช้างได้ลักพาตัววันทองไปอยู่ด้วยกันที่สุพรรณบุรีอีกครั้ง วันทองให้กำเนิดลูกชายที่ชื่อ "พลายงาม" ลูกชายของเธอ ที่เกิดกับขุนแผน เมื่อพลายงามอายุแปดขวบ ขุนช้างพยายามจะฆ่า แต่พลายงามหนีมาได้ และมาอาศัยอยู่กับย่าทองประศรีที่กาญจนบุรี จนกระทั่งได้เรียนวิชาแบบที่ขุนแผนพ่อของตน
 
เมื่อพระพันวษาแห่งกรุงศรีอยุธยาและเชียงใหม่ทะเลาะกันเรื่องลูกสาวของพระเจ้าล้านช้างแห่งเวียงจันทน์ พลายงามอาสานำกองทัพไปตีเชียงใหม่และประสบความสำเร็จในการขอให้ปล่อยขุนแผนพ่อของตนเป็นอิสระ ทั้งสองพ่อลูกจับพระเจ้าเชียงใหม่และกลับมาพร้อมกับเจ้าหญิงสร้อยทองแห่งเวียงจันทน์และเชลยมากมาย ตอนนี้ขุนแผนได้รับสถานะเป็นเจ้าเมืองกาญจนบุรี มีบรรดาศักดิ์เป็น "พระสุรินทรฦาชัย" และพลายงามได้รับแต่งตั้งให้เป็น"จมื่นไวยวรนาถ"
เมื่อกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาและเชียงใหม่ทะเลาะกันเรื่องลูกสาวของกษัตริย์แห่งเวียงจันทน์
พลายงามอาสานำกองทัพไปตีเชียงใหม่และประสบความสำเร็จในการขอให้ปล่อยขุนแผนเป็นอิสระ ทั้งสองพ่อลูกจับพระเจ้าเชียงใหม่และกลับมาพร้อมกับเจ้าหญิงสร้อยทองแห่งเวียงจันทน์และเชลยมากมาย ตอนนี้ขุนแผนได้รับสถานะเป็นเจ้าเมืองกาญจนบุรี มีบรรดาศักดิ์เป็น "พระสุรินทรฦาชัย" และพลายงามได้รับแต่งตั้งให้เป็น"จมื่นไวยวรนาถ"
 
ขุนช้างเมาแล้วอาละวาดในงานแต่งงานของพระไวยกับศรีมาลา และคดีความแบบเก่าก็กลับมาอีก พระไวยลักพาตัวแม่วันทองมาจากบ้านขุนช้าง ทำให้ขุนช้างทูลใส่ร้ายพระไวยต่อกษัตริย์ยต่อพระพันวษา จนถึงขั้นพิจารณาคดี พระพันวษาทรงเรียกร้องให้วันทองเลือกระหว่างขุนช้างกับขุนแผน เธอทำไม่ได้และไม่สามารถจะเลือกใครได้ พระพันวษาสั่งให้ประหารชีวิตเธอ พระไวยวิงวอนต่อพระพันวษาให้ทรงอภัยโทษแต่ก็ได้สำเร็จ แต่พระบัญชามาช้าไปเล็กน้อยและไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงการประหารชีวิตวันทองได้
 
== ต้นกำเนิดและคำว่า เสภา ==