พระเจ้าเลนเต้
พระเจ้าเลนเต้[1] (ค.ศ. 156/157[a] – 13 พฤษภาคม ค.ศ. 189[b]) หรือ จักรพรรดิฮั่นหลิงตี้ (จีน: 漢靈帝; พินอิน: Hàn Líng Dì) พระนามส่วนพระองค์ เล่าเหี้ยน[3] หรือในภาษาจีนกลางเรียกว่า หลิว หง (จีน: 劉宏; พินอิน: Liú Hóng)[4] เป็นจักรพรรดิลำดับที่ 12 ของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก พระองค์ยังเป็นจักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ฮั่นตะวันออกที่สามารถใช้พระราชอำนาจอย่างแท้จริงในรัชสมัยของพระองค์ พระองค์เป็นพระโอรสของผู้ดำรงฐานันดรศักดิ์เฮา (侯 โหว) ระดับล่างผู้สืบเชื้อสายโดยตรงจากพระเจ้าเจียงเต้ (漢章帝 ฮั่นจางตี้; จักรพรรดิราชวงศ์ฮั่นตะวันออกลำดับที่ 3) เล่าเหี้ยนทรงได้รับเลือกให้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 168 ขณะมีพระชนมายุ 12 พรรษาหลังการสวรรคตของพระเจ้าหวนเต้ (漢桓帝 ฮั่นหฺวานตี้) จักรพรรดิองค์ก่อนหน้าที่ไม่มีพระโอรสสืบราชบัลลังก์ พระเจ้าเลนเต้ทรงครองราชย์เป็นเวลาประมาณ 21 ปีจนกระทั่งสวรรคตในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 189
พระเจ้าเลนเต้ (ฮั่นหลิงตี้) 漢靈帝 | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
![]() | |||||||||||||
จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮั่น | |||||||||||||
ครองราชย์ | 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 168– 13 พฤษภาคม ค.ศ. 189 | ||||||||||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าหวนเต้ | ||||||||||||
ถัดไป | หองจูเปียน | ||||||||||||
เตงเฮาแห่งเจี่ยตู๋ (解瀆亭侯 เจี่ยตู๋ถิงโหว) | |||||||||||||
ดำรงตำแหน่ง | ? – กุมภาพันธ์ ค.ศ. 168 | ||||||||||||
ก่อนหน้า | หลิว ฉาง | ||||||||||||
ประสูติ | ค.ศ. 156 | ||||||||||||
สวรรคต | 13 พฤษภาคม ค.ศ. 189 | (32–33 ปี)||||||||||||
พระมเหสี | จักรพรรดินีซ่ง (宋皇后 ซ่งหฺวางโฮ่ว) โฮเฮา (何皇后 เหอหฺวางโฮ่ว) อองบีหยิน (王美人 หวางเหม่ย์เหริน) | ||||||||||||
พระราชบุตร | หองจูเปียน (皇子辯 หฺวางจื่อเปี้ยน) พระเจ้าเหี้ยนเต้ (漢獻帝 ฮั่นเซี่ยนตี้) เจ้าหญิงว่านเหนียน (萬年公主 ว่านเหนียนกงจู่) | ||||||||||||
| |||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ฮั่น | ||||||||||||
พระราชบิดา | หลิว ฉาง (劉萇) | ||||||||||||
พระราชมารดา | ตังไทฮอ (董太后 ต่งไท่โฮ่ว) |
เลนเต้ (ฮั่นหลิงตี้) | |||||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 漢靈帝 | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวย่อ | 汉灵帝 | ||||||||
| |||||||||
เล่าเหี้ยน (หลิว หง) | |||||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 劉宏 | ||||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 刘宏 | ||||||||
|
ในรัชสมัยของพระเจ้าเลนเต้ เหล่าขันทีทุจริตเข้าครอบงำราชสำนักของราชวงศ์ฮั่นตะวันออกอีกครั้งเช่นเดียวกับรัชสมัยของจักรพรรดิองค์ก่อน เตียวเหยียง (張讓 จาง ร่าง) ผู้นำของขันทีกลุ่มสิบเสียงสี (十常侍 ฉือฉางชื่อ) สามารถครอบงำการปกครองของราชสำนักได้สำเร็จหลังเอาชนะกลุ่มขุนนางที่นำโดยเตาบู (竇武 โต้ว อู่) ผู้เป็นบิดาของจักรพรรดินีพันปีหลวงโต้ว เมี่ยว (竇妙) และตันผวน (陳蕃 เฉิน ฝาน) ผู้เป็นขุนนางและบัณฑิตลัทธิขงจื๊อในเดือนตุลาคม ค.ศ. 168 หลังพระเจ้าเลนเต้ทรงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว พระองค์ทรงไม่สนพระทัยในด้านราชการแผ่นดินและโปรดการหลงระเริงกับสตรีและการใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ขุนนนางที่ทุจริตในราชสำนักราชวงศ์ฮั่นก็เรียกเก็บภาษีจากชาวนาอย่างหนัก พระองค์กลับทรงทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นโดยนำระบบการซื้อขายตำแหน่งทางราชการด้วยเงินมาใช้ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ระบบราชการของราชวงศ์ฮั่นและนำไปสู่การฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างแพร่หลาย ความไม่พอใจของราษฎรต่อราชสำนักราชวงศ์ฮั่นที่เพิ่มมากขึ้นได้นำไปสู่การเกิดกบฏโพกผ้าเหลืองที่นำโดยกลุ่มชาวนาในช่วงต้น ค.ศ. 184
รัชสมัยของพระเจ้าเลนเต้ทำให้ราชวงศ์ฮั่นตะวันออกอ่อนแอจนใกล้จะล่มสลาย หลังพระองค์สวรรคต จักรวรรดิของราชวงศ์ฮั่นก็แตกแยกท่ามกลางความวุ่นวายในช่วงหลายทศวรรษถัดมาเพราะขุนศึกตามภูมิภาคต่าง ๆ ต่างก็ต่อสู้เพื่อชิงอำนาจและความเป็นใหญ่ (ดู ปลายราชวงศ์ฮั่น) ราชวงศ์ฮั่นสิ้นสุดในช่วงปลาย ค.ศ. 220 เมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ (漢獻帝 ฮั่นเซี่ยนตี้) ผู้เป็นพระโอรสของพระเจ้าเลนเต้สละราชบัลลังก์ อันเป็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่การเริ่มต้นของยุคสามก๊กของจีน
ภูมิหลังครอบครัวและการขึ้นครองราชย์
แก้เล่าเหี้ยนได้สิบทอดฐานันดรศักดิ์เตงเฮาแห่งเจี่ยตู๋ (解瀆亭侯 เจี่ยตู๋ถิงโหว) ในยุคราชวงศ์ฮั่น ฐานันดรศักดิ์เตงเฮา (亭侯 ถิงโหว) หรือเฮา (侯 โหว) ระดับหมู่บ้านมักมีศักดินาเพียงหมู่บ้านเดียว หรือในบางกรณีที่พบได้น้อยอาจมีศักดินา 2 หรือ 3 หมู่บ้าน เล่าเหี้ยนเป็นรุ่นที่ 3 ในเชื้อสายที่ได้ฐานันดรศักดิ์นี้ บิดาของเล่าเหี้ยนคือหลิว ฉาง (劉萇) และปู่ของเล่าเหี้ยนคือหลิว ชู (劉淑) ก็เคยมีฐานันดรศักดิ์เป็นเตงเฮาแห่งเจี่ยตู๋ ส่วนทวดของเล่าเหี้ยนคือหลิว ไค (劉開) มีฐานันศักดิ์เป็นอ๋องเซี่ยวแห่งโฮกั้น (河間孝王 เหอเจียนเซี่ยวหวาง) และเป็นพระโอรสองค์ที่ 3 ของพระเจ้าเจียงเต้ (漢章帝 ฮั่นจางตี้) จักรพรรดิลำดับที่ 3 ของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก มารดาของเล่าเหี้ยนมีชื่อสกุลว่าตัง (董 ต่ง) ซึ่งภายหลังคือตังไทฮอ (董太后 ต่งไท่โฮ่ว) เป็นภรรยาหลวงของหลิว ฉาง
เมื่อพระเจ้าหวนเต้ (漢桓帝 ฮั่นหฺวานตี้) สวรรคตเมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 168[c] โดยไม่มีพระโอรสสืบราชบัลลังก์ จักรพรรดินีโต้ว เมี่ยว (竇妙) พระมเหสีของพระองค์ได้ขึ้นเป็นไทเฮา (太后 ไท่โฮ่ว) หรือจักรพรรดินีพันปีหลวง พระองค์ทรงตรวจสอบพงศาวลีของราชตระกูลเพื่อเลือกผู้สืบราชบัลลังก์เป็นจักรพรรดิองค์ถัดไป หลิว ชู (劉儵) ผู้ช่วยของพระองค์ทูลเสนอชื่อเล่าเหี้ยนผู้เป็นเตงเฮาแห่งเจี่ยตู๋ด้วยเหตุผลที่ไม่ปรากฏแน่ชัด จักรพรรดินีพันปีหลวงโต้ว เมี่ยวทรงปรึกษากับเตาบู (竇武 โต้ว อู่) ผู้เป็นบิดาของพระองค์และตันผวน (陳蕃 เฉิน ฝาน) ผู้เป็นขุนนางและบัณฑิตลัทธิขงจื๊อ แล้วจึงตัดสินพระทัยตั้งให้เล่าเหี้ยนวัย 12 ปีขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 168[d] ตัวจักรพรรดินีพันปีหลวงโต้ว เมี่ยวทรงได้บริหารราชการแผ่นดินต่อไปในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เล่าเหี้ยนหรือพระเจ้าเลนเต้ที่เพิ่งขึ้นครองราชย์ทรงพระราชทานสมัญญานามแก่พระอัยกา พระอัยกี และพระบิดาผู้ล่วงลับ แต่งตั้งย้อนหลังให้เป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินี ส่วนพระมารดาของพระองค์ที่มีชื่อสกุลตังยังไม่ได้ขึ้นเป็นไทเฮา (จักรพรรดินีพันปีหลวง) แต่ได้รับตำแหน่งเป็นท่านหญิงแทน
รัชสมัยช่วงต้น
แก้เตาบูและตันผวนซึ่งขึ้นเป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนักได้พยายามจะกวาดล้างกลุ่มขันที ภายหลังเมื่อ ค.ศ. 168 ทั้งสองถึงกับเสนอให้กำจัดขันทีผู้ทรงอิทธิพลทั้งหมด แต่จักรพรรดินีพันปีหลวงโต้ว เมี่ยวทรงปฏิเสธข้อเสนอ อย่างไรก็ตาม บทสนทนาเกี่ยวกับแผนการนี้รั่วไหล เหล่าขันทีจึงลักพาตัวจักรพรรดินีพันปีหลวงโต้ว เมี่ยวและกักบริเวณพระเจ้าเลนเต้ (หลังทูลโน้มน้าวพระองค์ว่าเพื่อเป็นการถวายการอารักขา) จากนั้นจึงจับกุมและประหารชีวิตตันผวน ด้านเตาบูพยายามต้านทานแต่ท้ายที่สุดก็พ่ายแพ้และถูกบีบให้ฆ่าตัวตาย ตระกูลเตา (竇 โต้ว) ถูกสังหารหมู่ เหล่าขันทีผู้มีอำนาจนำโดยเทาเจียด (曹節 เฉา เจี๋ย) และหวาง ฝู่ (王甫) ขึ้นเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในราชสำนัก
หลังการล่มจมของตระกูลเตา ต่อมาเมื่อ ค.ศ. 169 พระเจ้าเลนเต้ทรงเลื่อนให้พระมารดาขึ้นดำรงตำแหน่งไทเฮา แม้ว่ายังทรงยกย่องจักรพรรดินีพันปีหลวงโต้ว เมี่ยวที่เวลานี้ถูกกักบริเวณให้ยังอยู่ในฐานะไทเฮาด้วยเช่นกัน สมาชิกตระกูลตังเริ่มเข้ามามีตำแหน่งในราชสำนักแต่ไม่มีอิทธิพลมากนัก ต่อมาในปีเดียวกันนั้น เหล่าขันทีทูลยุยงพระเจ้าเลนเต้ว่าเหล่า "พลพรรค" (黨人 ต่างเหริน; หมายถึงเหล่าข้าราชการที่เป็นบัณฑิตในลัทธิขงจื๊อและเหล่าผู้สนับสนุน) กำลังวางแผนต่อต้านพระองค์ พลพรรคจำนวนมากจึงถูกจับกุมและถูกสังหาร ส่วนคนอื่น ๆ ก็ถูกเพิกถอนสิทธิ์การรับราชการโดยสมบูรณ์ เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักในทางประวัติศาสตร์ในคำเรียกว่าวิบัติการกีดกันพลพรรคครั้งที่สอง
จักรพรรดินีพันปีหลวงโต้ว เมี่ยวสิ้นพระชนม์เมื่อ ค.ศ. 172 แม้ว่ามีการเสนอจากเหล่าขันทีให้ฝังพระศพของพระองค์ในฐานะพระสนมและไม่ให้ทรงรับเกียรติในฐานะพระมเหสีของพระเจ้าหวนเต้ แต่พระเจ้าเลนต้ก็โปรดให้ฝังพระศพอย่างสมเกียรติไทเฮาในสุสานของพระเจ้าหวนเต้ หลังการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดินีพันปีหลวงโต้ว เมี่ยว มีคนร้ายมาเขียนข้อความที่ประตูพระราชวังว่า "ทุกสิ่งในใต้ฟ้าตกอยู่ในความวุ่นวาย เทา (เจียด) และหวาง (ฝู่) ปลงพระชนม์ไทเฮา ขุนนางคนสำคัญรู้เพียงวิธีการเป็นขุนนางและไร้คำพูดสัตย์ซื่อจะเอื้อนเอ่ย"
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รัชสมัยช่วงกลาง
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กบฏโพกผ้าเหลือง
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รัชสมัยช่วงปลาย
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
พระราชวงศ์
แก้พระมเหสีและพระราชบุตร
แก้- จักรพรรดินีซ่งแห่งตระกูลซ่ง (皇后 宋氏 หฺวางโฮ่ว ซ่งชื่อ; สิ้นพระชนม์ ค.ศ. 178)
- โฮเฮา (何皇后 เหอหฺวางโฮ่ว) หรือจักรพรรดินีหลิงซือแห่งตระกูลเหอ (靈思皇后 何氏 หลิงซือหฺวางโฮ่ว เหอชื่อ; สิ้นพระชนม์ ค.ศ. 189)
- หองจูเปียน (皇子辯 หฺวางจื่อเปี้ยน) หรือเล่าเปียน อ๋องแห่งฮองหลง (弘農懷王 劉辯 หงหนางหวาง หลิวเปี้ยน; ค.ศ. 176–190) พระโอรสองค์แรก
- อองบีหยิน (王美人 หวางเหม่ย์เหริน) หรือจักรพรรดินีหลิงหฺวายแห่งตระกูลหวาง (靈懷皇后 王氏 'หลิงหฺวายหฺวางโฮ่ว หวางชื่อ; เสียชีวิต ค.ศ. 181) ชื่อตัว หรง (榮)
- หองจูเหียบ (皇子協 หฺวางจื่อเสีย) หรือเล่าเหียบ พระเจ้าเหี้ยนเต้ (孝獻皇帝 劉協 เซี่ยวเซี่ยนหฺวางตี้ หลิวเสีย; ค.ศ. 181–234) พระโอรสองค์ที่สอง
- ไม่ทราบ
- เจ้าหญิงว่านเหนียน (萬年公主 ว่านเหนียนกงจู่) พระธิดาองค์แรก
ดูเพิ่ม
แก้หมายเหตุ
แก้- ↑ บทพะราชประวัติพระเจ้าเลนเต้ในโฮ่วฮั่นชูระบุว่าพระองค์ทรงขึ้นเป็นจักรพรรดิขณะมีพระชนมายุ 12 พรรรษา (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก) หากบันทึกนี้ถูกต้อง ปีประสูติของพระองค์ควรเป็น ค.ศ. 157
- ↑ บทพะราชประวัติพระเจ้าเลนเต้ในโฮ่วฮั่นชูระบุว่าพระองค์สวรรคตขณะมีพระชนมายุ 34 พรรษา (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก) เมื่อวันปิ่งเฉิน (丙辰) ในเดือน 4 ของศักราชจงผิง (中平) ปีที่ 6 ในรัชสมัยของพระองค์ เทียบได้กับวันที่ 18 พฤษาคม ค.ศ. 183 ในปฏิทินเกรกอรี เมื่อคำนวณแล้ว ปีประสูติของพระองค์ควรเป็น ค.ศ. 156[2]
- ↑ บทชีวประวัติพระเจ้าหวนเต้ในโฮ่วฮั่นชูระบุว่าพระเจ้าหวนเต้สวรรคตในวันติงโฉ่ว (丁丑) ในเดือน 12 ของศักราชหย่งคาง (永康) ปีที่ 1 ในรัชสมัยของพระองค์ เทียบได้กับวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 168 ในปฏิทินเกรกอรี[5]
- ↑ บทชีวปรระวัติพระเจ้าเลนเต้ในโฮ่วฮั่นชูระบุว่าพระเจ้าเลนเต้ทรงขึ้นครองราชย์ขณะพระชนมายุ 12 พรรษา (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก) ในวันเกิงจื่อ (庚子) ของเดือน 1 ในศักราชเจี้ยนหนิง (建宁) ปีที่ 1 ในรัชสมัยของพระองค์ เทียบได้กับวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 168 ในปฏิทินเกรกอรี[6]
อ้างอิง
แก้- ↑ ("เหตุทั้งนี้เพราะพระเจ้าฮั่นเต้ หาพระราชบุตรมิได้ ขอเลนเต้มาเลี้ยง จนเลนเต้ได้เสวยราชย์มีพระราชบุตรสององค์ ชื่อหองจูเปียนหนึ่ง หองจูเหียบหนึ่ง แลเมืองพระเจ้าเลนเต้เสวยราชย์นั้น มิได้ตั้งอยู่ในโบราณราชประเพณี แลมิได้คบหาคนสัตย์ธรรม เชื่อถือแต่คนอันเปนอาสัตย์ ประพฤติแต่ตามอำเภอใจแห่งพระองค์เสียราชประเพณีไป") "สามก๊ก ตอนที่ ๑". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ July 7, 2025.
- ↑ [(中平六年四月)丙辰,帝崩于南宫嘉德殿,年三十四] โฮ่วฮั่นชู เล่มที่ 8.
- ↑ ("พระเจ้าฮวนเต้เสวยราชสมบัติบำรุงราษฎรหัวเมืองอยู่เย็นเป็นสุขมาถึงยี่สิบเอ็ดปี พระชันษาสามสิบหกปีเสด็จสู่สวรรคต พระมเหสีหาพระราชบุตรมิได้ ครั้นทำการฝังพระศพแล้ว จึงประชุมขุนนางพร้อมกันเชิญเล่าเหี้ยนเชื้อพระวงศ์พระชันษาสิบสองปีมามอบราชสมบัติ ถวายพระนามพระเจ้าเลนเต้") "ตั้งฮั่น ๒๘". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ July 7, 2025.
- ↑ de Crespigny, Rafe (2003), Emperor Huan and Emperor Ling: being the Chronicle of the Later Han dynasty for the years for the years 157 to 189 AD as recorded in Chapters 54 to 59 of the Zizhi Tongjian of Sima Guang (internet ed.), Australian National University
- ↑ [(永康元年十二月)丁丑,帝崩于德阳前殿。] โฮ่วฮั่นชู เล่มที่ 7.
- ↑ [(建宁元年春正月)庚子,即皇帝位,年十二] โฮ่วฮั่นชู เล่มที่ 8.
บรรณานุกรม
แก้- ซือหม่า กวาง (ค.ศ. 1084). จือจื้อทงเจี้ยน.
- ฟ่าน เย่ (คริสต์ศตวรรษที่ 5). โฮ่วฮั่นชู.
ก่อนหน้า | พระเจ้าเลนเต้ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าหวนเต้ | จักรพรรดิจีน (ค.ศ. 168–189) |
หองจูเปียน |