พรายมหากาฬ หรือ อินทรีแดง ตอน พรายมหากาฬ เป็นภาพยนตร์ไทย ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์ม สร้างดัดแปลงจากบทประพันธ์ของเศก ดุสิต เรื่องอินทรีแดง ตอนที่ 2 เรื่อง พรายมหากาฬ พิมพ์ครั้งแรกปี 2500 สำนักพิมพ์ บรรลือสาสน์ 10 เล่มจบ สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม นำมาพิมพ์ใหม่ 4 เล่มจบ ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย ประเสริฐ ศรีสมทรัพย์ สร้างโดย พาราไดซ์ฟิล์ม กำกับการแสดงโดย ส.อาสนจินดา นำแสดงโดย กรุง ศรีวิไล อรัญญา นามวงศ์ นิรุตติ์ ศิริจรรยา สายัณห์ จันทรวิบูลย์ เมตตา รุ่งรัตน์ และลักษณ์ อภิชาติ ออกฉายเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523

พรายมหากาฬ
โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง พรายมหากาฬ
กำกับส.อาสนจินดา
เขียนบทบทประพันธ์ :
เรื่อง พรายมหากาฬ
ของ เศก ดุสิต
บทภาพยนตร์ :
พงศ์อำมาตย์
อำนวยการสร้างประเสริฐ ศรีสมทรัพย์
นักแสดงนำกรุง ศรีวิไล
อรัญญา นามวงศ์
นิรุตติ์ ศิริจรรยา
สายัณห์ จันทรวิบูลย์
เมตตา รุ่งรัตน์
ลักษณ์ อภิชาติ
ทัต เอกทัต
ฉัตร มงคลชัย
บู๊ วิบูลย์นันท์
สมชาย สามิภักดิ์
เชาว์ แคล่วคล่อง
เทอด ดาวไท
ปรีชา สุขสุวรรณ
สุรชาติ ไตรโภค
สิงห์ มิลินทราศัย
กำกับภาพทวีศักดิ์ ศรีสมทรัพย์
ผู้จัดจำหน่ายพาราไดซ์ฟิล์ม
วันฉายไทย 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523
ประเทศไทย ประเทศไทย
ภาษาไทย
ข้อมูลจากฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย

เนื้อเรื่อง แก้

คืนวันหนึ่ง มีผู้ร้ายเข้าปล้นโกดังเก็บของในบริเวณท่าเรือแห่งหนึ่ง โรม ฤทธิไกรหรืออินทรีแดง เข้าขัดขวาง เกิดการยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือด ผู้ร้ายส่วนหนึ่งขับรถบรรทุกของที่ปล้นได้หนีไป เมื่อถึงด่านตรวจรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้หยุดรถแต่คนร้ายขัดขืนไม่ยอมหยุด จึงฝ่าที่กั้นถนนและขับชนกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก ตำรวจที่ด่านวิทยุจึงแจ้งศูนย์รวมข่าว รถวิทยุตำรวจในบังคับบัญชาของ ร.ต.ต.นิพนธ์ เข้าสกัดกั้นแล้วเกิดการต่อสู้ ในระหว่างนั้นพรายมหากาฬก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าปล่อยแสงมฤตยูทำลายรถบรรทุกของคนร้าย ท่ามกลางความตะลึงของตำรวจและคนร้าย ซึ่งโรมขับรถตามมาเห็นพอดี พรายมหากาฬก็ลอยอยู่เหนืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พ.ต.ต.มนตรี เสรีกุลและพ.ต.ท.ชาติ วุฒิไกร พร้อมกำลังเสริมอื่นๆ มาบริเวณอนุสาวรีย์ แสงมฤตยูจากพรายมหากาฬเกิดทำลายกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์รวมข่าวได้รับแจ้งการปล้นเพชร มนตรีจึงให้ชาติอยู่บัญชาการที่อนุสาวรีย์ ส่วนมนตรีจึงไปยังที่เกิดเหตุการปล้นเพชรทันที จังหวะพอดีกับดร.เฮล เทเลอร์ (ซึ่งปลอมตัวเป็นอับเดล) กับไววิทย์ ขับรถเลี้ยวออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุตัดหน้ารถของมนตรีอย่างรวดเร็วโดยมีพิรุธ มนตรีจึงตามรถของอับเดลไป อับเดลจึงใช้วิชาสะกดจิตหนีรอดการจับกุมไปได้แล้วทิ้งกะโหลกผีสีเขียวไว้เป็นปริศนาให้กับมนตรี

ในตอนกลางคืน โรมจึงเห็นปั้นมนุษย์วานรเข้าไปในบ้านดร.เฮล โรมจึงลอบเข้าไปในบ้านแล้วสงสัยว่าต้องเกี่ยวข้องกับพรายมหากาฬแน่ โรมจึงลงไปในห้องใต้ดินพบพรรณพิไล ซึ่งมีหน้าตาคล้ายวาสนา คนรักของตน โรมจึงออกจากบ้านดร. เฮลด้วยความเชื่อมั่นว่าเป็นตัวการของพรายมหากาฬอย่างแน่นอน โรมจึงวางแผนจะจับตัวพรรณพิไลแล้วให้วาสนาปลอมตัวเป็นพรรณพิไลแทน

พ.ต.ท.ชาติประกาศท้าให้อินทรีแดงขโมยของในบ้านเขาให้ได้จึงจะยอมรับว่าเก่งจริง ต่อมาวันกำหนดนัดของอินทรีแดง มีเหล่าตำรวจและนักข่าวมาที่บ้านของชาติ โรมซึ่งได้ปลอมตัวเป็นนักข่าวปะปนเข้าไปอยู่ในบ้านของชาติแล้วขโมยของของชาติตามคำท้า ทำให้ชาติจึงเสียหน้าให้กับอินทรีแดง

ในงานวันเกิดของคุณหญิงพิทักษ์ ประชากร ซึ่งมีแขกต่างๆมาร่วมอวยพรกันมากมาย รวมถึงโรมด้วย ดร.เฮลวางแผนปล้นเพชรของคุณหญิงพิทักษ์โดยใช้เครื่องมือสะกดจิตคนทั้งงาน รวมถึงคุณหญิงพิทักษ์ จึงถูกสะกดให้หยิบเครื่องเพชร แต่อินทรีแดงมาช่วยไว้ทัน เป็นที่สงสัยแก่มนตรีแต่ก็รอดพ้นจากการสงสัยไปได้ ต่อมาโรมได้มาทำธุระในขณะนั่งรถกลับนั้นจิตรกับไววิทย์ได้แอบเอากล่องใส่มือโดยที่ไม่เห็น เมื่อโรมเปิดกล่องนั้นออกก็เป็นเพชรเม็ดใหญ่ ทำให้โรมประหลาดใจและตื่นเต้นมาก โรมในสภาพอินทรีแดงลอบมาที่โรงงานทำแก้ว ในขณะเดียวกันดร.เฮล, ไววิทย์และปั้นกำลังขู่เข็ญจิตรให้บอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องเตาหลอมระเบิดซึ่งดร.เฮลโมโหมากเพราะเชื่อว่าจิตรต้องพบเพชรจากการระเบิดนั้นแต่จิตรปฏิเสธ ดร.เฮลจึงให้นำจิตรไปขังไว้และประชุมสมุนนักเลงมือดีให้ติดตามอินทรีแดง

มนตรีเจอพรรณพิไลกับโรมในไนท์คลับแห่งหนึ่ง แล้วมนตรีพาพรรณพิไลไปส่งที่บ้าน มนตรีถูกลอบทำร้ายและโดนขู่แต่ชาติก็ได้ช่วยเอาไว้ ซึ่งไม่ไว้วางใจพรรณพิไลแต่ชาติโดนไววิทย์เล่นงานอีก อินทรีแดงก็ปรากฏตัวช่วยเหลือเอาไว้ทัน คนร้ายจึงกลายเป็นผู้ต้องหาของมนตรีและชาติ โดยทั้งหมดเป็นแผนการของดร.เฮล โรมจึงรู้ว่าพรรณพิไลถูกดร.เฮลบังคับให้ทำด้วยจำใจและกลัวเพราะมีสิ่งที่เธอรักอยู่กับดร.เฮล ถ้าขัดขืนดร.เฮลก็จะทำลายพร้อมกับฆ่าเธออีกด้วย

ดร.เฮลวางแผนจะเข้าปล้นเพชรที่บ้านคุณหญิงพิทักษ์อีกครั้งหนึ่ง อินทรีแดงได้ลอบเข้าไปในบ้านคุณหญิงพิทักษ์เพื่อป้องกัน ส่วนมนตรี, ชาติและนิพนธ์ได้วางกำลังตำรวจไว้พร้อมแล้วเกิดการต่อสู้กันแล้วหนีไปได้ พรรณพิไลซึ่งกลับตัวแล้วพร้อมจะบอกว่าจะพบดร.เฮลกับพวกในที่ไนท์คลับมนตรี, ชาติและนิพนธ์จึงนำตำรวจไปซุ่มที่คลับทันทีแล้วได้พบกับสมุนของดร.เฮลและพวก แต่คนร้ายรู้ตัวก่อนจึงขับรถหนีไป มนตรี, ชาติและนิพนธ์ตามไปแต่ถูกสะกดจิต เมื่อรู้สึกตัว คนร้ายก็หลบหนีไปแล้ว

โรมได้ลอบเข้าไปในตึกร้างของดร.เฮล อินทรีแดงเห็นจิตรจึงช่วยพาออกไปจากที่คุมขังได้สำเร็จและให้มนตรีคุ้มครองเอาไว้ หลังจากนั้นอินทรีต่อสู้กับหน้ากากผีของดร.เฮล แต่หน้ากากผีถูกทำลายเพราะฝีมือของตัวมันเอง อินทรีแดงพาพรรณพิไลพบกับจิตรผู้เป็นพ่อของพรรณพิไลด้วยความดีใจ ความลับของดร.เฮล ถูกเปิดเผยออกจากปากจิตรว่า ดร.เฮลคือศาสตราจารย์โชติ ที่หายสาบสูญไปนาน และปั้นมนุษย์วานรเป็นผู้ช่วย เกิดจากการทดลองของศาสตราจารย์โชติ ทั้งสองร่วมมือฆ่าคนหาเลือดมาทำเซรุ่มยาอายุวัฒนะเพื่อต่ออายุของตน

มนตรี, ชาติและนิพนธ์เข้าล้อมตึกร้างของดร.เฮล ด้วยความช่วยเหลือของอินทรีแดงและทำลายรังของคนร้ายได้สำเร็จ เหล่าสมุนทั้งหลายถูกตำรวจยิงตาย มนตรีเจอกับดร.เฮลในห้องทดลองแต่ร่างกายของดร.เฮลก็สลายเหลือแต่โครงกระดูกไปเสียแล้ว