พระยาสิงห์เสนี (สอาด สิงหเสนี)

นายพลตรี พระยาสิงห์เสนี นามเดิม สอาด สกุลสิงหเสนี เป็นขุนนางชาวสยาม ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง เช่น องคมนตรี อัครราชทูต เจ้ากรมคลังแสงสรรพาวุธ เป็นต้น

พระยาสิงห์เสนี
(สอาด สิงหเสนี)
อัครราชทูตสยาม ณ กรุงลอนดอน
ดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2442 – พ.ศ. 2445
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ก่อนหน้าพระยาวิสุทธิสุริยศักดิ์ (ม.ร.ว.เปีย มาลากุล)
ถัดไปพระยาวิสูตรโกษา (ฟัก สาณะเสน)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด7 ตุลาคม พ.ศ. 2402
เสียชีวิต16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474 (71 ปี 132 วัน)
ศาสนาพุทธ
คู่สมรสคุณหญิงหงษ์ สิงหเสนี
บุพการี
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
สังกัดกองทัพบกไทย
ยศ พลตรี
บังคับบัญชา กองทัพบก

ประวัติ แก้

พระยาสิงห์เสนี มีนามเดิมว่าสอาด เกิดเมื่อวันศุกร์ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2402 เป็นบุตรคนที่ 4 ของพระยาเพ็ชรชฎา (ดิศ สิงหเสนี) กับคุณหญิงนุ่ม ถึงปี พ.ศ. 2411 พระอินทรเทพ (ทับ ทรรพนันทน์) ขณะมีบรรดาศักดิ์เป็นหลวงสิทธิ์นายเวร ได้พาไปถวายตัวเป็นมหาดเล็กไล่กา[1]

พ.ศ. 2423 ได้ลาอุปสมบท ณ วัดโสมนัสราชวรวิหาร โดยมีสมเด็จพระวันรัตน์ (ทับ พุทฺธสิริ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เขียว จนฺทสิริ) เป็นคู่พระกรรมวาจาจารย์ บวชอยู่ 9 เดือนจึงลาสิกขาบท แล้วกลับไปรับราชการ[2]

เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2426 ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเหล่าทัพประจำกรุงปารีส ต่อมาได้เยือนหลายประเทศและเข้าเฝ้าประมุขรัฐหลายท่าน เช่น สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียในระหว่างพระราชพิธีกาญจนาภิเษก สมเด็จพระเจ้าออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดน ประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ และจักรพรรดิเมจิ[3]

เมื่อกลับมารับราชการในสยาม ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครราชสีมา ได้ถวายบังคมลาไปรับราชการในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2437[4]

วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2439 ได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรี[5] พ.ศ. 2442-2445 ไปดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำกรุงลอนดอน[6] พ.ศ. 2443-พ.ศ. 2444 เป็นอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.[7] แล้วกลับสยามในปี พ.ศ. 2445

ในปี พ.ศ. 2446 ได้ดำรงตำแหน่งปลัดทูลฉลองกระทรวงกลาโหม เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ท่านได้เข้าพิธีถือน้ำและรับแต่งตั้งเป็นองคมนตรี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2453[8] พ.ศ. 2453 เป็นเจ้ากรมคลังแสงสรรพาวุธ และในปี พ.ศ. 2455 เป็นผู้ช่วยสมุหราชองครักษ์ ถึง พ.ศ. 2456 จึงเกษียณจากราชการ

ลำดับบรรดาศักดิ์ แก้

  • 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2430 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น หลวงสาสตราธิกรณฤทธิ์ ถือศักดินา 800[9]
  • 5 กันยายน พ.ศ. 2434 เลื่อนเป็น พระประสิทธิ์ศัลการ ถือศักดินา 1000[10]
  • 4 เมษายน พ.ศ. 2437 เลื่อนเป็น พระยาประสิทธิ์ศัลการ ถือศักดินา 1,500[11]
  • 2 มกราคม พ.ศ. 2460 เลื่อนเป็น พระยาสิงห์เสนี ศรีสยาเมนทรสวามิภักดิ์ ถือศักดินา 1,500[12]

ยศ แก้

ตำแหน่ง แก้

  • 11 ตุลาคม 2455 – ราชองครักษ์เวร[14]
  • 6 กุมภาพันธ์ 2455 – ผู้ช่วยสมุหราชองครักษ์[15]
  • 11 มกราคม 2456 – ออกจากประจำการ[16]

ครอบครัว แก้

พระยาสิงห์เสนี มีบุตรธิดา 3 คนกับคุณหญิงหงษ์ สิงหเสนี (ธิดาของพระยาประชาชีพบริบาล (เหม สิงหเสนี) กับคุณหญิงเกด) ได้แก่

  1. พระยานครราชเสนี (สหัด สิงหเสนี)
  2. คุณหญิงเนื่อง บุรีนวราษฐ์ ภริยาพระยาบุรีนวราษฐ์ (ชวน สิงหเสนี)
  3. นางสาวสนิท สิงหเสนี (หม่อมสนิท กาญจนวิชัย ณ อยุธยา) หม่อมในหม่อมเจ้ารัตโนภาษ กาญจนวิชัย พระโอรสในพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชาญไชยบวรยศ

และมีบุตรธิดากับอนุภรรยาอีกหลายคน ได้แก่

  1. หลวงศรีสิงหนาท (วาด สิงหเสนี)
  2. หลวงวิเศษพจนการ (เตี้ยม สิงหเสนี)
  3. นายนิน สิงหเสนี
  4. นายโชติ สิงหเสนี
  5. เด็กหญิงสุภาพ สิงหเสนี
  6. เด็กหญิงปิ๋ว สิงหเสนี

อนิจกรรม แก้

พระยาสิงห์เสนี ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบมาตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474 นายแพทย์ หลวงประกิตเวชศักดิ์ และนายแพทย์ พระสุนทโรสถ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ช่วยกันรักษา แต่อาการยังทรุดลงเนื่องจากท่านชราภาพ[17] จนถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474 ได้รับพระราชทานโกศโถประกอบศพ ชั้นรองโกศ 2 ชั้น ฉัตรเบญจาตั้ง 4 คัน เป็นเกียรติยศ[18] และได้รับพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2475 เวลา 17:30 น. ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร[19]

เกียรติยศ แก้

เครื่องยศ แก้

พระยาสิงห์เสนี (สอาด สิงหเสนี) ได้รับพระราชทานเครื่องยศ ดังนี้

  • โต๊ะทอง
  • กาทอง
  • พานทองคำ[20]
  • คนโฑทองคำ[20]
  • กระโถนทองคำ[20]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

พระยาสิงห์เสนี (สอาด สิงหเสนี) ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งสยามและต่างประเทศ ดังนี้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์สยาม แก้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ แก้

อ้างอิง แก้

เชิงอรรถ
  1. สายสกุลสิงหเสนี, หน้า 141
  2. สายสกุลสิงหเสนี, หน้า 142
  3. สายสกุลสิงหเสนี, หน้า 143
  4. "ข้าราชการกราบถวายบังคมลา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 11 (6): 44. 6 พฤษภาคม 2437. สืบค้นเมื่อ 4 กรกฎาคม 2018.
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งองคมนตรี, เล่ม 12, ตอน 41, 12 มกราคม ณ.ศ. 114, หน้า 386
  6. "List of Thai Ambassadors in UK". สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "List of Thai Ambassadors to the U.S." สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. ราชกิจจานุเบกษา, บัญชีพระนามและนามองคมนตรี ที่พระราชทานสัญญาบัตรแล้ว, เล่ม 27, ตอน 0 ง, 1 มกราคม ร.ศ. 129, หน้า 2,273-4
  9. พระราชทานสัญญาบัตร
  10. พระราชทานสัญญาบัตร
  11. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตร, เล่ม 11, ตอน 3, 15 เมษายน ร.ศ. 113, หน้า 21
  12. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตร์บรรดาศักดิ์, เล่ม 34, ตอน , 10 กุมภาพันธ์ 2460, หน้า 3327
  13. พระราชทานสัญญาบัตร์
  14. แจ้งความกระทรวงกลาโหม เรื่อง ตั้งราชองครักษ์เวร
  15. แจ้งความกระทรวงกลาโหม เรื่อง ย้ายตำแหน่งหน้าที่ราชการ
  16. แจ้งความกระทรวงกลาโหม
  17. สายสกุลสิงหเสนี, หน้า 150
  18. ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวตาย, เล่ม 48, ตอน ง, 28 กุมภาพันธ์ 2474, หน้า 2447-8
  19. "หมายกำหนดการ ที่ 10/2475 พระราชทานเพลิงศพ พระภิกษุทรงสมณศักดิ์ และ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส พุทธศักราช 2476" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 49 (0 ง): 4287. 12 มีนาคม 2475.
  20. 20.0 20.1 20.2 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเครื่องยศ, เล่ม ๑๒ ตอนที่ ๔๑ หน้า ๒๘๕, ๑๒ มกราคม ๑๑๔
  21. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๓๐ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๙๖๓, ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๕๖
  22. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญดุษฎีมาลา, เล่ม ๑๔ ตอนที่ ๔๒ หน้า ๗๓๑, ๑๖ มกราคม ๑๑๖
  23. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๒๗ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๔๐๓, ๑๐ มกราคม ๑๒๗
  24. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญปราบฮ่อ, เล่ม ๑๕ ตอนที่ ๒๖ หน้า ๒๘๒, ๒๕ กันยายน ๑๑๗
  25. ราชกิจจานุเบกษา, นายทหารที่ได้รับพระราชทานเหรียญจักรมาลาในศก ๑๑๓, เล่ม ๑๑ ตอนที่ ๔๖ หน้า ๓๙๒, ๑๐ กุมภาพันธ์ ๑๑๓
  26. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบัน, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๒๕๓, ๑๔ มกราคม ๑๓๐
  27. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญราชินี, เล่ม ๑๕ ตอนที่ ๒๖ หน้า ๒๘๓, ๒๕ กันยายน ๑๑๗
  28. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเหรียญต่างประเทศ, เล่ม ๑๙ ตอนที่ ๔๘ หน้า ๙๑๙, ๑๕ กุมภาพันธ์ ๑๒๑
  29. 29.0 29.1 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตตราต่างประเทศ, เล่ม ๔ ตอนที่ ๓๑ หน้า ๒๔๘, ๑๕ พฤศจิกายน ๑๐๖
  30. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๖ ตอนที่ ๕๒ หน้า ๔๕๑, ๓๐ มีนาคม ๑๐๘
  31. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๘ ตอนที่ ๔๐ หน้า ๗๘๖, ๕ มกราคม ๑๒๐
บรรณานุกรม
  • คำให้การเรื่องทัพญวนในรัชกาลที่ 3. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สยามบรรณกิจ, 2460. 91 หน้า. หน้า (1)-(16). [พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายพลตรี พระยาสิงหเสนี (สอาด สิงหเสนี)]
  • สายสกุลสิงหเสนี. กรุงเทพฯ : ประยูรวงศ์พริ้นท์ติ้ง, 2541. หน้า 141-150. [วัดเทพลีลา พิมพ์เป็นบรรณาการในงานพระราชทานเพลิงศพนางสาวจวงจันทร์ สิงหเสนี]