พระเจ้าแสรกแมง
พระเจ้าแสรกแมง หรือ พระเจ้าสารวดี (พม่า: သာယာဝတီမင်း ตายาวะดีมี่น) เป็นพระโอรสของตะโดเมงสอซึ่งเป็นพระโอรสของพระเจ้าปดุง พระองค์เป็นพระอนุชาของพระเจ้าจักกายแมง และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 7 ในราชวงศ์โก้นบอง ประสูติเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2330 พระองค์มีบทบาทในการคัดค้านพระเจ้าจักกายแมงให้รีบยอมแพ้ต่ออังกฤษหลังจากมหาพันธุละแม่ทัพใหญ่เสียชีวิตในสนามรบ แต่พระเจ้าจักกายแมงไม่เชื่อคำทักท้วง จนฝ่ายพม่าต้องประสบความเสียหายมากขึ้น
พระเจ้าแสรกแมง | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์พม่า | |||||
ครองราชย์ | 15 เมษายน พ.ศ. 2380 – 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2389 | ||||
ราชาภิเษก | 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2383 | ||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าจักกายแมง | ||||
ถัดไป | พระเจ้าพุกามแมง | ||||
มเหสี | แม-มยะชเว | ||||
พระราชบุตร | 18 พระราชโอรสและ 18 พระราชธิดารวมไปถึง: | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์โก้นบอง | ||||
ประสูติ | 14 มีนาคม พ.ศ. 2330 | ||||
สวรรคต | 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2389 (59 ปี) |
พระเจ้าแสรกแมงขึ้นครองราชย์หลังจากที่พระเจ้าจักกายแมงมีพระสติวิปลาส พระนางแมนุกับมี่นต้าจี้ต้องการกำจัดพระองค์ และจะยกพระโอรสของพระเจ้าจักกายแมงคือเจ้าชายญองย่านขึ้นเป็นกษัตริย์ พระเจ้าแสรกแมงจึงเสด็จหนีไปรวบรวมผู้คน กลับมายึดอำนาจและปลดพระเจ้าจักกายแมงลงจากราชบัลลังก์เมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2380 และขึ้นครองราชสมบัติแทน
หลังจากขึ้นครองราชย์แล้ว พระเจ้าแสรกแมงทรงประหารชีวิตพระนางแมนุ มี่นต้าจี้ และเจ้าชายญองย่าน และกักบริเวณพระเจ้าจักกายแมงไว้ ต่อมามีขุนนางพม่าพยายามจะนำพระเจ้าจักกายแมงกลับมาครองราชย์ พระเจ้าแสรกแมงจึงสั่งให้คุมขังพระเจ้าจักกายแมงไว้อย่างแข็งแรงกว่าเดิมจนพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2389 ส่วนพระเจ้าแสรกแมงก็มีพระสติวิปลาสและถูกพระโอรสคือเจ้าชายพุกาม (หรือที่ในพงศาวดารไทยเรียกพระเจ้าพุกามแมง) ควบคุมตัวไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2385 และสวรรคตเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2389[1] หลังพระเจ้าจักกายแมง พระเชษฐาไม่นานนัก
ในรัชกาลพระเจ้าแสรกแมงมีการทำสนธิสัญญารานตะโบ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่หนึ่ง พระองค์ไม่เห็นด้วยกับสนธิสัญญานี้แต่ก็ไม่กล้าผิดสัญญา ความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับเฮนรี เบอร์นี ผู้แทนชาวอังกฤษแย่ลง จนเบอร์นีออกจากพม่าไปใน พ.ศ. 2380 ต่อมาใน พ.ศ. 2385 พระองค์ได้นำกำลังทหาร 15,000 คนลงไปยังเมืองย่างกุ้งเพื่อบูชาพระเกศาธาตุและเรียกร้องให้อังกฤษคืนยะไข่และตะนาวศรี เมื่อการเรียกร้องเอกราชไม่เป็นผลจึงเสด็จกลับอมรปุระ[2] และมีพระสติวิปลาสในปีนั้นเอง ในรัชกาลของพระองค์ อังกฤษติดทำสงครามกับอัฟกานิสถานจึงไม่ทำสงครามกับพม่า
อ้างอิงแก้ไข
- วิไลเลขา ถาวรธนสาร. "พระเจ้าจักกายแมง." ใน สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่: เอเชีย เล่ม 1 อักษร A–B ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2539, หน้า 330–333.
- ↑ Christopher Buyers. "The Konbaung Dynasty Genealogy". royalark.net. สืบค้นเมื่อ 2009-09-26.
- ↑ วิไลเลขา ถาวรธนสาร. "สงครามอังกฤษ-พม่า ครั้งที่ 2." ใน สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่ : เอเชีย เล่ม 1 อักษร A–B ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2539, หน้า 163–166
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
- The Royal Ark:Burma – The Konbaung Dynasty Christopher Buyers
ก่อนหน้า | พระเจ้าแสรกแมง | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าจักกายแมง | พระมหากษัตริย์พม่า (อาณาจักรพม่ายุคที่ 3) (พ.ศ. 2380–2389) |
พระเจ้าพุกามแมง |