นกปากกบปักษ์ใต้

นกปากกบปักษ์ใต้
นกปากกบปักษ์ใต้ในอุทยานแห่งชาติศรีพังงา
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Aves
อันดับ: Caprimulgiformes
วงศ์: Podargidae
สกุล: Batrachostomus
สปีชีส์: B.  stellatus
ชื่อทวินาม
Batrachostomus stellatus
(Gould, 1837)
แหล่งกระจายพันธุ์ของนกปากกบปักษ์ใต้ (B. stellatus)

นกปากกบปักษ์ใต้ (อังกฤษ: Gould's frogmouth; ชื่อวิทยาศาสตร์: Batrachostomus stellatus) เป็นนกหากินกลางคืนในอันดับ Caprimulgiformes และในวงศ์ Podargidae เป็นหนึ่งใน 12 ชนิดในสกุลนกปากกบ (Batrahostomus)[2] หายาก อาศัยในป่าที่ราบลุ่มและเชิงเขาในบรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และภาคใต้ของไทย ลักษณะเด่นคือ ปากที่กว้าง อวบใหญ่ คล้ายปากกบ และมีจุดขาวกระจัดกระจายบนปีกและส่วนใต้ท้องสีขาวหรือขาวหม่นมีดวงสีน้ำตาล สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติได้ระบุสถานะใกล้ถูกคุกคาม

อนุกรมวิธานและศัพทมูลวิทยา

ชื่อสามัญภาษาอังกฤษ "Gould's frogmouth" เพื่อระลึกถึงนักปักษีวิทยาชาวอังกฤษและศิลปินภาพนก จอห์น โกลด์ (John Gould, 1804-1881)[3] ชื่อวิทยาศาสตร์ มาจากภาษากรีก batracho (βατραχο) แปลว่า "กบ" และ stoma (στομα) "ปาก" (frogmouth)[4]

เป็นหนึ่งนกในสกุลนกปากกบ 4 ชนิดที่พบในประเทศไทย

ลักษณะทางกายวิภาค

นกปากกบยักษ์ (B. stellatus) เป็นนกขนาดกลางที่มีน้ำหนักประมาณ 47 ถึง 48.5 กรัม และวัดความยาวได้ 21 ถึง 25 เซนติเมตร[5] สามารถแบ่งได้ในสองรูปแบบที่แตกต่างกัน คือ สีน้ำตาลอ่อนและสีน้ำตาลเข้ม ทั้งสองมีลวดลายเหมือนกัน[6] ลำตัวส่วนใหญ่เป็นสีน้ำตาลและมีจุดสีขาวกระจายอยู่บนปีก เส้นรอบคอขาว ลำตัวด้านล่างสีขาวหม่นมีจุดขนาดใหญ่ (เป็นดวง) รูปไข่สีขาวขอบน้ำตาล[7][5] ลักษณะภาวะทวิสันฐานทางเพศที่ตรงข้ามกับนกปากกบชนิดอื่น ๆ นกปากกบปักษ์ใต้ตัวผู้และตัวเมียมีความคล้ายคลึงกันมาก ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยที่สามารถระบเพศตนได้คือ นกตัวเมียจะมีสีน้ำตาลแดงเข้ม ม่านตาสีน้ำตาล และขาสีเหลือง ในขณะที่ตัวผู้มีม่านตาสีเหลืองและขาสีชมพู[8]

พฤติกรรมและถิ่นอาศัย

นกชนิดนี้พบได้เฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นนกประจำถิ่นของประเทศบรูไน บางภูมิภาคของอินโดนีเซีย พบมากในมาเลเซียและสิงคโปร์[2] และเป็นนกประจำถิ่นที่ถูกระบุว่าเป็นนกที่หายากในประเทศไทย เฉพาะในภาคใต้ของประเทศ ถิ่นที่อยู่ของนกปากกบปักษ์ใต้คือป่าฝนเขตร้อน มักพบในป่าดงดิบ หรือป่าปฐมภูมิที่ไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ หรือยังคงไม้พื้นเมืองที่หนาแน่น มักอาศัยอยู่ในป่าที่ราบลุ่มจนถึงระดับความสูงไม่เกิน 500 เมตร[8]

ในประเทศไทย นกปากกบปักษ์ใต้อาศัยค่อนข้างเบาบางโดยมีค่าความหนาแน่น 2.92 ตัว ต่อตารางกิโลเมตร[9] สามารถอาจพบได้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา จังหวัดนราธิวาส อุทยานแห่งชาติศรีพังงา จังหวัดพังงา[10]

ร้องเสียงดัง “วี้ว - วี้" หรือร้องแบบต่อเนื่องยาว "วิ้ว" และเป็นช่วง "วุ๊ก ๆ ๆ" อย่างรวดเร็วซึ่งคล้ายเป็นเสียงเตือน

อาหาร

เป็นนกกินแมลงเหมือนกับนกปากกบอื่น ๆ ในภูมิภาค นกปากกบปักษ์ใต้กินผีเสื้อกลางคืนชนิดต่าง ๆ ด้วงบางชนิด และตั๊กแตน

การผสมพันธุ์

ฤดูผสมพันธุ์ของนกปากกบปักษ์ใต้อาจแตกต่างกันไปตามถิ่นอาศัย ในพื้นที่มาเลเซียเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง กันยายน และในเกาะบอร์เนียวเริ่มตั้งแต่ กุมภาพันธ์ ถึง กรกฎาคม ระยะฟักไข่ประมาณ 30 วัน โดยทั้งพ่อและแม่จะทำการฟักไข่

การทำรัง

รังทำด้วยรังของขนร่วงของพ่อแม่นกบางส่วนและมักมีขนาดเล็กและตื้น ผสมกับการใช้กิ่งไม้และไลเคนบางชนิด พ่อแม่นกมักซ่อนรังเพื่อป้องกันจากผู้ล่า รังส่วนใหญ่สูงจากพื้น 1.3 เมตร และตัวเมียวางไข่ครั้งละ 1 ฟองต่อคลอก ไข่มีลักษณะเป็นวงรีและมีสีขาว

สถานะการอนุรักษ์และภัยคุกคาม

จากข้อมูลของ IUCN นกปากกบปักษ์ใต้ถูกจัดสถานะใกล้ถูกคุกคาม (NT) ประชากรนกลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภัยคุกคามต่อถิ่นที่อยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย จำนวนนกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มลดลงอย่างมากจากกิจกรรมของมนุษย์โดยเฉพาะการตัดไม้ทำลายป่าในที่ราบลุ่ม ซึ่งทำลายถิ่นที่อยู่ของสัตว์หลายชนิด แม้นกปากกบปักษ์ใต้กำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์ในประเทศไทย แต่นกชนิดนี้แพร่กระจายโดยกว้างในหลายภูมิภาคของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการสูญพันธุ์ลงได้บ้าง

อ้างอิง

  1. BirdLife International (2012). "Batrachostomus stellatus". IUCN Red List of Threatened Species. 2012. สืบค้นเมื่อ 26 November 2013.
  2. 2.0 2.1 Avibase (n.d.). "Podarge étoilé".{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  3. Beolens, Bo; Watkins, Michael (2003). Whose Bird? Men and Women Commemorated in the Common Names of Birds. London: Christopher Helm. pp. 145–146.
  4. Liddell, Henry George (1871). A lexicon. Robert Scott. Oxford. ISBN 0-19-910207-4. OCLC 4060180.
  5. 5.0 5.1 Holyoak (2016). "Gould's Frogmouth". Birds of the World.{{cite journal}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  6. Ebird (n.d.). "Podarge étoilé". Merlin.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  7. "นกปากกบปักษ์ใต้ - eBird". ebird.org.
  8. 8.0 8.1 Le-Dantec (2010). "Podarge étoilé". oiseaux.net.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  9. ศิริพร ทองอารีย์ สุวิทย์ สุวรรณพงศ์ สมชัย อาแว. 2555. ชนิดและประชากรของนกหากินกลางคืนในป่าบาลา จังหวัดนราธิวาส. หน้า 79-86. ใน ผลงานวิจัย และรายงานความก้าวหน้างานวิจัย ประจำปี 2554. กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. กรุงเทพฯ.
  10. Parks, Creative Commons Attribution-ShareAlike 4 0 International Thai National. "Batrachostomus stellatus, Gould's frogmouth". Thai National Parks (ภาษาอังกฤษ).