ผู้ใช้นิรนาม
→S Day
บรรทัด 51:
แต่แล้วความสุขของ วันด้าก็อยู่ได้ไม่นานนัก ต่อมา วันด้าได้รู้ว่า แม็กนีโต้ เป็นพ่อที่แท้จริงของตน (จากการที่ แม็กนีโต้ ไปสืบหาเรื่องราวของภรรยาของตน จนรู้เรื่อง และตามมาเจอ วันด้าซึ่ง วันด้าโกรธมาก เนื่องจากอดีตที่อยู่ Brotherhood of Evil Mutants กลายเป็นสิ่งที่หลอกหลอนจิตใจ
เรื่องราวเริ่มแย่ลงเมื่อ ตอนที่ วันด้าย้ายมาอยู่กับ West Coast Avengers พร้อมกับสามี วิชั่น ซึ่งต่อมา วิชั่น โดนจับล้างสมองทำให้ วิชั่น กลายเป็นหุ่นที่ไร้ความรู้สึกทำให้ วันด้าเสียใจอย่างมาก และพยายามหาทางทำให้ วิชั่น กลายเป็นเหมือนเดิม และในที่สุดความโศกเศร้าที่สุดก็มาเยือน วันด้าเมื่อลูกทั้งสองของตนได้หายไปและ วันด้าได้รับรู้ความจริงจาก Agatha Harkness ว่าแท้จริงแล้ว ลูกๆของเธอคือเศษเสี้ยววิญญาณของ Mephisto และถูก พากลับไปสู่ตัว Mephisto เอง เหล่า Avengers พยายามเข้าช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผลตัว วันด้าเริ่มตกอยู่ในภาวะที่ควบคุมตนเองไม่ได้และคลั่ง Agatha จึงตัดสินใจลบความทรงจำทั้งหมดของ วันด้าที่เกี่ยวกับลูกๆ เพื่อลบความเจ็บปวดครั้งนี้ต่อมา วันด้าได้ร่วมกับ Avengers ต่อสู้กับ Onslaught, Morgan Le Fay ,Squadron Supreme, ฯลฯ รวมถึงการได้มีโอกาสนำทีม Avengers
วันด้าได้เรียนรู้ว่าเกี่ยวกับการเป็นจุดรวมในการเชื่อมต่อพลังเวทย์ ของโลกจาก Agatha Harkness และเรียนรู้ในการใช้พลังเวทย์เพิ่มเติมโดยเฉพาะ Chaos Magic ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความเป็นจริง และเป็นแหล่งพลังที่มีผลต่อพลัง Mutant ของตนซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ การควบคุมตนเอง รวมถึงควบคุมพลัง Mutant ของตนเรื่องเริ่มจากเมื่อ วันด้าสร้างและให้กำเนิดทารกฝาแฝดขึ้นมา 2 คน คือ โธมัส และ วิลเลี่ยม จากพลังเวทย์ ครอบครัวของเธอคงสมบรูณ์มีความสุข ถ้าไม่เพราะวันหนึ่งลูกๆของเธอหายไป เนื่องจากวิญญาณฝาแฝดทั้งสองคนถูกจับตัวไปโดย Master Pandemonium เพื่อบรรณาการแก่Mephisto Wandaเสียใจมาก และควบคุมสติไม่อยู่ เธอกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของavengers และใช้พลังของตัวเองถล่มทีมAvengers สมาชิก Avengers 3คนเสียชีวิต (วิชั่น, Hawkeye ,Ant Man) สมาชิกคนอื่นๆเสียขวัญและกำลังใจ จนทีม Avergers ในตอนนั้นต้องปิดตัวลง▼
เมื่อเหล่า Avengers เชื่อแบบนั้น Captain America ได้ปรึกษากับ Wolverine เรื่องของ Hope Summers และตัดสินใจยกทีมบุกไปที่ Utopia ถิ่นของ X-Men เพื่อไปล่าตัว Hope Summers ทำให้ทีม Avengers นำโดย Captain America และ Wolverine สู้กับทีม X-Men นำโดย Cyclops การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดแต่ในที่สุด Wolverine ไม่สามารถกำจัด Hope ได้ และ Hope หนีรอดไปได้▼
▲เรื่องเริ่มจากเมื่อ วันด้าสร้างและให้กำเนิดทารกฝาแฝดขึ้นมา 2 คน คือ โธมัส และ วิลเลี่ยม จากพลังเวทย์ ครอบครัวของเธอคงสมบรูณ์มีความสุข ถ้าไม่เพราะวันหนึ่งลูกๆของเธอหายไป เนื่องจากวิญญาณฝาแฝดทั้งสองคนถูกจับตัวไปโดย Master Pandemonium เพื่อบรรณาการแก่Mephisto Wandaเสียใจมาก และควบคุมสติไม่อยู่ เธอกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของavengers และใช้พลังของตัวเองถล่มทีมAvengers สมาชิก Avengers 3คนเสียชีวิต (วิชั่น, Hawkeye ,Ant Man) สมาชิกคนอื่นๆเสียขวัญและกำลังใจ จนทีม Avergers ในตอนนั้นต้องปิดตัวลง
Scarlet Witch สลบไม่ได้สติจากเหตุการณ์นั้น แม็กนีโต้ พาร่างเธอมาหา Xavierหวังจะให้ช่วยรักษา แต่เหล่า X-Men กับ Avengers ได้ประชุมกันและเห็นพ้องว่าควรฆ่า Scarlet Witch เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นภัยเกินกว่าจะเก็บไว้ แต่ Quicksilver พี่น้องร่วมสายเลือดได้มาช่วยเธอไว้ วันด้าได้ใช้พลังเปลี่ยนแปลงความเป็นจริง ให้โลกนี้เป็นไปอย่างที่เธอคิด ในโลก ‘House Of M’ (ในโลกนี้ครอบครัวเธอเป็นราชวงศ์ โดยมี แม็กนีโต้ เป็นกษัตริย์)
Line 64 ⟶ 61:
แม็กนีโต้ เมื่อรู้ความจริง เขาโกรธมาก เขาไม่ได้ปรารถนาที่จะครองโลกด้วยวิธีนี้ ด้วยความโกรธเขาได้พลั้งฆ่าQuicksilverไป เมื่อทุกสิ่งที่ทำไปด้วยความปรารถนาดีถูกลบล้าง เมื่อความโกรธของ วันด้ามาถึงจุดสิ้นสุด Wandaได้เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมา ประโยคที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปทั้งหน้า ด้วยคำว่า “'''No more mutants” ('จะไม่มีมนุษย์กลายพันธุ์อีกต่อไป')''' ทันทีที่พูดจบ Mutants หรือมนุษย์กลายพันธุ์มากกว่า 90% ของโลกสูญเสียพลังทันที หลายคนรับไม่ได้ฆ่าตัวตาย หลายคนยอมรับการทดลองเพื่อหวังจะได้พลังขึ้นมา แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตจากการทดลอง หลายคนจมอยู่ในความเศร้าโศกและกลายเป็นบ้า เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่และกลายเป็นบาดแผลในใจของX-men เหตุการณ์ในครั้งนั้นถูกเรียกว่าวัน ‘M day’
'''Hex Bolts''' : พลังในการร่ายเวทมนตร์หรือคำสาป เวลาที่วันด้าใช้พลังนี้ จะมีแสงสีแดง เป็นรูปหกเหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมเกิดขึ้นที่บริเวณมือของเธอ ซึ่งคำสาปเหล่านี้นับว่า มีความแข็งแรงในตัวของคำสาปมาก เพราะ มันจะแสดงให้เห็นถึงโชคร้ายที่จะตามมา หรือเกิดขึ้นต่อฝ่ายตรงข้ามหลังจากที่โดนเธอเล่นงานโดยคำสาป เธอสามารถใช้คำสาปของเธอในการควบคุมมวลสาร ไฟ หรือ เอาอากาศที่มีอยู่น้อยนิดตรงนั้น มาสร้างเป็นแรงโมเมนตัมแรงใหม่ เพื่อที่จะให้เธอควบคุมแรงโน้มถ่วงของโลกได้ หรือสามารถยกของหนัก ๆ สิ่งนั้นได้เพียงแค่ใช้เวทมนตร์ของเธอ และเธอยังสามารถใช้พลังเหล่านี้ในการสร้างแรงระเบิดและปล่อยเป็นแสงใส่ในการโจมตีศัตรูได้ พลังของเธอว่ากันว่า มีมากกว่า Dormammu ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจจ์ของ หมอแปลก และเธอยังสามารถใช้พลังในการควบคุม Dormammu ได้ ว่ากันว่า พลังของวันด้าเป็นหนึ่งเดียว ที่ Ultron กลัวและยังหาวิธีจัดการไม่ได้ หรือ แม้แต่เกราะที่หุ้มด้วยอดาเมนทียมก็ไม่สามารถที่จะทำลายพลังของวันด้าได้ เธอเคยแสดงให้เห็นในการทำลายพลังของ Domino ที่จะใช้โจมตีทำให้เกิดความโชคร้ายแก่เธอ เธอสามารถควบคุมพลังของ โดมิโน่ได้▼
'''Telekinesis''' : สามารถยกสิ่งของหรือวัตถุและเคลื่อนย้ายมัน ได้ตามใจคิด โดยใช้พลังเวทย์▼
เนื้อเรื่องหลักของเรื่องจะเกี่ยวข้องกับ Hope Summers และ Scarlet witch โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อว่า Hope Summers เป็น Pheonix Next Host ฝั่ง X-Men เชื่อว่า Hope จะมาช่วยกอบกู้เหล่า X-Men และ Mutant ที่เหลืออยู่ แต่ฝั่ง Avengers เชื่อว่า Hope Summers และพลังของ Phoenix น่าจะเป็นภัยคุกคามมากกว่า
▲เมื่อเหล่า Avengers เชื่อแบบนั้น Captain America ได้ปรึกษากับ Wolverine เรื่องของ Hope Summers และตัดสินใจยกทีมบุกไปที่ Utopia ถิ่นของ X-Men เพื่อไปล่าตัว Hope Summers ทำให้ทีม Avengers นำโดย Captain America และ Wolverine สู้กับทีม X-Men นำโดย Cyclops การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดแต่ในที่สุด Wolverine ไม่สามารถกำจัด Hope ได้ และ Hope หนีรอดไปได้
ไม่ว่าจะเป็น Latveria , Savage Land , Tabula Rasa ,Wakanda , Wundagore แม้แต่ใน อวกาศ ทีม Avengers ก็พยายามที่จะหยุดยั้ง Pheonix แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ระหว่างนั้น Wolverin หาตัว Hope จนเจอ และ Hope ตกลงที่จะให้ Wolverine ช่วย ทั้งสองคน ได้บอก Captain America ถึงแผน และไปที่ดวงจันทร์ ฝ่าย X-Men นั้น Emma frost เจาะเข้าจิตของ กัปตัน ทำให้รู้แผน ก็ยกพวกตามไปที่ดวงจันทร์เช่นกัน ที่ดวงจันทร์ Avengers และ X-Men ได้ต่อสู้กันอีกครั้ง และ Pheonix มาถึงพอดี ทำให้ Hope มีพลังแข็งแกร่งขึ้นมาก ทีม Avengers พยายามที่จะทำลาย Hope/Pheonix แต่กลายเป็นว่า อาวุธของ Iron Man ทำลาย Pheonix ไม่ได้ แต่ทำให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆแทน และไปสิงร่างของ X-Men Pheonix 5 คือ Cyclops , Emma Frost , Namor , Colossus, Magik
Line 92 ⟶ 90:
ในโลก 616 นี้ ระดับพลังของวันด้า เรียกว่า อยู่ในระดับ Nexus Being เลยก็ว่าได้ เดอะ วอซเชอร์ หรือ Uatu เคยกล่าวเอาไว้ว่า พลังของวันด้า จะมีผลกระทบต่อความเป็นจริง แต่นั่นยังรวมไปกระทบถึงกับมิติอื่น ๆ ด้วย เช่น มิติที่เราเรียกว่า เวลา เป็นมิติที่ไม่มีใครสามารถยุ่งเกี่ยวได้ ซึ่งพลังเธอทำให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ เน็กซัส บีอิ้ง คนอื่น ๆ เช่น จีน เกรย์(ไม่ใช่ร่างอวตารของPhoenix) / แฟรงคริน ริชาร์ด / โอดิน เป็นต้น ดอกเตอร์ สเตรงจ์เคยบอกว่า พลังของวันด้า เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเวทมนตร์และพลังทุกสิ่งบนโลก พลังของวันด้าเรียกได้ว่าเป็นพลังที่มหัศจรรย์ที่สุดพลังหนึ่งที่เกิดขึ้นมาบนโลกโดยไม่ได้ไปเรียนรู้ หรือศึกษาเพิ่มเติม แต่เป็นพลังเวทย์ที่เธอได้มาแต่กำเนิดนั่นเอง
▲'''Hex Bolts''' : พลังในการร่ายเวทมนตร์หรือคำสาป เวลาที่วันด้าใช้พลังนี้ จะมีแสงสีแดง เป็นรูปหกเหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมเกิดขึ้นที่บริเวณมือของเธอ ซึ่งคำสาปเหล่านี้นับว่า มีความแข็งแรงในตัวของคำสาปมาก เพราะ มันจะแสดงให้เห็นถึงโชคร้ายที่จะตามมา หรือเกิดขึ้นต่อฝ่ายตรงข้ามหลังจากที่โดนเธอเล่นงานโดยคำสาป เธอสามารถใช้คำสาปของเธอในการควบคุมมวลสาร ไฟ หรือ เอาอากาศที่มีอยู่น้อยนิดตรงนั้น มาสร้างเป็นแรงโมเมนตัมแรงใหม่ เพื่อที่จะให้เธอควบคุมแรงโน้มถ่วงของโลกได้ หรือสามารถยกของหนัก ๆ สิ่งนั้นได้เพียงแค่ใช้เวทมนตร์ของเธอ และเธอยังสามารถใช้พลังเหล่านี้ในการสร้างแรงระเบิดและปล่อยเป็นแสงใส่ในการโจมตีศัตรูได้ พลังของเธอว่ากันว่า มีมากกว่า Dormammu ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจจ์ของ หมอแปลก และเธอยังสามารถใช้พลังในการควบคุม Dormammu ได้ ว่ากันว่า พลังของวันด้าเป็นหนึ่งเดียว ที่ Ultron กลัวและยังหาวิธีจัดการไม่ได้ หรือ แม้แต่เกราะที่หุ้มด้วยอดาเมนทียมก็ไม่สามารถที่จะทำลายพลังของวันด้าได้ เธอเคยแสดงให้เห็นในการทำลายพลังของ Domino ที่จะใช้โจมตีทำให้เกิดความโชคร้ายแก่เธอ เธอสามารถควบคุมพลังของ โดมิโน่ได้
▲'''Telekinesis''' : สามารถยกสิ่งของหรือวัตถุและเคลื่อนย้ายมัน ได้ตามใจคิด โดยใช้พลังเวทย์
'''Flight''' : สามารถใช้พลังในการทำให้ตัวเองบินได้
|