ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอเมืองอุตรดิตถ์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 33:
ท่าอิดเป็นท่าที่มีความเจริญทางการค้ามากกว่าทุกท่าใน ภาคเหนือ เป็นท่าจอดเรือ ค้าขายจากมณฑลภาคเหนือ และภาคกลางรวมถึงเชียงตุงเชียงแสนหัวพันทั้งห้าทั้งหก สิบสองปันนาสิบสองจุไทย เดิมท่าอิดอยู่ในความปกครองของขอมตลอดจน ถึงสมัยสุโขทัย ขอมหมดอำนาจ ท่าอิดจึงเป็นเมืองท่าขึ้นอยู่กับเมืองทุ่งยั้ง อันเป็นเมืองหน้าด่านของสุโขทัย สมัยต่อมาแคว้นน่านได้เปลี่ยนทางเดิน ทำให้หาดท่าอิดงอกออกไปทางตะวันออกมากทุก ๆ ปี ท่าอิดจึงเลื่อนตามลงไปเรื่อย ๆ เรียกว่าหาดท่าอิดล่าง ท่าอิดเดิมเรียกว่าท่าอิดบน ท่าอิดล่างก็ยังคงเป็นศูนย์การค้ามาตลอดจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ส่วนชื่อที่ใช้เรียกในระยะเวลาต่อมาว่า บางโพธิ์ท่าอิฐ น่าจะเป็นชื่อที่ได้รับการเรียกขึ้นมาในภายหลัง ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นต้นมา ท่าอิฐมีความเจริญขึ้นมากที่สุดใน 3 ท่าน้ำ รัชกาลที่ 4 (ไม่ชัดเจนว่ารัชกาลที่ 4 หรือ 5 เป็นผู้พระราชทานชื่ออุตรดิตถ์ แต่หากยึดตามพ.ศ.ที่พระราชทานตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4)จึงทรงพระราชทานชื่อเมืองให้ใหม่ว่า "[[อุตรดิตถ์]]" แปลว่า ท่าน้ำทางภาคเหนือ หรือท่าน้ำทางทิศเหนือ เนื่องจากเป็นท่าน้ำของไทยที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศ เพราะเหนืออุตรดิตถ์ขึ้นไปในสมัยนั้นเป็นเมืองประเทศราชของสยาม ( [[อาณาจักรล้านนา]])
นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานอื่นๆเกี่ยวกับคำว่า อุตรดิตถ์ดังนี้
=== วิวัฒนาการของอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ===
==== สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ====
ในสมัย
==== สมัยประวัติศาสตร์ ====
{{wide image|Panoramic view of Uttaradit.jpg|1000px|ทัศนียภาพ[[เมืองอุตรดิตถ์]] จากโรงแรมฟรายเดย์}}
สมัยเขมรโบราณ ท่าอิฐเป็นท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำน่านที่สำคัญที่สุดของทางภาคเหนือ เป็นท่าเรือรับส่งสินค้าทั้งทางบกและทางน้ำ ล่องไปยังเมืองละโว้(ลพบุรี) และใช้เป็นท่าราชการ เช่น เมื่อผู้ตรวจการเขมรจะไปตรวจราชการทางแคว้นโยนก ก็ต้องใช้เรือจากละโว้(ลพบุรี) มาขึ้นที่ท่าอิฐ จากท่าอิฐก็ใช้ช้าง ม้า ลาต่างพาหนะ ในเรื่องนี้คุณอนันต์ เอี่ยมสรรพางค์ ผู้ทราบเรื่องเกี่ยวกับอุตรดิตถ์ได้เคยซักถามขุนฉิมพลีผลารักษ์ (ชาวบ้านปากฝาง อดีตกำนันตำบลงิ้วงาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งท่านได้ถึงแก่กรรมไปหลายปีแล้ว) ได้ความว่า ตั้งแต่ถิ่นแถบท่าอิฐตลอดจนปากฝางเป็นถิ่นของพวกเขมรโบราณเคยมาตั้งหลักแหล่งอยู่ ได้มีการขุดค้นพบสิ่งต่าง ๆ ตามบริเวณตลิ่งพังริมน้ำ ซึ่งเป็นฝีมือของเขมรโบราณ ขุมฉิมพลีผลารักษ์ ยังได้กล่าวอีกว่า บ้านด่านทั้งสองแห่ง คือ บ้านด่านบก (สถานีรถไฟบ้านด่าน) และบ้านด่านน้ำ ก็เคยเป็นที่ตรวจราชการของเขมรโบราณ
สมัยสุโขทัย
* จากท่าอิฐไป แพร่ น่าน ลำปางพะเยา เชียงราย เชียงตุง สิบสองปันนา สิบสองจุไทย เข้าเขตเมืองฮ่อ เชียงใหม่ และเชียงคำ
|