ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ขุนช้างขุนแผน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
อัตตะสันติ (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
อัตตะสันติ (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 23:
วรรณกรรมไทยเรื่องขุนช้างขุนแผน ได้รับการแปลเป็น[[ภาษาอังกฤษ]]ครั้งแรกในปี 2553 โดย[[ผาสุก พงษ์ไพจิตร|ศ.ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร]] นักเศรษฐศาสตร์ชาวไทย และนายคริส เบเกอร์ <ref>[http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1293180201&grpid=03&catid=08 "ขุนช้างขุนแผน" ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว]{{ลิงก์เสีย|date=กันยายน 2021 |bot=InternetArchiveBot |fix-attempted=yes }}</ref>
 
<!--==เนื้อเรื่อง==
{{โครง-ส่วน}} ควรเขียนส่วนเนื้อเรื่องที่วิกิซอร์ซ http://th.wikisource.org/-->
 
ขุนช้าง พลายแก้ว (ซึ่งต่อมาได้รับรับบรรดาศักดิ์ว่าขุนแผน) และนางพิมพ์พิลาไลย (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวันทอง) เป็นเพื่อนสมัยเด็กด้วยกันอาศัยอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี พลายแก้วรูปร่างหล่อและฉลาด แต่ยากจน เพราะกษัตริย์ประหารชีวิตบิดาไปและได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมด
 
ครั้นเติบโตขึ้นเขาได้บวชเป็นสามเณรเพื่อรับการศึกษาตามวัย เรียนวิชาคาถาอาคม และด้านทหาร ขุนช้างรูปร่างขี้เหร่และโง่เขลา แต่ร่ำรวยและมีเส้นสายที่เชื่อมโยงกันอย่างดีในราชสำนัก อยุธยาเพราะบิดาฝากฝักไว้ตั้งแต่เด็ก
 
ส่วนพิมพิลาไลยนั้น เป็นคนสวยของเมืองสุพรรณบุรี และได้พบพลายแก้วในวันสงกรานต์ พวกเขามีความสัมพันธ์กัน โดยเขาหนีสึกและออกจากวัดไปหาที่ไร่ฝ้าย
 
ส่วนขุนช้างพยายามขอนางพิมกับแม่ของนาง
โดยใช้ความมั่งคั่งและสถานะของเขา แต่สุดท้ายพลายแก้วและพิมก็แต่งงานกัน ขุนช้างออกอุบายไปทูลให้กษัตริย์ส่งพลายแก้วไปรับศึกที่เชียงทองแล้วก็อ้างว่าพลายแก้วเสียชีวิตแล้ว เมื่อพลายแก้วได้รับชัยชนะ ขุนช้างจึงวางแผนที่จะขับไล่เขาออกจากอยุธยาเพราะประมาทเลินเล่อในงานราชการ
 
พิมพิลาไลย (ปัจจุบันคือวันทอง) ได้ต่อต้านขุนช้างตลอดเวลา แต่เมื่อพลายแก้ว (ปัจจุบันคือขุนแผน) กลับจากการทำสงครามตีเชียงทองก็ได้ภรรยาอีกคน ชื่อ " ลาวทอง " ก็กลับมีเรื่องอิจฉาริษยากับวันทองจนกระทั่งวันทองถูกแม่ฉุดให้ไปอยู่กับขุนช้าง จนเธอตกเป็นเมียของขุนช้างด้วยจำใจ
 
เมื่อภรรยาคนที่สองของขุนแผน คือลาวทอง ถูกพระราชาทรงพาเข้าไปในวังให้มีตำแหน่งเป็น "ปักสะดึงกรึงไหม" ขุนแผนรู้สึกเสียใจที่ละทิ้งวันทอง เขาบุกเข้าไปในบ้านของขุนช้างอีกในตอนดึกแล้วลักวันทองหนีไป ในตอนแรกเธอไม่เต็มใจที่จะทิ้งชีวิตอันสุขสบายของเธอ แต่ความหลงใหลในตัวตนขุนแผนประกอบกับความรัก และพวกเขาก็หนีไปด้วยกันและได้พักแรมในป่าอันงดงามที่เงียบสงัด
 
ฝ่ายขุนช้างโกรธจัดที่ขุนแผนพาเมียของตนหลบหนี เขาได้พยายามใส่ร้ายขุนแผน โดยทูลกษัตริย์ว่าขุนแผนกำลังก่อกบฏ พระราชาส่งกองทัพไปตามจับ ขุนแผนฆ่าขุนเพชรขุนรามตาย มีการออกหมายจับไปทั่วเมือง จนเมื่อวันทองตั้งครรภ์ ขุนแผนจึงตัดสินใจออกจากป่าและบอกยอมแพ้ และเตรียมพร้อมจะสู้คดีความ ข้อหากบฏนั้นไม่เป็นความจริง ขุนแผนพ้นผิดและขุนช้างถูกปรับอย่างหนัก
 
ขุนแผนยังทูลขอพระราชาโดยขอให้ปล่อยลาวทอง เขาถูกจำคุกอีกและถูกขังอยู่ในคุกประมาณสิบสองปี ขุนช้างได้ลักพาตัววันทองไปอยู่ด้วยกันที่สุพรรณบุรีอีกครั้ง วันทองให้กำเนิดลูกชายที่ชื่อ "พลายงาม" ลูกชายของเธอ ที่เกิดกับขุนแผนเมื่อพลายงามอายุแปดขวบ ขุนช้างพยายามจะฆ่า พลายงามหนีมาได้อาศัยอยู่กับย่าทองประศรีที่กาญจนบุรี จนกระทั่งได้เรียนวิชาแบบที่ขุนแผนพ่อของตน
 
== ต้นกำเนิดและคำว่า เสภา ==