พระยาศราภัยพิพัฒ (เลื่อน ศราภัยวานิช)

ขุนนางชาวสยาม
(เปลี่ยนทางจาก พระยาศราภัยพิพัฒ)

นาวาเอก พระยาศราภัยพิพัฒ ร.น. (6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2432 - 21 กันยายน พ.ศ. 2511) [1] นามเดิม เลื่อน ศราภัยวานิช เป็นนักหนังสือพิมพ์ชาวไทย ดำรงตำแหน่งปลัดทูลฉลอง กระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และวุฒิสมาชิก

พระยาศราภัยพิพัฒ
(เลื่อน ศราภัยวานิช)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ดำรงตำแหน่ง
11 พฤศจิกายน 2490 – 21 กุมภาพันธ์ 2491
นายกรัฐมนตรีควง อภัยวงศ์
ก่อนหน้าเดือน บุนนาค
ถัดไปหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2432
เสียชีวิต21 กันยายน พ.ศ. 2511 (79 ปี)
เชื้อชาติไทย
คู่สมรสหม่อมหลวงฉลอง ศราภัยวานิช
อาชีพนักหนังสือพิมพ์, นักเขียน, นักการเมือง, ทหารเรือ
นามปากกาศราภัย

ประวัติ

แก้

พระยาศราภัยพิพัฒ มีชื่อจริงว่า เลื่อน ศราภัยวานิช สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญรุ่นเดียวกับพระยาอนุมานราชธน และไปศึกษาต่อด้านสื่อสารมวลชน จาก School of Journalism เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย สมรสกับ หม่อมหลวงฉลอง ศราภัยวานิช

ก่อนปฏิวัติสยาม

แก้

พระยาศราภัยพิพัฒ ได้รับราชการเป็นนายเวรพิเศษ เลขาประจำตัวของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ตำแหน่งสุดท้ายเป็นเจ้ากรมเสมียนตรา และปลัดทูลฉลอง กระทรวงกลาโหม ถูกปลดออกจากราชการหลังการปฏิวัติ พ.ศ. 2475 พร้อมกับทำงานด้านหนังสือพิมพ์กรุงเทพเดลิเมล์ ไปพร้อมกับนายหลุย คีรีวัต นายสอ เศรษฐบุตร เป็นต้น

หลังปฏิวัติสยาม

แก้

หนังสือพิมพ์กรุงเทพเดลิเมล์ที่พระยาศราภัยพิพัฒ นั้นได้ถูกเพ่งเล็งจากฝ่ายรัฐบาล ว่าเป็นสื่อที่สนับสนุนการปกครองแบบเก่า หลังเหตุการณ์กบฏบวรเดช ในปี พ.ศ. 2476 และพระยาศราภัยพิพัฒเขียนบทความชื่อ "ฟ้องในหลวง" โจมตี กรณีนายถวัติ ฤทธิเดช ยื่นฟ้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อศาลอาญา อีกทั้งยังเดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ที่ปีนัง[ต้องการอ้างอิง] พระยาศราภัยพิพัฒและพวกถูกหมายจับในข้อหาแจกใบปลิวเถื่อนและปลุกระดมการกบฏ จึงหลบหนีด้วยการลงเรือตังเกหนีลงทะเล แต่ถูกจับได้ที่อ่าวไทย

หลังจากนั้นจึงถูกส่งไปจำคุกในฐานะนักโทษการเมือง ที่เกาะตะรุเตา พร้อมกับนักโทษคนสำคัญอีกหลายคน จนกระทั่งในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2482 เวลาประมาณ 20.00 น. พระยาศราภัยพิพัฒ พร้อมกับเพื่อนนักโทษอีก 4 คน คือ พระยาสุรพันธ์เสนี ขุนอัศนีรัถการ นายหลุย คีรีวัต และนายแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ ได้หลบหนีจากที่คุมขังเกาะตะรุเตาในคืนเดือนหงาย พร้อมกับพกมีดชายธงคนละเล่ม ซ่อนตัวในแหเรือตังเก ไปยังเกาะลังกาวีของมาเลเซีย พร้อมกับได้ขอลี้ภัยการเมือง ณ ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งขณะนั้นยังเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักรอยู่ ซึ่งทั้งหมดได้สาบานกันว่าจะสู้ตายหากถูกจับได้

บุตรชายของพระยาศราภัยพิพัฒ ชื่อ เลอพงษ์ ศราภัยวานิช เป็นนิสิตคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางไปเยี่ยมบิดาระหว่างปิดภาคเรียน และเขียนบทความชื่อ "เยี่ยมพ่อ" ตีพิมพ์ในวารสารของมหาวิทยาลัย เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2484 ได้ถูกคำสั่งของ พันเอกประยูร ภมรมนตรี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัย ให้คัดชื่อออกจากการเป็นนักศึกษา [1]

ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ได้ร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร ทำหน้าที่เป็นโฆษกสถานีวิทยุของออสเตรเลีย ภาคภาษาไทย ให้การสนับสนุนเสรีไทย ภายหลังสงครามที่ได้มีการนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองทั้งหมดแล้ว พระยาศราภัยพิพัฒได้พ้นโทษออกมา และได้แต่งหนังสือชื่อ ฝันร้ายของข้าพเจ้า ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตทางการเมืองและการถูกคุมขังที่คุกตะรุเตา พร้อมกับได้ร่วมกับเพื่อน ๆ นักเขียนและผู้มีอุดมการณ์ทางการเมืองเดียวกัน ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้น ในพ.ศ. 2489 และได้เป็น ส.ส.ของพรรคอีกด้วย และได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ หลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2490

ในบั้นปลายชีวิต พระยาศราภัยพิพัฒ ได้รับเชิญให้เขียนบทวิเคราะห์การเมือง ในหนังสือพิมพ์ "ปิยมิตร" เป็นครั้งคราว ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2503 ในรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้เขียนพาดพิงถึงเรือนจำลาดยาว ว่าเป็น "สถานที่ราชการที่ไม่มีวันเดือนปี" (หมายความว่า มีนักโทษการเมืองที่ถูกคุมขังโดยไม่รู้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อไร) ทำให้ตำรวจสันติบาลเรียกตัวบรรณาธิการไปสอบสวน พระยาศราภัยพิพัฒจึงได้ประกาศหยุดเขียน จากนั้นไม่นาน เจ้าพนักงานการพิมพ์ก็ได้มีคำสั่งปิดหนังสือพิมพ์ปิยมิตรลง

อนิจกรรม

แก้

พระยาศราภัยพิพัฒ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2511 ด้วยโรคหัวใจ อายุ 79 ปี

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 แถมสิน รัตนพันธุ์ตำนาน "ลึก(ไม่)ลับ"' ฉบับ ทระนง ฅนหนังสือพิมพ์. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์ร่วมด้วยช่วยกัน, พ.ศ. 2548. 160 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-9785-33-9
  2. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า เก็บถาวร 2022-08-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๘๕ ตอนที่ ๔๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๖, ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๑๑
  3. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๕ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๙๕, ๒๒ เมษายน ๒๔๗๑
  4. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-10-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๔๗๙, ๑ มกราคม ๒๔๖๗
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญ เก็บถาวร 2022-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๐ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๔๔๒, ๗ มกราคม ๒๔๖๖