พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2511
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
บทความนี้อาศัยการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิมากเกินไป |
พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2511 พระราชบัญญัติพรรคการเมืองฉบับที่ 2 ของประเทศไทยซึ่งได้ประกาศใช้แทน พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2498 ที่ถูกยกเลิกไปตามคำสั่งของ คณะปฏิวัติ ฉบับที่ 8 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2501 โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ลงพระปรมาภิไธยให้ไว้เมื่อวันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2511 โดยมี จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการและได้ประกาศใช้เมื่อวันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2511 [1]
พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2511 | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ผู้ลงนาม | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช |
วันลงนาม | 9 ตุลาคม พ.ศ. 2511 |
ผู้ลงนามรับรอง | จอมพลถนอม กิตติขจร |
วันลงนามรับรอง | 9 ตุลาคม พ.ศ. 2511 |
วันประกาศ | 15 ตุลาคม พ.ศ. 2511 |
วันเริ่มใช้ | 15 ตุลาคม พ.ศ. 2511 |
ท้องที่ใช้ | ประเทศไทย |
การยกเลิก | |
ถูกยกเลิกโดยประกาศของ คณะปฏิวัติ ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 |
สาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้คือการกำหนดให้ผู้ที่จะจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองต้องจดทะเบียนในรูปแบบเดียวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและในมาตรา 14 ได้กำหนดให้พรรคการเมืองมีสถานะเป็นนิติบุคคลซึ่งแตกต่างจากพระราชบัญญัติฉบับก่อนที่มิได้กำหนดให้พรรคการเมืองมีสถานะเป็นนิติบุคคล
นอกจากนี้ในพระราชบัญญัติฉบับนี้ยังได้กำหนดเรื่องหลักเกณฑ์ในการจัดตั้งสาขาของพรรคการเมืองขึ้นเป็นครั้งแรกและยังได้กำหนดให้ยุบพรรคการเมืองในกรณีที่สมาชิกของพรรคลดลงต่ำกว่า 500 คนและพรรคการเมืองไม่ได้รับเลือกตั้ง 2 ครั้งโดยพรรคการเมืองพรรคแรกที่ได้จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติฉบับนี้คือ พรรคสหประชาไทย ที่ได้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2511 โดยมี จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นหัวหน้าพรรค
พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2511 ถูกยกเลิกตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 9 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 [2]
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2511 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 75 ตอน 94 ก หน้า 731 15 ตุลาคม พ.ศ. 2511
- ↑ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 9 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 88 ตอน 126 ก พิเศษ หน้า 3 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514