พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เป็นกฎหมายไทย ประเภท พระราชบัญญัติ ตราโดย สภานิติบัญญัติแห่งชาติ, พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ลงพระปรมาภิไธยเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2550, ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 และมีผลใช้บังคับในอีกสามสิบวันให้หลัง คือ ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2550
พระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 | |
---|---|
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา: เล่ม 124/ตอนที่ 27 ก/หน้า 4/18 มิถุนายน 2550 | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ผู้ตรา | สภานิติบัญญัติแห่งชาติ |
ผู้ลงนาม | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, พระมหากษัตริย์ |
วันลงนาม | 10 มิถุนายน 2550 |
ผู้ลงนามรับรอง | พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์, นายกรัฐมนตรี |
วันประกาศ | 18 มิถุนายน 2550 (ราชกิจจานุเบกษา: เล่ม 124/ตอนที่ 27 ก/หน้า 4/18 มิถุนายน 2550) |
วันเริ่มใช้ | 17 กรกฎาคม 2550 (สามสิบวันหลังจากวันประกาศ) |
ท้องที่ใช้ | ทั่วประเทศไทย |
ผู้รักษาการ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร |
เว็บไซต์ | |
บทบัญญัติ ภาษาไทย • ภาษาอังกฤษ |
นายธงชัย พลหาญ
แก้โครงสร้าง
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การตรวจชำระ
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การนำไปปฏิบัติ
แก้ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2550 ถึงธันวาคม 2554 มีการเปิดเว็บไซต์ทั้งสิ้น 81,213 ยูอาร์แอล ประมาณร้อยละ 75 เป็นเนื้อหาและภาพดูหมิ่น หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท แม้กฎหมายกำหนดให้ศาลเป็นองค์กรผู้กลั่นกรองคำร้องให้ปิดกั้นเว็บไซต์ แต่พบว่าจากคำสั่งศาลทั้งสิ้น 156 ฉบับ มีถึง 142 ฉบับที่ศาลออกคำสั่งในวันเดียวกันกับที่กระทรวงไอทีซียื่นคำร้อง โดยในปี 2552 และ2553 ศาลมีคำสั่งปิดกั้นโดยเฉลี่ยถึง 326 ยูอาร์แอลต่อวัน และ 986 ยูอาร์แอลต่อวันตามลำดับ[1]
คดีความตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พบว่า มีคดีความทั้งสิ้น 325 คดี ซึ่งพบว่าคดีที่ขึ้นสู่ชั้นศาลเป็นคดีที่เกี่ยวกับการเผยแพร่เนื้อหาร้อยละ 66.15 ขณะที่คดีที่กระทำต่อตัวระบบหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า อาชญากรรมคอมพิวเตอร์โดยแท้ คิดเป็นร้อยละ 19 เท่านั้น[1]
วันที่ 12 เมษายน 2560 รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมลงนามประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้ประชาชนงดการติดตาม ติดต่อหรือเผยแพร่เนื้อหาข้อมูลของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และแอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชลล์ โดยอ้างคำสั่งศาลอาญาให้ระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันไม่เหมาะสมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550[2]
ตั้งแต่ปี 2561 ทางการฟ้องความผิดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 แทน[3] เช่น จากโพสต์ #ขบวนเสด็จ ที่พูดถึงการปิดถนนให้ขบวนเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ผ่านในปี 2562 ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์[4]
การวิพากษ์วิจารณ์
แก้การบัญญัติฐานความผิดที่ไม่ชัดเจน ทำให้มีการใช้มาตรา 14 (2) “ความเสียหายต่อความมั่นคง” ควบคู่กับคดีความมั่นคง และมาตรา 14 (3) “ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ร่วมกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112[1]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 งานวิจัยเผย พ.ร.บ.คอมฯไทย มุ่งเอาผิดเนื้อหามากเกินไป เสนอแก้กฎหมาย ตั้งศาลคอมพิวเตอร์
- ↑ ก.ดิจิทัลฯประกาศให้ปชช.งดติดตาม-ติดต่อ บุคคล3ราย ไม่ว่าเจตนาหรือไม่เจตนา
- ↑ Changes in Thailand’s lèse majesté prosecutions in 2018
- ↑ ศาลนัดสอบคำให้การคดีนักกิจกรรมโพสต์ประวัติศาสตร์กษัตริย์ต่าง ปท. และ #ขบวนเสด็จ ก.ย.นี้
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- บทวิเคราะห์พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์[ลิงก์เสีย] โดย ศิลป์ฟ้า ตันศราวุธ และ โทบี้ เมนเดล, พฤษภาคม 2553
- สรุปสถานการณ์การควบคุมและปิดกั้นสื่อออนไลน์ พ.ศ. 2550-2553 สถิติการใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในการดำเนินคดีและการปิดกั้นเว็บไซต์
- The Analysis of the Computer Crime Act in Thailand