พระยาราชสงคราม (กร หงสกุล)
พลเรือตรี พระยาราชสงคราม (กร หงสกุล) (16 พฤศจิกายน 2406 – 14 ธันวาคม 2457) เป็นขุนนาง นายทหารเรือชาวไทย อดีตองคมนตรี อดีตมรรคนายก วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และเป็นนายช่างผู้ควบคุมการต่อ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ลำปัจจุบัน
พระยาราชสงคราม | |
---|---|
เกิด | 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2406 |
ถึงแก่กรรม | 14 ธันวาคม พ.ศ. 2457 (51 ปี) |
ภรรยาเอก | เยื้อน อรุณ สงวน |
บิดามารดา |
|
ญาติ | พระสามภพพ่าย (เจริญ) (พี่ชาย) พระนวโกวิท (เลื่อน) (พี่ชาย) |
ประวัติ
แก้พระยาราชสงคราม (กร หงสกุล) เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 12 ปีกุน เบญจศก จุลศักราช 1125 ตรงกับวันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2406 เป็นบุตรชายของ พระยาราชสงคราม (ทัด หงสกุล)
พระยาราชสงครามสมรสกับภรรยาเอกชื่อ เยื้อน ซึ่งเป็นบุตรสาวของ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) แต่ไม่มีบุตรธิดาด้วยกัน แต่พระยาราชสงครามมีบุตรธิดาจำนวน 5 คนที่เกิดจากอนุภรรยา 2 คน
เกิดจากอนุภรรยาชื่อ อรุณ จำนวน 4 คนคือ
- นายเตียบ เกิดเมื่อปีจอ พ.ศ. 2453
- นายจวบ เกิดเมื่อปีกุน พ.ศ. 2454
- นายสืบ เกิดเมื่อปีฉลู พ.ศ. 2456
- ดวงกมล (ญ) เกิดเมื่อปีขาล พ.ศ. 2457
เกิดจากอนุภรรยาชื่อ สงวน จำนวน 1 คนคือ
- เจียด เกิดเมื่อปีวอก พ.ศ. 2451
ด้านการศึกษา พระยาราชสงครามได้รับการศึกษาวิชางานช่างจาก พระยาราชสงคราม (ทัด) ผู้เป็นบิดาพร้อมกับพี่น้องอีก 2 คนคือ พระยาสามภพพ่าย (เจริญ) และ พระนวโกวิท (เกลื่อน)
ด้านการรับราชการ พระยาราชสงครามได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2422 จากนั้นจึงได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทด้วยการเป็นนายช่างนายกองในการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์สถานที่สำคัญ เช่น
ต่อมาท่านได้รับหน้าที่ในการออกแบบและควบคุมการต่อเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลำใหม่แทนเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ซึ่งทรุดโทรมยากแก่การบูรณะซ่อมแซมโดยเรือพระที่นั่งลำนี้ต่อขึ้นในปลายรัชกาลที่ 5 และมาแล้วเสร็จในต้นรัชกาลที่ 6
หลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติได้ไม่ถึงปีพระยาราชสงครามก็กราบถวายบังคมลาออกจากราชการในตำแหน่ง ผู้บัญชาการกรมทหารเรือฝ่ายบก รับเบี้ยบำนาญเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2457[1]ขณะอายุได้ 51 ปีโดยได้พระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2460 ที่ วัดเครือวัลย์วรวิหาร [2]
ตำแหน่งหน้าที่ราชการและหน้าที่อื่น ๆ
แก้บรรดาศักดิ์และยศทหาร
แก้บรรดาศักดิ์
แก้- พ.ศ. 2429 ขุนพรหมรักษา ถือศักดินา ๘๐๐[8]
- 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2436 พระราชโยธาเทพ ถือศักดินา ๑๖๐๐ [9]
- 20 เมษายน พ.ศ. 2444 พระยาราชสงคราม ถือศักดินา ๓๐๐๐[10]
ยศทหาร
แก้- พันโท
- เรือเอก
- 22 มีนาคม พ.ศ. 2449 พลเรือตรี[11]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2451 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)[12]
- พ.ศ. 2444 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)[13]
- พ.ศ. 2442 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)[14]
- พ.ศ. 2435 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))[15]
- พ.ศ. 2444 – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[16]
- พ.ศ. 2452 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 2 (จ.ป.ร.2)[17]
- พ.ศ. 2442 – เหรียญราชรุจิทอง รัชกาลที่ 5 (ร.จ.ท.5)[18]
- พ.ศ. 2441 – เหรียญราชินี (ส.ผ.)[19]
อ้างอิง
แก้- ↑ ข่าวถึงอนิจกรรม
- ↑ พระราชทานเพลิงศพ
- ↑ การพระราชพิธีศรีสัจจปานกาลถือน้ำพระพิพัฒสัตยาและตั้งองคมนตรี
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรมรรคนายก
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตร์ทหารเรือ
- ↑ ประกาศกรมทหารเรือ
- ↑ แจ้งความกระทรวงทหารเรือ
- ↑ ข่าวราชการ (หน้า ๓๑๖)
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตร
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรทหารเรือ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าฝ่ายหน้า, เล่ม ๒๕ ตอนที่ ๓๕ หน้า ๑๐๑๐, ๒๙ พฤศจิกายน ๑๒๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๘ ตอนที่ ๔๖ หน้า ๘๗๓, ๑๖ กุมภาพันธ์ ๑๒๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๖ ตอนที่ ๔๔ หน้า ๖๒๕, ๒๘ มกราคม ๑๑๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญดุษฎีมาลา เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๙ ตอนที่ ๔๔ หน้า ๓๘๘, ๒๙ มกราคม ๑๑๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญจักรมาลา, เล่ม ๑๘ ตอนที่ ๒๐ หน้า ๒๙๗, ๑๘ สิงหาคม ๑๒๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบันฝ่ายหน้า, เล่ม ๒๖ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๖๒๙, ๖ มีนาคม ๑๒๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญราชรุจิ, เล่ม ๑๖ ตอนที่ ๕๒ หน้า ๗๑๔, ๒๕ มีนาคม ๑๑๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญราชินี, เล่ม ๑๕ ตอนที่ ๒๖ หน้า ๒๘๓, ๒๕ กันยายน ๑๑๗